ทันสถานการณ์โลก 06.30น.ประจำวันอังคารที่ 21 เมษายน 2563

ทันสถานการณ์โลก 06.30น.ประจำวันอังคารที่ 21 เมษายน 2563 

ราคาน้ำมันสหรัฐฯปิดตลาดติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

          สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดีย หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ซึ่งหมดอายุในวันอังคาร(21เม.ย) ลดลง 55.90 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ -37.63 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ถือเป็นการปรับลดวันเดียวมากที่สุดในประวัติศาสตร์ในรอบ 37 ปี นับตั้งแต่ปี 1983 และยังเป็นราคาต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วย ล่าสุด 05.30 น. ราคาน้ำมันสหรัฐฯ ขยับขึ้นมา 22.91 ดอลลาร์สหรัฐฯ เคลื่อนไหวอยู่ที่ -14.72 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล 

           ส่วนงวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 4.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 20.03 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 2.51 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 25.57 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล

           ตลาดน้ำมันถูกกดดันมาอย่างต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งก่อความเสียหายแก่เศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง บีบให้ประชาชนหลายพันล้านคนทั่วโลกต้องอยู่แต่ในบ้านเพื่อหยุดการแพร่ระบาด รวมถึงสงครามราคาระหว่างซาอุดีอาระเบียกับรัสเซีย

          ตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันจันทร์(20เม.ย.) ดิ่งแรง ดาวโจนส์ทรุดลงเกือบ 600 จุด จากแรงฉุดกลุ่มพลังงาน หลังน้ำมันดิบสัญญาสหรัฐฯติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ตอกย้ำความยุ่งเหยิงที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ก่อไว้กับเศรษฐกิจโลก ดาวโจนส์ ลดลง 592.05 จุด ร้อยละ 2.44 ปิดที่ 23,650.44 จุด

         ราคาทองคำในวันจันทร์(20เม.ย.) พุ่งแรง หลังการปรับตัวลดลงอย่างหนักของราคาน้ำมัน ผลักให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 12.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,711.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ยอดผู้ติดเชื้อในสเปน เริ่มชะลอตัว แต่จะขยายมาตรการอยู่บ้าน

          ทางการสเปน รายงานยืนยันว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศเริ่มชะลอตัวลงแล้ว แม้จะมีผู้ติดเชื้อสะสมมากถึง 200,210 คน (เมื่อเวลา 20.14 น.) และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 20,852 ราย ขณะที่ สหรัฐฯ อยู่ในอันดับ 1 มีผู้ติดเชื้อ 771,214 คนและมีผู้เสียชีวิต 41,356 ราย นายเฟอร์นันโด ไซมอน หัวหน้าหน่วยฉุกเฉินด้านสาธารณสุข กล่าวว่า  อัตราการติดเชื้อรายใหม่ลดลง แม้ว่าจะมีการทดสอบเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่าการแพร่ระบาดเริ่มชะลอตัวลงแล้ว แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยสะสมและผู้เสียชีวิตจะมากกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้โดยในรอบ 24 ชั่วโมง  สเปนมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 399 ราย

           ส่วนสถานการณ์โลก ยอดผู้ติดเชื้อ เพิ่มเป็น 2,452,397 คน เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 3,750 ราย ยอดสะสม168,781 ราย  รักษาหาย 642,291 คน

          สเปนเป็นหนึ่งในประเทศของกลุ่มยุโรป ที่ดำเนินมาตรการปิดเมืองอย่างเข้มงวด เพื่อควบคุมอัตราการติดเชื้อและผู้เสียชีวิต ซึ่งธนาคารกลางสเปน ระบุว่า ทำให้เกิดการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจปีนี้จะหดตัวลงระหว่างร้อยละ 6.8 และร้อยละ 12.4 ในปีนี้ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของการปลดล็อกมาตรการต่าง ๆ คาดว่า เศรษฐกิจในปีหน้าเศรษฐกิจจะเติบโตในระดับร้อยละ 5.5 ถึงร้อยละ 8.5

