นายแมทท์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เป็นผู้พัฒนา (ChAdOx1 nCoV-19) จะเริ่มการทดลองในมนุษย์ในวันพฤหัสบดีนี้ (23 เม.ย.) โดยรัฐบาลจะสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมกับคณะผู้วิจัยต่อไป ซึ่งนายแฮนค็อก ยอมรับโดยทั่วไปว่าการพัฒนาวัคซีนมาถึงขั้นการทดสอบในมนุษย์ต้องใช้เวลาหลายปี การทดสอบในครั้งนี้จึงเป็นความก้าวหน้าที่เร็วกว่าปกติ หากพบว่ามีประสิทธิภาพ และปลอดภัย สหราชอาณาจักรก็พร้อมที่จะเดินหน้าการผลิตเพื่อให้มีวัคซีนเพียงพอสำหรับทุกคนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ซึ่งในเวลาเดียวกันนี้ ยังมีการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 จากมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ในกรุงลอนดอน และบริษัทสตาร์ทอัพด้านไบโอเทคโนโลยีในอิตาลี ขณะที่เนเธอร์แลนด์ประกาศรับอาสาสมัครเพื่อเข้ารับการทดลองวัคซีนที่พัฒนามาจากวัคซีนป้องกันวัณโรคในเด็กแล้ว
ส่วนที่เยอรมนี สถาบันพอล เอห์ลิช (Paul Ehrlich Institute:PEI) ซึ่งเป็นสถาบันที่ควบคุมการพัฒนาวัคซีนของเยอรมนี ออกประกาศอนุญาตให้มีการทดสอบเชิงคลินิกเป็นครั้งแรกของวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทไบโอเอนเท็ค (BioNTech) ของเยอรมนี กับอาสาสมัคร 200 คน อายุระหว่าง 18-55 ปี ซึ่งทำให้เยอรมนี เป็นประเทศที่ 4 ของโลกที่มีการทดสอบเชิงคลินิก ซึ่งทางสถาบันระบุว่า การอนุญาตในครั้งนี้ มีการประเมินอย่างรอบคอบเกี่ยวกับผลดีและผลเสียของวัคซีนที่ใช้ทดลองแล้ว จากนั้นในการทดสอบระยะที่สอง จะเพิ่มอาสาสมัครที่เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเข้าไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะที่สถาบันฯ ระบุว่า การทดสอบจะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่บริษัทไบโอเอนเท็ค ระบุว่า การทดสอบจะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้
ซึ่งนอกจากนี้แล้ว ไบโอเอนเท็ค ยังมีความร่วมมือกับบริษัทไฟเซอร์ จากสหรัฐฯ ในการพัฒนาวัคซีน (BNT162) ที่จะมีการทดสอบทางคลินิกในสหรัฐฯด้วย
...