สบส.-กรมอนามัย ย้ำหากอนุญาตให้เปิดกิจการสปา-ร้านนวด ต้องปลอดภัยทั้งผู้ให้และรับบริการ

25 เมษายน 2563, 15:41น.


           นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.)  กล่าวถึง แนวทางและการเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดสปา นวดเพื่อสุขภาพและนวดเพื่อเสริมความงาม และการปฏิบัติตัวคลินิกเสริมความงามว่าตอนนี้ยังอยู่ในกลุ่มที่ยังไม่ได้รับอนุญาต แต่ก็ต้องเตรียมการเรื่องนี้ให้ดี เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ยอมรับว่าการนวดถือเป็นการสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งต้องเตรียมการอย่างเข้มข้น และรอสถานการณ์หากรัฐบาลประกาศผ่อนปรนอนุญาตกิจการแต่ละประเภทไป


          ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.)  กล่าวว่า ผู้ประกอบกิจการควรกำหนดจุดคัดกรองในการตรวจวัดอุณหภูมิของผู้รับบริการ และผู้ให้บริการด้วย ต้องรักษามาตรฐานสถานที่ให้มีความปลอดภัย เก้าอี้นวดต้องมีความห่างอย่างน้อย 1 เมตร เบาะนวดต้องมีม่านกั้นแต่ละห้องชัดเจน ผู้รับบริการ 1 คนต่อ1 ห้องเท่านั้น ผู้ให้บริการและผู้รับบริการต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งตลอดการบริการ พร้อมทั้งต้องดูแลอุปกรณ์เครื่องมือให้มีความสะอาดพร้อมใช้งาน ต้องล้างมือทุกครั้งที่ให้บริการ อีกทั้งพนักงานต้อนรับและแม่บ้านทำความสะอาดก็ต้องปฏิบัติเรื่องการป้องกันและความสะอาดตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขไปตรวจสอบอย่างเคร่งครัดก่อนเปิดให้บริการกับประชาชน


          พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานประกอบการแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่


1.กลุ่มความเสี่ยงต่ำที่ใช้สถานที่เปิดกลางแจ้งและมีคนไม่หนาแน่น ซึ่งผู้ประกอบกิจการต้องดูแลพื้นที่ของตนเอง โดยเฉพาะผู้ให้บริการต้องปกป้องตนเอง ไม่มีอาการป่วยและใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง พร้อมทั้งปรับรูปแบบการจัดการให้มีการเส้นระยะห่าง และลดการสัมผัสระหว่างผู้รับบริการ  อีกทั้งต้องดูแลสถานที่บริการที่ต้องเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาด โดยเฉพาะจุดสัมผัสร่วม จัดการขยะเหมาะสม จัดให้มีที่ล้างมือเพียงพอ กำหนดเส้นทางเข้าออกที่เหมาะสม และต้องมีจุดคัดกรอง  


2.กลุ่มความเสี่ยงปานกลาง เป็นสถานที่ปิด แต่คนไม่มาก หรือสามารถปรับรูปแบบให้ควบคุมได้ ซึ่งผู้ประกอบการต้องจำกัดผู้รับบริการตามขนาดพื้นที่ ลดรอบระยะเวลาบริการต่อคนให้สั้นขึ้น สถานที่จัดให้มีการระบายอากาศที่เหมาะสม จัดลงทะเบียนผู้รับบริการ 


3.กลุ่มความเสี่ยงสูง เป็นสถานที่ปิดและคนแออัดหนาแน่นที่ขณะนี้ยังจำเป็นต้องให้เป็นพื้นที่ปิดต่อไป 


กรมอนามัย ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม “ไทย สตอป โควิด” ขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ และเพื่อปักหมุดพื้นที่ที่มีความพร้อมให้บริการ โดยผู้ประกอบการและประชาชนสามารถร่วมมือกันเตรียมความพร้อมด้วยการประเมินตนเองตามแนวปฏิบัติว่าสามารถทำได้หรือไม่ได้อย่างไร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคดังกล่าว


 


CR:เฟสบุ๊ก กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 


 
ข่าวทั้งหมด

X