รถกลับมาติด! โฆษกศบค.ย้ำ มาตรการทำงานที่บ้าน เพื่อสกัดการระบาด โควิด-19

21 เมษายน 2563, 12:57น.


            สภาพการจราจรในกรุงเทพมหานครวันนี้เริ่มมีการติดขัด สะท้อนว่าคนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้ทำงานที่บ้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) ยืนยันว่า ยังรณรงค์ให้ทุกคนลดการเดินทาง เพราะยังอยู่ภายใต้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดลงแตะเลข 2 หลักได้ก็เพราะทุกคนร่วมมือกัน พร้อมเข้าใจว่าตอนนี้ทุกคนอาจจะเบาใจ แต่ยังวางใจไม่ได้ เพราะตัวเลข 2 หลัก ถ้าควบคุมไม่ดีอาจจะมีผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นสูงได้ ดังนั้นยังคงขอความร่วมมือภาคเอกชนให้พนักงานทำงานที่บ้าน เพราะมาตรการนี้ยังเป็นมาตรการที่ดีอยากให้ประชาชนช่วยกันให้ต่ำกว่าหลักสิบให้ได้ อย่างน้อย 14 วัน



           สำหรับคนไทยที่เดินมาจากต่างประเทศและรับการกักกันตัว 14 วันแล้ว หากระหว่าง 14 วัน อาการทุกอย่างเป็นปกติจะมีโอกาสน้อยมากที่จะไปแพร่เชื้อไวรัสต่อผู้อื่น แต่หากกลับไปอยู่บ้านแล้ว ต้องปรับพฤติกรรมเช่นเดียวกับทุกคน เช่นสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ไม่ไปในพื้นที่เสี่ยง ถ้าทุกคนทำเช่นนี้เหมือนกันหมดมากกว่าร้อยละ 90 หรือเต็ม 100 จะเป็นเรื่องดี



          ส่วนกรณีที่คนในชุมชนแออัดอาจเข้าถึงการรักษาได้ยาก เมื่อติดเชื้อก็แพร่เชื้อกันได้ง่าย ยืนยันว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข มีการตรวจผู้ป่วยเชิงรุกแล้ว โดยเฉพาะ กรุงเทพฯ และ จ.ภูเก็ต จากนี้จะทำเพิ่มขึ้นอีก ดังนั้นประชาชนในชุมชนแออัดหากสงสัยว่ามีเพื่อนบ้านติดเชื้อ สามารถขอความช่วยเหลือ โทรสายด่วน 1422 กรมควบคุมโรค หรือหมายเลขอื่น ๆ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้



           นอกจากนั้น ไทยจะต้องประชุมหารือและตัดสินใจกันอีกครั้ง โดยต้องเรียนรู้ มาตรการผ่อนคลายจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ขณะนี้ไทยยังไม่มีการยกเลิกแต่อาจจะมีการผ่อนคลายบางมาตรการ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละจังหวัด



          ส่วนมาตรการเคอร์ฟิวห้ามออกนอกเคหสถานในเวลา 22.00 - 04.00 น พบผู้กระทำความผิดออกนอกเคหสถาน 693 คน ได้มีการตักเตือนทั้งสิ้น 86 คน ดำเนินคดี 607 คน มั่วสุมชุมนุม ซึ่งดำเนินคดีทั้งหมด 65 คน ซึ่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจังหวัดนครราชสีมา พบการออกนอกเคหสถานมากที่สุด 18 คน จังหวัดปทุมธานี ออกนอกเคหสถาน 42 คนมั่วสุม 7 คน จ.ภูเก็ต ออกนอกเคหสถาน 17 คน จ.เชียงใหม่ ออกนอกเคหสถาน 12 คน และกรุงเทพฯ  ออกนอกเคหสถาน 56 คน โดยนพ.ทวีศิลป์ เน้นย้ำว่า สิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องให้ตำรวจเป็นผู้ดูแล แต่อยากให้คนที่อยู่ในบ้านนั้นคอยตักเตือนลูกหลานที่จะออกมาในเวลาที่ไม่เหมาะสม

ข่าวทั้งหมด

X