การตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงติดโรคโควิด-19 ทั่วประเทศ นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ระบุว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.จนถึงวันที่ 17 เม.ย. 2563 มีการตรวจคัดกรองประชาชนกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ไปแล้ว 151,460 คน แบ่งเป็น
-104,692 คน ตรวจในห้องปฏิบัติการตรวจหาเชื้อของโรงพยาบาลภาครัฐ
-และ 46,948 คน ตรวจในห้องปฏิบัติการตรวจหาเชื้อของโรงพยาบาลเอกชน
ย้ำว่าแม้ตัวเลขผู้ป่วยในไทยจะลดลง แต่ก็ได้เร่งตรวจหาผู้เสี่ยงติดเชื้ออย่างต่อเนื่องเพื่อตรวจจับให้ได้มากที่สุด โดยได้ระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนมาช่วยกัน
ส่วนมาตรการเชิงรุกในการป้องกันการระบาดโรคโควิด-19 ของสปสช. ที่ตอนนี้มีอยู่ 7 มาตรการ ยืนยันว่าครอบคลุมเพียงพอต่อการป้องกันการระบาดของโรค สำหรับ 7 มาตรการที่มีอยู่ เช่น
-ให้ประชาชนที่ป่วยเป็นโรคโควิด-19 แล้วต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลไม่ว่าจะโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชนได้รับการรักษาฟรีทุกบาท โดยภาครัฐจะออกค่ารักษาให้
-เพิ่มเงินช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ที่ป่วยเป็นโรคโควิด-19 จากการปฏิบัติหน้าที่ โดยถ้าติดเชื้อจะให้เงินทันที 200,000 บาท
-และการจัดโครงการรับยาใกล้บ้าน ควบคู่กับการเพิ่มระบบสำรองยาที่ร้านยา เพื่อลดการเดินทางของประชาชนที่หากมีการเดินทางมาก ความเสี่ยงของการระบาดก็ยิ่งมากขึ้นตาม อนาคตยังตั้งเป้าให้ประชาชนนำใบสั่งยาที่แพทย์สั่งจากโรงพยาบาลไปรับยาที่ร้านยาได้ นอกจาก 7 มาตรการนี้แล้วยังมีกองทุนสุขภาพตำบลที่จัดทำโครงการควบคุมและป้องกันโรคโควิด-19 ไปแล้ว 8,220 โครงการ เป้าหมายสำคัญ คือ ให้เจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) เข้าตรวจคัดกรองประชาชนในพื้นที่ที่เสี่ยงติดโรคควบคู่ไปกับการให้ความรู้ความเข้าใจประชาชนเกี่ยวกับการระบาด
..