ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน 2563

อังกฤษ ทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 กับคน 23เม.ย.

           นายแมตต์ แฮนค็อค รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ เปิดเผยว่า อังกฤษสนับสนุนด้านการเงินให้กับคณะนักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด 20 ล้านปอนด์ (801.5 ล้านบาท) และ มหาวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน วิจัยทดลองวัคซีนจำนวน 22.5 ล้านปอนด์ (901.7 ล้านบาท) ซึ่งในวันนี้ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด จะทดลองกับคนเป็นอาสาสมัครสุขภาพร่างกายแข็งแรง หากการทดลองประสบความสำเร็จ รัฐบาลจะเป็นผู้ลงทุนผลิตวัคซีน

          นายแฮนค็อค เคยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่รักษาหายแล้ว เปิดเผยว่า วัคซีนที่เตรียมจะทดลองกับคน มีชื่อว่า แชดออกซ์วัน เอ็นคอฟ-นายน์ทีน (ChAdOx1 nCoV-19) คณะนักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด นำไวรัสตั้งต้นมาจากลิงชิมแปนซี ก่อนที่จะนำมาตัดต่อพันธุกรรม เพื่อให้ไวรัสนั้นมีเชื้อโควิด-19 กระบวนการทดลองมีอัตราความสำเร็จที่ประมาณร้อยละ 80 แต่นายแฮนค็อค ยอมรับว่า ถึงขั้นตอนนี้ยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากเป็นการพัฒนาวัคซีนแบบเร่งรัด ซึ่งหากเป็นช่วงเวลาปกติ การจะพัฒนาวัคซีนให้มาถึงขั้นนี้ได้ ต้องใช้เวลาหลายปี

เยอรมนี จะเริ่มทดลองเชิงคลินิกครั้งแรกของวัคซีนที่ใช้กับโรคโควิด-19

           สถาบันที่ควบคุมการพัฒนาวัคซีนของเยอรมนี หรือ พีอีไอ ออกแถลงการณ์ว่า สถาบันอนุญาตให้มีการทดสอบเชิงคลินิกเป็นครั้งแรกของวัคซีนที่ใช้กับโรคโควิด-19 ในเยอรมนี บริษัทไบโอเอนเท็ค ของเยอรมนี กับ บริษัทไฟเซอร์ บริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ กับอาสาสมัคร ทดลองใช้วัคซีนอาร์เอ็นเอ ซึ่งเป็นการทดลองวัคซีนในทางคลินิคที่ได้รับอนุญาตเป็นประเทศที่ 4 ของโลกและเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาวัคซีนให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การอนุมัติครั้งนี้เป็นผลมาจากการประเมินอย่างรอบคอบเกี่ยวกับผลดีและผลเสียของวัคซีนที่ใช้ทดลอง

           การทดสอบในเยอรมนี จะใช้อาสาสมัครที่มีสุขภาพดี 200 คน อายุระหว่าง 18-55 ปี จะถูกฉีดวัคซีนอาร์เอ็นเอ หลากหลายแตกต่างกันไป ส่วนการทดสอบระยะที่สอง จะเพิ่มอาสาสมัครที่เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเข้าไปด้วย

          บริษัทไบโอเอ็นเท็ค กล่าวว่า เร็วๆนี้จะเริ่มการทดสอบ ขณะที่ สถาบันพีอีไอ กล่าวว่า จะเริ่มการทดลองในเยอรมนีในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

เวียดนาม เตรียมผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ยกเว้นเมืองชายแดน

          นายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุก ของเวียดนาม กล่าวว่า เวียดนามได้รับคำชื่นชมเรื่องการควบคุมการระบาดของโควิด-19 และไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่มาเป็นเวลาเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว สถาบันจอห์น ฮอปกิ้นส์ รายงานเมื่อเวลา 05.38 น. เวียดนามมีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 268 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต ในกลุ่มผู้ติดเชื้อมีถึง 223 คน หายป่วยแล้ว เวียดนามใช้หลากหลายแนวทางร่วมกันไม่ว่าจะเป็นการกักกันโรคในกลุ่มประชาชนหลายหมื่นคน ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดและตรวจโรค ทำให้ควบคุมสถานการณ์ได้พบการระบาดในกลุ่มขนาดเล็ก ขณะเดียวกัน เวียดนาม อาจได้รับข้อมูลสำคัญๆจากจีนมาตั้งแต่ช่วงต้นๆของการแพร่ระบาด นอกจากนี้แล้ว เวียดนาม เป็นประเทศที่มีอัตราส่วนการตรวจเชื้อเพื่อยืนยันเคสโควิด-19 สูงสุดในโลก 

          สถานการณ์ล่าสุดทำให้เวียดนามเตรียมผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ แต่ยังมีบางพื้นที่ของเวียดนามที่จะยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์ต่อไป เช่น เมืองที่อยู่ชายแดนติดกับประเทศจีน และหมู่บ้านสองแห่งชานกรุงฮานอย และปิดการดำเนินธุรกิจบางอย่างที่ไม่จำเป็น 

