ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น.วันอังคารที่ 21 เมษายน 2563

ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน เชื่อว่า น้ำมัน WTI ที่ติดลบเป็นครั้งแรก เป็นเหตุการณ์ชั่วคราวเท่านั้น

           นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน กล่าวถึง สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กส่งมอบเดือนพฤษภาคม ร่วงลง 55.90 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ -37.63 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เป็นเหตุการณ์เฉพาะในสหรัฐฯเท่านั้น ราคาน้ำมัน WTI ที่ตลาดสหรัฐฯลดลงอย่างหนักเป็นราคาของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่จะส่งมอบเดือนพฤษภาคม และจะหมดอายุวันนี้ (21 เม.ย.) ดังนั้น จึงเกิดแรงเทขายออกมาอย่างหนัก ทำให้ราคาลดลงจนติดลบ แต่เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นเหตุการณ์ชั่วคราวเท่านั้น เพราะเช้าวันนี้ราคาน้ำมัน WTI ส่งมอบเดือนมิถุนายน เคลื่อนไหวเหนือ 20 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล  

          สถานการณ์ที่เกิดขึ้น นายมนูญ กล่าวว่า เป็นผลจากปริมาณน้ำมันที่ล้นตลาด เพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลงทั่วโลก ประกอบกับในสหรัฐฯมีภาวะโอเวอร์ซัพพลายและไม่มีถังเก็บน้ำมัน เพราะใช้เก็บน้ำมันเกือบเต็มทั้งหมดแล้ว ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐฯลดลงร้อยละ 20-30

          ส่วนทิศทางราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศไทย ต้องรอดูทิศทางราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ที่จะปิดในช่วงเย็นนี้ว่าจะสะท้อนราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับลดลงอย่างไร แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีผลมากนัก 

          ทิศทางราคาขายปลีกน้ำมันของไทยไตรมาส 2/2563 เฉลี่ยน่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงไตรมาสแรก หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ก็จะทำให้มีการผ่อนคลายการล็อกดาวน์พื้นที่เสี่ยงบางส่วน และกลับมาเปิดเศรษฐกิจได้บ้าง ทำให้คาดว่าทิศทางการใช้น้ำมันน่าจะเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่สถานการณ์โควิด-19 ทำให้การใช้น้ำมันในไทยลดลงประมาณร้อยละ 5-10

สปน.รับเรื่องร้องเรียนช่วงโควิด-19 กว่าแสนเรื่อง เรื่องมาตรการเยียวยา มากที่สุด

          นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในวันนี้ (20 เม.ย.) ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบว่าสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ได้รับข้อร้องเรียน ข้อเสนอแนะ และความคิดเห็น ในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ผ่านโทรศัพท์สายด่วน 1111 ระหว่างวันที่ 5 มี.ค.-18 เม.ย.2563 รวม 149,937 เรื่อง

-อันดับ 1 คือ เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาต่างๆ  เช่น การช่วยเหลือด้านการเงิน สิทธิ์การรักษาพยาบาล การแจกหน้ากากอนามัย  จำนวน 97,962 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 65.34  

-อันดับ 2 แนวทางการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐ เช่น การขอข้อมูลประกาศและกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องโควิด การจัดกิจกรรม ต่างๆ การคัดกรองและดูแลผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ  26,521 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 17.69 

- อันดับ 3 การให้บริการด้านสาธารณสุข เช่น ขอข้อมูล แนวทางป้องกัน สถานที่และการควบคุมขำหน่ายสินค้า เป็นต้น 21,148 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 14.1 

-อันดับ 4 การแจ้งขอความช่วยเหลือของประชาชน เช่น กรณียาและเวชภัณฑ์ไม่เพียงพอหรือไม่มีคุณภาพและมีราคาสูง รวมทั้งร้องเรียนให้ปรับปรุงการบริการของหน่วยงาน  4,306 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ  2.87   

