ช่วงเช้าวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดแสดงปาฐกถาพิเศษเรื่อง "ความโปร่งใสในการบริหารจัดการองค์กรของประเทศไทย" ในพิธีมอบรางวัลองค์กรโปร่งใส ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ
ส่วน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อติดตามความคืบหน้าการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การค้าใหม่ในปี 2558 ใน 4 ด้าน คือ ดูแลค่าครองชีพประชาชน ดูแลราคาสินค้าเกษตร ส่งออก และผลักดันการค้ารับเออีซี
นอกจากนี้ ในวันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการมันสำปะหลัง เพื่อดูแลมาตรฐานราคามันสำปะหลัง และเพิ่มมูลค่าการค้า ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมในการดูแลสินค้าเกษตรอื่นๆ นอกเหนือจากข้าวด้วย
และความคืบหน้าของการจัดกิจกรรมลดราคาสินค้าคืนความสุขและมอบเป็นของขวัญให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่นั้น รัฐมนตรีพาณิชย์กล่าวว่า ภาคเอกชนเตรียมพร้อมลดราคาสินค้าหลายรายการ โดยในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ จะมีการแถลงข่าวการจัดงานอย่างเป็นทางการอีกครั้ง และจะเปิดงานในวันที่ 23 ธันวาคม แต่จะเริ่มงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 24-30 ธันวาคมนี้
และคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ซึ่งมีนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เป็นประธาน จะประชุมเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนลงมติว่าจะรับรองข้อเสนอเลือกนายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรีทางตรงหรือไม่ ในเวลา 10.00 น.
ขณะที่กรณีกรอบเวลาการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. ที่มีข้อเสนอให้ลดเวลาลงจาก 7 ปีเหลือ 5 ปี นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวว่าถ้าลดก็รับได้เพราะกกต.ทำงานเป็นเทอมเมื่อชุดเก่าไปชุดใหม่ก็สามารถทำงานได้ทันที ไม่เหมือนกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ที่ต้องทำงานต่อเนื่อง ทั้งไม่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบการจัดการเลือกตั้ง ที่มีการเสนอระบบการเลือกตั้งแบบเยอรมัน รวมทั้งข้อเสนอให้เลือกนายกฯและครม.โดยตรง ก็เห็นว่าเราลองผิดลองถูกมา 80 กว่าปีแล้ว ดังนั้นจะใช้แบบไหนก็ควรเลือกให้เหมาะสม เมื่อออกแบบมาอย่างไรในหน้าที่เป็นผู้จัดการเลือกตั้งก็ต้องทำตามได้หมด
ส่วนกรณีพล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ผลักดันการออกร่างพ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ลดขั้นตอนให้บริการภาครัฐ เพื่อปิดช่องทางการทุจริตนั้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย กล่าวว่า ขณะนี้ร่างกฎหมายผ่านการพิจารณาในขั้นตอนของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)แล้ว อยู่ระหว่างนำขึ้นทูลเกล้าฯ เมื่อลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วจะทิ้งเวลาไว้อีก 6 เดือน หรือ 180 วัน เพื่อให้กระทรวงเตรียมตัว ดังนั้น กฏหมายนี้จะมีผลบังคับใช้อีก 6 เดือนข้างหน้า
ร่าง พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ มีสาระสำคัญที่ว่าด้วยการติดต่อขออนุญาตอนุมัติ การขึ้นทะเบียน จดทำเบียนต่างๆ จะทำรวดเร็วขึ้น เพราะทางราชการต้องทำคู่มือบอกประชาชนว่า เวลาใครมาติดต่อจะใช้เวลาเท่าไร ต้องผ่านขั้นตอนอย่างไร มีเอกสารอย่างไรบ้าง และต้องตอบภายในกี่วัน หากไม่เป็นไปตามเวลาที่กำหนด ประชาชนสามารถนำไปร้องเรียนหรือร้องอุทธรณ์ได้ ส่วนราชการใดไม่ปฏิบัติตามที่ตัวเองกำหนดเวลาไว้ จะมีความผิดทางวินัย และอาจถูกดำเนินคดี นายวิษณุกล่าวว่า ความรวดเร็วของขั้นตอนถือเป็นการป้องกันการทุจริตได้อย่างหนึ่ง เพราะการขออนุมัติที่ล่าช้า ส่วนหนึ่งก็เพราะต้องการเรียกเงินสินบน
*-*