เมืองฮาร์บิน เมืองเอกของมณฑลเฮย์หลงเจียง ปิดเมืองเหมือนอู่ฮั่น

          สื่อของทางการจีน รายงานว่า เทศบาลเมืองฮาร์บิน ที่เป็นเมืองเอกของมณฑลเฮย์หลงเจียง ของจีน ที่มีชายแดนติดต่อกับรัสเซียประกาศใช้มาตรการปิดกั้นชุมชนที่อยู่อาศัยและหมู่บ้านทุกแห่ง ในลักษณะเดียวกับเมืองอู่ฮั่น ประกาศใช้ในช่วงแรกของการระบาดของโควิด-19 เมื่อเดือนม.ค.ปีนี้

-ห้ามคนในท้องถิ่นและยานพาหนะใด ๆ ที่ไม่มีป้ายทะเบียนท้องถิ่นเข้าไปในเมือง

-คนที่เดินทางเข้า-ออกหมู่บ้าน จะต้องถูกตรวจสอบ ต้องแน่ใจว่ามีสุขภาพดี

-ส่วนคนที่จะออกนอกบ้าน ต้องสวมหน้ากากอนามัย และต้องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย

          ในเมืองฮาร์บิน มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันแล้ว 52 คน ทั้งหมดมีจุดเชื่อมโยงกลับไปถึงนักเรียนชาวจีนที่กลับมาจากนิวยอร์ก สหรัฐฯ เมื่อช่วงกลางเดือนมี.ค.

ทารก-เด็กเล็ก 8 คน ในศูนย์พักพิงเด็กกำพร้า โตเกียว ติดเชื้อโควิด-19

           ทางการกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รายงานว่า หลังจากที่มีพนักงานคนหนึ่งในศูนย์พักพิง สถานที่พักพิงของเด็กกำพร้า หรือเด็กที่แยกจากพ่อแม่ เนื่องจากถูกละเมิดหรือถูกทอดทิ้ง มีผลการตรวจติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 เม.ย.และเข้ารับการรักษา จากนั้นแพทย์ได้ให้พนักงานทั้ง 46 คนและเด็กๆ ในศูนย์ต้องแยกกักตัวเพื่อตรวจสอบอาการ ปรากฏว่ามีทารกและเด็กเล็กจำนวน 8 คน ติดเชื้อโควิด-19 และถูกส่งต่อไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์โตเกียว ไซเซไค แพทย์ระบุว่า ทั้งหมดไม่มีไข้ ขณะที่ อีก 21 คนมีผลการทดสอบเป็นลบ แต่ยังต้องอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

โฆษกจีน ตอบโต้ รัฐมิสซูรี ฟ้องเรียกค่าเสียหายว่า ‘ข้อกล่าวหาไร้สาระ’

          หลังจากที่รัฐมิสซูรี สหรัฐฯ เป็นรัฐแรกของสหรัฐฯ ยื่นฟ้องร้องรัฐบาลจีน ปกปิดข้อมูลเรื่องโควิด-19 ทำให้เกิดการระบาดไปทั่วโลก นายเกิ่ง ส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงตอบโต้ว่า ข้อกล่าวหานี้ ไร้สาระ ไม่มีข้อเท็จจริงพร้อมยืนยันว่า จีนได้แจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการระบาดให้สหรัฐฯทราบตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.เป็นต้นมา การให้ร้ายด้วยการฟ้องร้องดังกล่าว ไม่ได้ทำให้สหรัฐฯรับมือกับโรคระบาดภายในประเทศได้ และยังไม่เป็นผลดีต่อความร่วมมือระหว่างประเทศด้วย

          นายเอริก ชมิตต์ อัยการสูงสุดรัฐมิสซูรี เป็นโจทก์ฟ้องร้องในคดีแพ่ง กล่าวหา จีนหลายข้อหา รวมทั้งความประมาทเลินเล่อ คำฟ้องยังระบุว่า รัฐมิสซูรีและพลเมืองของรัฐได้รับความลำบากทางด้านเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จึงขอเรียกร้องเงินชดเชย และกล่าวหารัฐบาลจีนทำให้สถานการณ์โรคระบาดใหญ่เลวร้ายลงไปอีก ด้วยการกักตุน หน้ากากอนามัยและชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE)

กองทัพเรือสหรัฐฯ เผยลูกเรือกว่า 700 คนบนเรือบรรทุกเครื่องบินติดโควิด-19

          ทหารเรือบนเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสเวลต์ (USS Theodore Roosevelt) มีผลการตรวจยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากกว่า 700 คน โดยเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ชั้นนิมิตซ์ลำนี้ ปัจจุบันจอดเทียบท่าอยู่ที่เกาะกวม กองทัพเรือสหรัฐฯ เปิดเผยว่า มีการตรวจสอบทหารเรือและเจ้าหน้าที่ไปแล้วประมาณร้อยละ 94 และส่วนใหญ่เป็นลบ แต่ในส่วนที่มีผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อ มีอยู่ 9 นายที่ต้องส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาล โดยกองทัพเรือได้ร่วมกับศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับการระบาดบนเรือแล้ว

