แนวโน้มการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019หรือ โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า ไทยอาจจะใช้หลักเกณฑ์ 6 ข้อขององค์การอนามัยโลก(WHO) เพื่อใช้ผ่อนคลายมาตรการคือ
-สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคภายในประเทศได้แล้ว
-ระบบสุขภาพจะต้องสามารถ ตรวจหาผู้มีอาการของโรค ตรวจหาเชื้อ แยกตัว และทำการรักษาพร้อมทั้งทำการสอบสวนโรค
-มีความเสี่ยงระดับน้อยที่สุดในสถานที่เสี่ยงภัยมากที่สุด เช่นบ้านพักคนชรา
-โรงเรียน สำนักงาน และสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ต้องมีมาตรการป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพ
-สามารถจัดการความเสี่ยงของโรคจากผู้ที่เดินทางเข้าประเทศได้
-คนในชุมชนต้องมีความรู้ มีส่วนร่วมและได้รับการสนับสนุนให้มีชีวิตอยู่ภายใต้สังคมที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากการเกิดโรค
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวย้ำว่า ข้อที่ 6 สำคัญมากสำหรับประเทศไทย แม้ว่าได้รับคำชมจากนานาประเทศว่าคนไทยให้ความร่วมมือกันดี แต่ก็ยังมีกลุ่มก๊งเหล้า ตั้งวง ซึ่งถ้าคนไทยได้เรียนรู้จากข้อนี้และปฏิบัติตามได้ดี จะเป็นข้อสำคัญที่สามารถปลดล็อกมาตรการต่าง ๆ ได้ โดยอยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ยกตัวอย่างว่า หากจะผ่อนคลายโดยให้เปิดร้านตัดผม ผู้ประกอบการและผู้รับบริการจะต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด จะสามารถยอมรับได้หรือไม่ หากทำได้ก็สามารถผ่อนคลายได้ โดยมีข้อปฏิบัติ ดังนี้
-เตรียมการด้านสถานที่ คือจัดที่นั่ง ที่นอนสระผมให้ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ไม่ให้มีที่นั่งรอในร้าน แต่ใช้เป็นบัตรคิวแทน
-ด้านระยะเวลา คือให้บริการที่ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงเช่น สระผม ตัดผมเท่านั้น
-ด้านบริการ คืองดเว้นบริการที่ต้องใช้อุปกรณ์ร่วมกันที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้ เช่นอุปกรณ์แต่งหน้า
-ด้านพนักงาน คือสวมใส่หน้ากากผ้าทุกคน ล้างมือทุกครั้งที่ให้บริการลูกค้าแต่ละคน และให้พนักงานหยุดงานเมื่อมีอาการไข้หรืออาการทางเดินหายใจ
-ด้านการทำความสะอาด คือล้างอุปกรณ์ด้วยน้ำและผงซักฟอกทุกครั้งที่ให้บริการลูกค้าแต่ละคน ,เช็ดพื้นผิวสัมผัสทุกชั่วโมงด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์บริเวณทางเข้าร้าน
ส่วนผู้รับบริการ ต้องใส่หน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่ในร้านตัดผมและล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์