ประธานาธิบดีแอนเดรส มานูเอล โอบราดอร์ แห่งเม็กซิโก เปิดเผยว่า เม็กซิโกจะเพิ่มการใช้จ่ายในโครงการเพื่อสังคมและโครงการโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 25,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อพยุงเศรษฐกิจของประเทศที่ประสบภาวะถดถอย เนื่องจากการใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังมีนักเศรษฐศาสตร์หลายคน เตือนว่า ยังคงมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจของเม็กซิโกจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรง หากไม่ได้รับการสนับสนุนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม คำประกาศของประธานาธิบดีในครั้งนี้ แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการดำเนินงานที่ล่าช้า แต่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนมีความเห็นว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดี เนื่องจากประธานาธิบดีโอบราดอร์เป็นผู้ที่มีนโยบายการใช้จ่ายงบประมาณรัฐอย่างประหยัด และยังคงยึดมั่นที่จะไม่สร้างหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น รวมถึงในการดำเนินนโยบายพยุงเศรษฐกิจครั้งนี้ที่จะเป็นการโยกย้ายเงินงบประมาณจากส่วนงานต่าง ๆ มาดำเนินการ ร่วมด้วยการออกพันธบัตรมูลค่า 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (21 เม.ย.) ธนาคารกลางเม็กซิโก ออกมาตรการกระตุ้นทางการเงินมูลค่า 31,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯและการลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อสนับสนุนระบบการเงิน
...