รัฐนิวยอร์ก สั่งทีมฉุกเฉินงดกู้ชีพผู้ป่วยชีพจรหยุดเต้น 

          เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ ได้รับคำแนะนำให้ใช้เวลา 20 นาที ในความพยายามกู้ชีพผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะหัวใจหยุดเต้น ล่าสุด ในบันทึกเอกสารที่กระทรวงสาธารณสุขรัฐนิวยอร์ก เผยแพร่ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ยกเลิกคำแนะนำดังกล่าว  เนื่องจากโรงพยาบาลต่างๆในนิวยอร์ก มีผู้ป่วยติดเชื้อล้นโรงพยาบาลและกำลังเสียชีวิต และโรงพยาบาลไม่มีเตียงในห้องไอซียูเพียงพอที่จะรองรับ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งจำเป็นระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉิน (EMS) ด้วยการลดการสัมผัสกับผู้ป่วย รวมถึงการประหยัดการใช้ทรัพยากรต่างๆและรับประกันว่าเครื่องไม้เครื่องมือจะถูกใช้อย่างดีที่สุดเพื่อปกป้องชีวิตผู้คนจำนวนมาก 

          คำสั่งดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์แสดงความไม่พอใจ โดยระบุว่า เป็นการไม่ให้ผู้ป่วยมีโอกาสครั้งที่ 2 ในการรอดชีวิต นายโอเวน บาร์ซิเลย์ ประธานสหภาพแรงงาน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉินเป็นสมาชิก กล่าวว่า งานของเราคือกู้ชีพคนไข้ให้กลับมามีชีวิต 

‘ทรัมป์’ ชื่นชมรัฐต่างๆที่เริ่มคลายล็อก ผ่อนปรนเปิดธุรกิจ

          ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ชื่นชมมาตรการต่างๆที่รัฐจำนวนหนึ่งนำมาใช้ในการกลับมาเปิดเศรษฐกิจ ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นรัฐที่นำโดยผู้ว่าการจากพรรครีพับลิกัน แม้มีเสียงเตือนว่ามีความเป็นไปได้ที่โรคโควิด-19 จะกลับมาแพร่ระบาดระลอกใหม่ พบว่า ประมาณ 6 รัฐ ส่วนใหญ่เป็นรัฐทางใต้ของสหรัฐฯ ที่เริ่มเปิดดำเนินการทางด้านเศรษฐกิจ รวมถึงจอร์เจีย เซาท์แคโรไลนาและเทนเนสซี ซึ่งล้วนแต่มีสมาชิกรีพับลิกันเป็นผู้ว่าการรัฐ ได้ผ่อนปรนคำแนะนำให้หยุดอยู่บ้าน เปิดทางให้ธุรกิจที่ไม่มีความจำเป็นบางส่วนกลับมาเปิดทำการ เพื่อหวังฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในรัฐ

          เกรก แอบบอตต์ แห่งเทกซัส ส่งสัญญาณว่ามีความตั้งใจเริ่มผ่อนคลาย ยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ และในสัปดาห์หน้าจะมีการแถลงรายละเอียดเพื่อเตรียมเปิดเศรษฐกิจของรัฐช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค.

          ไบรอัน เคมป์ ผู้ว่าการรัฐจอร์เจียจากรีพับลิกัน อนุญาตให้โรงยิม ร้านทำผมและลานโบว์ลิ่ง รวมถึงร้านสักและร้านนวดกลับมาเปิดบริการได้ในวันศุกร์ 24 เม.ย.จากนั้นในสัปดาห์หน้า จะเปิดโรงภาพยนตร์และร้านอาหารในสัปดาห์หน้า  

WHO ห่วงการระบาดของโควิด-19 ในทวีปอเมริกาและทวีปแอฟริกา

          นายเทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก(WHO) ระบุว่า มีบางประเทศที่คิดว่าพวกเขาควบคุมไวรัสโควิด-19 ได้แล้ว แต่ WHO ได้รับข้อมูลยืนยันเรื่องการติดเชื้อของผู้ป่วยรายใหม่ ขณะที่ ในทวีปอเมริกาและทวีปแอฟริกาก็กำลังเผชิญปัญหาแนวโน้มการแพร่ระบาดที่ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น นายเทดรอส ยืนยันว่า หน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติประกาศประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศในเวลาที่เหมาะสมคือวันที่ 30 ม.ค.เพื่อให้ประเทศต่างๆได้เตรียมการและวางแผนแก้ปัญหา พร้อมแสดงท่าทีไม่ใส่ใจต่อเสียงเรียกร้องที่ขอให้เขาลาออกจากตำแหน่ง

แฟ้มภาพ