ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น.วันศุกร์ที่ 17 เมษายน 2563

17 เมษายน 2563, 13:23น.


นายกฯ สั่งคุมเข้มช่องทางธรรมชาติชายแดนใต้ หลังคนไทยในมาเลย์เดินทางกลับ



          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หารือร่วมกับพล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประเมินสถานการณ์การดูแลความเรียบร้อย ตลอดช่วงเวลาที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เม.ย.นี้ และภาพรวมการบังคับใช้กฎหมายหลังประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกจากเคหสถาน ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.เพื่อนำมาพิจารณาผ่อนปรนบางมาตรการต่อไป พล.อ.ประยุทธ์ กำชับให้ผู้บังคับบัญชาดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดีที่สุด เพราะต้องควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 เพราะสถานการณ์อาจจะยืดเยื้อ พร้อมทั้งได้สอบถามเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพล ที่มีการตั้งด่านตรวจเกือบ 1,000 จุดทั่วประเทศ โดยเฉพาะด่านชายแดนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีช่องทางธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังประเมินเรื่องการเดินทางกลับของคนไทยในมาเลเซียและอินโดนีเซีย ซึ่งจะเดินทางกลับในช่วง 1-2 วันนี้ ในการเตรียมความพร้อมพื้นที่กักตัวรองรับซึ่งจะมีคนไทยทยอยเดินทางเข้ามาใน 5 ด่าน จังหวัดชายแดนภาคใต้ 



นราธิวาส พร้อมเปิดด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก พรุ่งนี้



          จ.นราธิวาส เตรียมเปิดด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก ในวันพรุ่งนี้ (18 เม.ย.) รับคนไทยกลับจากประเทศมาเลเซีย โดยด่าน จะเปิดเวลา 07.00-19.00 น. และจะดำเนินการตามกฎระเบียบของกระทรวงมหาดไทย คือ คนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ให้มาล่วงหน้าวันละ 100 คนเท่านั้น คนไทยที่เข้ามาจะต้องมีหนังสือรับรองจากสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่พร้อมใบรับรองแพทย์ โดยได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้น ทุกคนที่เข้ามาจะต้องผ่านจุดตรวจทั้ง 3 จุด ก่อนจะส่งไปยังศูนย์คัดกรองเพื่อกักตัวสังเกตอาการในจังหวัดตามภูมิลำเนา



คลัง โอนเงินเยียวยา 5,000 บาทให้ผู้เข้าเกณฑ์แล้วกว่า 3,000,000 ราย



           ความคืบหน้ามาตรการเยียวยา 5,000 บาท นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้โอนเงินเยียวยาให้คนที่เข้าเกณฑ์แล้วในช่วงรอบที่ 1-3 ระหว่างวันที่ 8-17 เม.ย.2563 รวม 3,200,000 ล้านราย จำนวนเงิน 16,000 ล้านบาท กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พยายามเร่งกระบวนการคัดกรองผู้ลงทะเบียนเพื่อให้เงินเยียวยาถึงมือทุกคนที่ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็วที่สุด



          สำหรับความคืบหน้าในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลงทะเบียน พบว่า มีผู้มาลงทะเบียนรวม 27.7 ล้านราย วันที่ 16 เม.ย.2563 โดยจำนวนผู้มาลงทะเบียนในภาพรวมมีทิศทางลดลงต่อเนื่องและตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ จำนวนผู้มาลงทะเบียนใหม่เริ่มไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ส่วนใหญ่ได้มาลงทะเบียนเพื่อรับความช่วยเหลือเยียวยาแล้ว จึงเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมาตรการเยียวยา 5,000 บาท ที่ต้องการให้การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างครอบคลุมและทั่วถึง กระทรวงการคลัง จึงกำหนดวันปิดรับลงทะเบียนในวันที่ 22 เม.ย.2563 เวลา 24.00 น. ตามที่ได้เคยประกาศไว้ว่าจะแจ้งล่วงหน้าให้ทราบก่อนวันที่จะปิดการลงทะเบียน  



ญี่ปุ่น ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่ง



          นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ จนถึงวันที่ 6 พ.ค.นี้ เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่แล้ว และรัฐบาลต้องการให้ประชาชนลดการเดินทางในช่วงวันหยุดเทศกาลซึ่งจะเริ่มต้นในช่วงปลายเดือนเม.ย.จนถึงต้นเดือนพ.ค.นี้



          เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ผู้นำญี่ปุ่น ประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียวและเขตปกครองอื่น ๆ อีก 6 แห่งจาก 47 แห่ง ซึ่งครอบคลุมประชากรร้อยละ 44 ของทั้งประเทศ แต่ภาวะฉุกเฉินของญี่ปุ่นไม่มีผลบังคับใช้ในทางกฎหมาย โดยเป็นการขอความร่วมมือจากประชาชนเท่านั้น โดยเมื่อวันพุธ มีรายงานของผู้เชี่ยวชาญที่เตือนว่า หากชาวญี่ปุ่นไม่ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด อาจทำให้มีผู้ติดเชื้อสูงถึง 850,000 คนทั่วประเทศ และอาจเสียชีวิตมากถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด เนื่องจาก ญี่ปุ่นมีประชากรผู้สูงอายุมากที่สุดในโลก และเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุดที่จะเสียชีวิตจากโควิด-19



กลุ่มจี-7 จัดทำแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หลังการระบาดของโรคโควิด-19 สิ้นสุด



          การประชุมผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ครั้งที่ 2 ของกลุ่ม 7 ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกหรือกลุ่มจี-7 ประกอบด้วยแคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ต่อเนื่องจากการประชุมรอบแรกเมื่อวันที่ 16 มีนาคม เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ผู้นำกลุ่มจี-7 เห็นพ้องให้มีการจัดทำแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจอีกครั้ง ให้มีความปลอดภัย หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สิ้นสุดลง



          นายกรัฐมนตรีอาเบะของญี่ปุ่น สรุปให้ผู้นำอื่นๆของกลุ่มจี-7 ทราบถึงแนวทางของรัฐบาลญี่ปุ่นในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจและการขยายภาวะฉุกเฉินให้ครอบคลุมทั่วประเทศ จากเดิมเพียง 7 จังหวัด เช่น กรุงโตเกียวและนครโอซากา



          นายอาเบะ พูดถึงยาอาวิแกน ยาต้านไข้หวัดใหญ่ ของบริษัทฟูจิฟิล์ม โฮลดิ้ง คอร์ป หลายฝ่ายเชื่อว่าสามารถจะใช้รักษาโรคโควิด-19 ด้วย ระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่น จะมอบยานี้ให้ประเทศอื่นๆ เพื่อให้มีการทดลองทางคลินิกเพิ่มเติมเกี่ยวกับยานี้ในการรักษาโรคโควิด-19 พร้อมทั้งย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องระดมทีมผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกเพื่อพัฒนายาสามารถจะใช้รักษาโรคโควิด-19



          ผู้นำญี่ปุ่น ย้ำถึงความสำคัญในการส่งเสริมให้กลุ่มประเทศที่มีระบบสาธารณสุขที่อ่อนแอ เช่น ในทวีปแอฟริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุว่า มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างความเข้มแข็งให้ระบบสาธารณสุขทั่วโลกในการป้องกันโรคติดต่อและจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งพอที่จะฟันฝ่าวิกฤตต่างๆในอนาคต



CR:รัฐบาลไทย



 

ข่าวทั้งหมด

X