          การให้บริการในภาพรวม พบว่าเรื่องร้องเรียนที่ยุติเรื่องแล้ว 148,630 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 99.13  และรอผลการดำเนินงานจากหน่วยงาน 1,307 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 0.87 

          นายธีรภัทร กล่าวว่า  นอกจากนี้มีการแจ้งเบาะแสและแจ้งเหตุต่างๆ เช่น การจัดกิจกรรมที่ส่งผลกระทบทั้งการรวมกลุ่มจัดกิจกรรมสังสรรค์ ประชาชนรวมตัวรับสิ่งของบริจาค ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อ การแจ้งเบาะแสการลักลอบเล่นพนัน การเปิดร้านจำหน่ายสุรา เป็นต้น  รวมถึงมีข้อเสนอแนะจากประชาชนถึงรัฐบาล เกี่ยวกับการกำหนดมาตรการป้องกัน การเยียวยา และการให้ความช่วยเหลือประชาชน เช่น การช่วยเหลือแรงงาน ปรับลดค่าบำรุงการศึกษา พักชำระหนี้จากสถาบันการเงิน การช่วยเหลือผู้พิการ การป้องกันแพร่ระบาดในเรือนจำ เป็นต้น

จ.ตรัง ยังไม่คลายล็อกสถานประกอบการ-ร้านอาหาร

         แม้ว่าจังหวัดตรัง ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ครบ 14 วัน ในวันนี้ และผู้ติดเชื้อทั้ง 7 คน ทุกคนหายกลับบ้านหมดแล้ว แต่นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ประกาศยังไม่คลายล็อกทั้งสถานประกอบการ ร้านอาหาร และสถานที่ที่มีประชาชนไปรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก แม้ก่อนหน้านี้จะมีทีท่าว่าจะผ่อนปรนมาตรการต่างๆ หากไม่พบผู้ติดเชื้อครบ 14 วัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน  ผู้ว่าฯ ตรัง ระบุว่า หลังจากมีการเดินทางเข้าพื้นที่ของลูกเรือประมงจากประเทศมาเลเซีย ผ่านจังหวัดสตูล วันละไม่ต่ำกว่า 10 คน รวม 3 วัน กว่า 40 คน ทำให้ต้องชะลอมาตรการคลายล็อก เนื่องจากคนที่เข้ามาใหม่ยังรอผลการตรวจยืนยันการติดเชื้ออีก 4 คน

คนไทย  97คน จากญี่ปุ่นถึงไทยช่วงบ่ายนี้ ส่งกักตัว14วันทันที

          เฟซบุ๊ก สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า คนไทย 97 คนที่ตกค้างในญี่ปุ่น เดินทางกลับประเทศไทยโดยสายการบิน All Nippon Airways (ANA) เที่ยวบินที่ NH 847 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานฮาเนดะ และสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG643 จากท่าอากาศยานนาริตะ เดินทางถึงประเทศไทยเวลา 15.30 น. และ 16.30 น. เที่ยวบินทั้งสองเป็นเที่ยวบินที่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินรับส่งบุคคลกลับประเทศไทยตามประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว เป็นผู้ประสานงานขอความร่วมมือจากสายการบินและขออนุมัติจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของประเทศไทย โดยมีจำนวนผู้โดยสารตามที่ได้รับการจัดสรรตามศักยภาพของการรองรับผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศทั่วโลก 200 คนต่อวันของรัฐบาลไทย 

          ทั้งนี้ ผู้โดยสารคนไทยที่ขึ้นเที่ยวบินข้างต้นทั้ง 97 คน เป็นผู้ที่ลงทะเบียนในแบบฟอร์มแจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับไทยจากประเทศญี่ปุ่นโดยเร่งด่วน กับสถานเอกอัครราชทูตฯ และรับทราบเกี่ยวกับมาตรการกักตัว 14 วัน หลังจากที่เดินทางถึงประเทศไทย โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยในการจัดเตรียมสถานที่ในการกักตัว 14 วัน ด้วยแล้ว

 

CR:สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น