ปัจจุบันตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในแต่ละวันลดน้อยลง ทำให้มีความหวังว่ารัฐบาลอาจจะมีมาตรการปลดล็อกให้ร้านค้าต่าง ๆสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ในเร็วๆนี้
ที่ย่านสยามสแควร์ ร้านค้าในย่านนี้ต้องปิดให้บริการตามประกาศของรัฐบาลมานานหลายวัน โดยมีเพียงร้านอาหาร ร้านขนม บางแห่งที่เปิดให้บริการแบบซื้อกลับบ้านและเดลิเวอรี่เท่านั้น แต่บรรยากาศโดยทั่วไป ก็ถือว่าต่างจากเดิม เพราะเต็มไปด้วยความเงียบเหงา ไร้นักท่องเที่ยวหนุ่มสาววัยรุ่น วัยทำงาน
น.ส.วสุธนันท์ ตงเต๊า วัยรุ่นสาวที่มาเดินเลือกซื้ออาหาร ที่สยามสแควร์ เนื่องจากคุณแม่ทำงานอยู่แถวนี้ ยอมรับว่าแม้รัฐบาลออกมาบอกว่าควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ แต่ก็ยังไม่มั่นใจ หากอนาคตจะมีการปลดล็อกตามพื้นที่ต่างๆ ก็ยังรู้สึกกลัวว่าจะเกิดการแพร่ระบาดมากขึ้น โดยช่วงแรกๆ จะพยายามไม่ไปในพื้นที่เสี่ยง หรือ หากต้องไป ก็จะประมาทไม่ได้ ยังต้องป้องกันตัวเองให้ดี สวมหน้ากากอนามัย ไม่นำมือสัมผัสใบหน้า เลี่ยงจับสิ่งของ
ส่วนบรรดาร้านค้าก็ยังไม่แน่ใจว่า หากปลดล็อกแล้วจะมีประชาชนมาเดินเที่ยวเล่นเหมือนเดิมหรือไม่ และอยากให้รัฐบาลออกมาตรการชัดเจน เพื่อให้ร้านค้าทุกแห่งปฏิบัติทิศทางเดียวกัน เพราะเชื่อว่าบางร้านอาจฝ่าฝืนไม่มีการป้องกัน
น.ส.สุภาวรรณ น้อยมนตรี ผู้จัดการร้านอาหารแห่งหนึ่ง บอกว่า เห็นด้วยกับการปลดล็อก เพราะจะทำให้ร้านค้ากลับมามียอดขายดีขึ้น ยอมรับว่ามีความเสี่ยง แต่ต้องดูว่ารัฐบาลจะมีมาตรการออกมาเช่นไร หากสามารถเปิดให้ลูกค้าเข้ามานั่งร้านได้ ก็จะต้องจัดระบบ จำกัดจำนวนคน เว้นระยะห่างสลับซิกแซ็ก ไม่นั่งติดกัน วัดอุณหภูมิร่างกายลูกค้าทุกคน
ด้านน.ส.นิภาพร อายุโย เจ้าของร้านขายเสื้อผ้า เล่าว่า เปิดร้านที่นี่มา 4 ปีแล้ว ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ตอนเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ก็นับว่าหนักแล้ว แต่โรคโควิด-19 หนักกว่า และได้รับผลกระทบหนักมากกว่า รายได้ลดลงร้อยละ 70-80 จะให้หวังพึ่งรัฐบาลคงยาก เพราะลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกัน หวังนำเงิน 5,000 บาทมาใช้จ่าย แต่ระบบขึ้นว่าเป็นเจ้าของธุรกิจ ทำให้ไม่เข้าหลักเกณฑ์ขอรับเงิน ในชั่วโมงนี้เราต้องพึ่งตัวเองดีที่สุด สิ่งใดประหยัดได้ต้องประหยัด เช่น เดิมนั่งบีทีเอสก็เปลี่ยนมานั่งรถเมล์แทน เปลี่ยนจากซื้อข้าว เป็นทำกับข้าวใส่กล่องมากินเอง