          ทั้งนี้ บริษัทบางแห่งในภาคการผลิตและการก่อสร้างได้รับอนุญาตให้กลับไปทำงานได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ประชากรส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในบ้าน นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ กล่าวว่า เมื่อวันเสาร์ (18 เม.ย.) ว่าจะขอความเห็นชอบจากรัฐสภาเพื่อขยายเวลาบังคับใช้มาตรการออกไปอีก 2 สัปดาห์ คือจนถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ในยุโรปดีขึ้น

            สำนักงานพิทักษ์พลเรือนของอิตาลี ระบุว่า มีคนไข้ 108,237 คน ที่ทั้งกำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลหรือพักฟื้นอยู่ที่บ้านหลังจากมีผลตรวจออกมาเป็นบวก ลดลงจากตัวเลขที่รายงานจากเมื่อวันอาทิตย์(19เม.ย.) 20 คน "เป็นครั้งแรกที่เราพบเป็นพัฒนาการทางบวกใหม่ จำนวนผู้มีผลตรวจเป็นบวกในปัจจุบันลดลง"

           ในส่วนของผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในอิตาลี อยู่ที่ 2,256 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็น 181,228 คน รั้งอันดับ 2 ของโลก ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันพบเพิ่ม 454 ราย ตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 24,114 ราย มากที่สุดอันดับ2 ของโลกเช่นกัน แม้คณะแพทย์อิตาลีส่วนใหญ่เชื่อว่ายอดเสียชีวิตและติดเชื้อของประเทศน่าจะสูงกว่าตัวเลขอย่างเป็นทางการค่อนข้างมาก

          อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลหรือพักฟื้นอยู่ที่บ้านและจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จะเป็นข้อมูลสำคัญที่อิตาลีจะเอาคำนวณว่ามาตรการไหนบ้างในคำสั่งล็อกดาวน์ที่สามารถยกเลิกได้ ขณะที่คำสั่งล็อกดาวน์ในปัจจุบันมีกำหนดหมดอายุลงในวันที่ 4 พฤษภาคม

          ส่วนที่สหราชอาณาจักร กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า พบผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลจากโควิด-19 เพิ่มเติมอีก 449 คนในวันจันทร์(20เม.ย.) ต่ำที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 16,509 ราย ตัวเลขดังกล่าวยังไม่นับรวมผู้เสียชีวิตตามชุมชน ในนั้นรวมถึงบ้านพักคนชรา และมักออกมาต่ำเสมอในทุกวันจันทร์ เนื่องจากในช่วงสุดสัปดาห์มีการรายงานตัวเลขล่าช้า

          เดวิด สปีเกลฮัลเตอร์ จากศูนย์ปฏิบัติการวิจัยด้านสถิติ มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ บอกว่า ข้อมูลใหม่แสดงให้ว่าสถานการณ์ในสหราชอาณาจักรดีขึ้นอย่างชัดเจน ในสถานะทรงตัว ไม่ใช่ชะลอตัว แต่เป็นสถานะที่ดีขึ้นจากจุดพีคของจำนวนผู้เสียชีวิตเมื่อ 12 วันก่อน หรือตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 

องค์การอนามัยโลก(WHO) ยืนยันไม่ได้ปกปิดโควิด-19 ให้กับสหรัฐฯ

           นายเทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก บอกว่าไม่มีความลับที่องค์การอนามัยโลกจะปกปิด หลังประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ออกมาตำหนิอย่างรุนแรง พร้อมกล่าวหาองค์การอนามัยโลกว่ากลบเกลื่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19       

           ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า บุคลากรของรัฐบาลหลายคนถูกยืมตัวมาทำงานที่สำนักงานใหญ่องค์การอนามัยโลกที่ เจนีวา ดังนั้นองค์การอนามัยโลก จึงไม่มีอะไรที่ปกปิด หลังจากมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ(ซีดีซี) 15 คน เข้ามาทำงานร่วมกับองค์การอนามัยโลกในด้านการตอบสนองต่อโควิด -19 นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม นายเทดรอส เรียกร้องอีกครั้งให้เหล่าผู้นำโลกอย่าฉวยเอาโรคระบาดใหญ่เพื่อความได้เปรียบทางการเมืองของตนเอง "กรุณาอย่าใช้ไวรัสเป็นโอกาสในการสู้รบกับคนอื่นๆหรือทำคะแนนทางการเมือง มันเหมือนกำลังเล่นกับไฟ ปัญหาทางการเมืองอาจโหมกระพือโรคระบาดนี้ให้รุนแรงขึ้นไปอีก"

ธุรกิจร้านค้าในอิหร่านกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง แม้ทางการจะเตือนว่ามีความเสี่ยง

             ธุรกิจร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และตลาดในอิหร่าน กลับมาเปิดทำการอีกครั้งในวันนี้ แม้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะมีคำเตือนว่าอาจจะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ทั้งนี้อิหร่านมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 มากถึง 83,505 คนและเสียชีวิต 5,209 ราย เป็นประเทศในตะวันออกกลางที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงที่สุด ขณะที่ ทางการจะพยายามควบคุมการแพร่ระบาด แต่ก็มีความกังวลว่ามาตรการควบคุมต่างๆจะทำให้การดำเนินชีวิตของประชาชนยิ่งยากลำบากยิ่งขึ้น ทั้งทำให้เศรษฐกิจทรุดลงไปกว่าเดิม เนื่องจากการที่ถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจมาเป็นเวลานาน

          ประธานาธิบดี ฮัสซัน รูฮานี ยกเลิกข้อห้ามเดินทางระหว่างเมืองและอนุญาตให้ธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มความเสี่ยงปานกลางในการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา กลับมาดำเนินธุรกิจได้ทั่วประเทศ โดยธุรกิจในกลุ่มนี้ได้แก่ ร้านค้า ตลาดนัด และศูนย์การค้า แต่เจ้าของธุรกิจและลูกค้าจะต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม สื่อโทรทัศน์ของทางการอิหร่าน รายงานว่าวันนี้การจราจรในกรุงเตหะรานและเมืองอื่น ๆ กลับมาติดขัดอีกครั้ง และมีประชาชนออกมาในที่ชุมชนจำนวนมาก จนทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพมีความกังวล

          นายโมฮัมหมัด อาซาอี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอิหร่าน กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับระดับที่ผู้คนเคารพต่อมาตรการด้านสาธารณสุข และทุกคนยังไม่ควรคิดว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง และเขาขอร้องให้ทุกคนอยู่บ้าน เพื่อหยุดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส

ภาคธุรกิจอินเดียกลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง

          ร้านค้าและธุรกิจบางแห่งในพื้นที่ชนบทของอินเดียกลับมาเปิดธุรกิจแล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการออกจากมาตรการปิดเมืองเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งมีความเข้มงวดมากที่สุด ส่งผลให้ประชากร 1,300 ล้านคน ต้องหยุดงานอยู่บ้านไปจนถึงวันที่ 3 พฤษภาคม ส่งผลให้มีผู้ตกงานจำนวนหลายล้านคน และขาดอาหาร รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี จึงผ่อนผันให้พื้นที่ห่างไกลจากตัวเมือง และไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สามารถดำเนินกิจกรรมบางอย่าง รวมถึง โรงงาน และการทำฟาร์มได้ ตามที่นักเศรษฐศาสตร์ ระบุว่า ในช่วงก่อนที่จะมีการระบาดของโรคโควิด-19 เศรษฐกิจของอินเดียมีมูลค่า 2,900,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการเติบโตในอัตราที่อ่อนแอที่สุดในรอบกว่าทศวรรษและจากสถานการณ์ในปัจจุบันคาดว่าเศรษฐกิจจะเกิดการถดถอยลงได้ จึงแนะนำให้รัฐบาลใช้มาตรการผ่อนปรนด้วยการให้อุตสาหกรรมและเกษตรกรรมในพื้นที่ชนบททำงานต่อไปได้ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานในภาคชนบทด้วย