เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะซึมตัว ดัชนีความเชื่อมั่น พ.ย.ลดลง

ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2557 ยังมีสัญญาณการทรงตัว ในขณะที่สถานการณ์ค่าครองชีพยังมีแนวโน้มที่สูง ประชาชนมีรายได้น้อย คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 1 นับว่าเป็นซึมตัวของเศรษฐกิจในรอบ 40 ปี ส่วนปัญหาหนี้ครัวเรือนยังเป็นปัญหาสำคัญ อาจส่งผลทำให้ช่วงเทศกาลปีใหม่ไม่คึกคัก ดังนั้นภาครัฐควรเร่งอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบโดยด่วน แม้ราคาน้ำมันที่ลดลงจะทำให้ประหยัดเงินในกระเป๋าของประชาชนทั้งประเทศเฉลี่ย 2 พันล้านบาทต่อเดือนก็ตาม

ส่วนในปีหน้าทางศูนย์พยากรณ์ได้คาดการณ์ตัวเลขการส่งออกขยายตัวได้ที่ร้อยละ 4 การท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวในไตรมาส 1 ของปีหน้า ช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม และเศรษฐกิจไทยโดยรวมจะขยายตัวร้อยละ 3-4

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นในเดือนพฤศจิกายน 2557 ปรับตัวลดลงทุกดัชนี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค อยู่ที่ระดับ 79.4 ลดลงจากเดือนตุลาคมที่ระดับ 80.1 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ระดับ 68.8 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำ อยู่ระดับ 73.1 และ ดัชนีความเชื่อมั่น เกี่ยวกับรายได้ในอนาคต ลดลงเหลือ 96.3

สาเหตุที่ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวลดลงเป็นที่น่าแปลกใจนั้น ได้หารือกับหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ทราบว่าเศรษฐกิจยังมีสัญญาณซึมตัว จากปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำแทบทุกรายการ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับไทยในรอบ 40 ปี แม้แต่ช่วงที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 2540 วิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐฯ และมหาอุทกภัยในปี 2554 ไทยก็ไม่เคยเจอกับปัญหาราคาสินค้าเกษตรสำคัญๆตกต่ำขนาดนี้โดยเฉพาะข้าว ยางพารา ซึ่งเกี่ยวข้องกับเกษตรกรส่วนใหญ่ของประเทศ ทำให้เม็ดเงินที่ จะเข้าหมุนเวียนจับจ่ายใช้สอยมีน้อยลง ประกอบกับเศรษฐกิจไทยในปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 1 ทำให้ ชาวนาและผู้มีรายได้น้อย มีหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น รวมทั้ง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มีเม็ดเงินออกมาช้าจากการเบิกจ่ายงบลงทุนช้า และการจ่ายเงินช่วยเหลือให้ชาวนาไร่ละ 1 พันบาทที่ยังมีความล่าช้า จากขั้นตอนการพิสูจน์สิทธิ์ในที่นา ส่งผลทำให้ความหวังของคนเริ่มลดลง

..