ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.วันศุกร์ที่ 17 เมษายน 2563

17 เมษายน 2563, 07:26น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.วันศุกร์ที่ 17  เมษายน  2563



ผู้สูงอายุ ชาวชุมพรวัย 85 เสียชีวิต หลังติดเชื้อโคโรนาไวรัส



           นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผวจ.ชุมพร และนพ.จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ สสจ.ชุมพร กล่าวในรายการ "ผวจ.พบ ปชช."ถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด 19 จังหวัดชุมพรว่า ผู้ติดเชื้อยืนยันรายใหม่ในวันที่ 16 เม.ย.63 เพิ่มอีก 2 คน รวมเป็นผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสมในจังหวัดชุมพรรวม 8 คน รักษาหายแล้ว 1 คน ในขณะนี้ยังรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ 5 คน อยู่ที่โรงพยาบาลชุมพร 4 คนและส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีอีก 1 คน โดยในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยที่เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ป่วยเพศหญิง อายุ 85 ปี มีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน ความดันโลหิต หลอดเลือดสมองอุดตัน เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลชุมพรเมื่อวันที่ 12 เมษายน ด้วยอาการไอ หอบเหนื่อย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เข้าห้องไอซียูตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน และส่งตรวจเชื้อโควิด -19ผลออกมาว่าเป็นเชื้อโควิด-19เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 15  เม.ย.และเสียชีวิตลงเมื่อเวลา 01.00 น.ของวันที่ 16 เมษายน และได้เผาศพเมื่อเวลา 11.00 น ที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองจังหวัดชุมพร

วันนี้นักเรียนทุน AFS จะเดินทางกลับไทย

          น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ในวันนี้ (17 เม.ย.) จะมีนักเรียนทุน AFS จากประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางกลับมาประเทศไทย 129 คน และในวันที่ 18 เมษายน 123 คน และวันที่ 19 เมษายน อีก 160 คน ซึ่งเป็นการกระจายกันมา ด้านเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงธากา ประเทศบังคลาเทศ ได้ไปเยี่ยมนักเรียนไทยมุสลิม จำนวน 16 คน และเตรียมเดินทางกลับประเทศไทยโดยเที่ยวบินพิเศษในวันนี้ ส่วนเมื่อวานนี้มีเที่ยวบินจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งมีคนไทย 119 คน และมีเที่ยวบินจากมัลดีฟส์ที่พาคนไทยกลับมา 55 คน นำไปพักกักตัวที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน จังหวัดชลบุรีเป็นเวลา 14 วัน



         สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 29 คน ยอดผู้ป่วยสะสม 2,672 คน ใน 68 จังหวัดรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 1,033 คน รักษาหายกลับบ้านแล้ว 1,593 คนส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย เสียชีวิตสะสม 46 ราย

          สำหรับผู้เสียชีวิตรายที่ 44 เป็นชายชาวมาเลเซีย อายุ 55 ปี เป็นไกด์ทัวร์ ไม่มีโรคประจำตัว

          รายที่ 45 เป็นหญิงไทย อายุ 35 ปี อาชีพพนักงานบริษัท มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง แต่รักษาไม่ต่อเนื่อง

          รายที่ 46 เป็นชายไทยอายุ 37 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป ขับรถแบ็คโฮ ความดันโลหิตสูง มีภาวะอ้วน

          ส่วนกรณีที่มีการบังคับใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 จะสิ้นสุดลงในปลายเดือนนี้ ศูนย์ศบค.จะมีการประชุมก่อน ที่พ.ร.ก.จะสิ้นสุดลงว่าจะยกเลิกหรือจะบังคับใช้ต่อไป

กรมควบคุมโรคเผยผู้ติดเชื้อในบ้านเพิ่มขึ้น

          นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากข้อมูลเดือนมีนาคม-14 เมษายน พบว่าในเดือนมีนาคมที่มีผู้ติดเชื้อ 1,054 คน เป็นผู้ที่ติดเชื้อจากคนในบ้านร้อยละ 8 คือมีคนที่กลับมาจากต่างประเทศซึ่งมีอาการป่วย แพร่เชื้อให้คนในบ้าน ขณะที่ช่วงเดือนเมษายนผ่านมาเพียง 14 วัน และทั้งที่รัฐห้ามเดินทางเข้าประเทศบ้างแล้ว แต่ปรากฏว่าพบผู้ติดเชื้อจากคนในบ้าน, ครอบครัว เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 23 ดังนั้น มาตรการเว้นระยะห่างระหว่างสมาชิกคนในบ้าน จะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดการติดเชื้อภายในบ้านได้



นายกฯให้มั่นใจรบ.ยืนยันมีจ่าย5,000บาท3เดือน



          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยืนยันว่ามีการจ่ายเงินเยียวยาแน่นอน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ผมต้องขอโทษด้วยที่ทำให้หลายคนไม่สบายใจ จนเกิดการเคลื่อนไหวกันมากมาย ยืนยันว่ารัฐบาลต้องดูแลใน 3 เดือนนี้ ให้ได้ ถ้าสถานการณ์ดีขึ้นโดยเร็ว สามารถแก้ปัญหาได้ทุกระดับ เมื่อผ่าน 3 เดือนไปแล้วและดีขึ้น เราก็ไม่จำเป็นต้องหาเงินตรงนี้ ทุกคนก็สามารถ ไปทำมาหากินได้ แค่นั้นเองสบายใจกันหรือยัง เมื่อวานต้องขอโทษด้วย ผมไม่ได้มีเจตนา ให้เข้าใจอย่างนั้น แต่ผมต้องการให้เข้าใจว่ามันใช้เงินกันยังไงแต่ไม่ได้หมายความว่า จะไม่ให้เงินอีกแล้ว



           พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ก็กำลังดู ทั้งแรงงาน ประกันสังคมทั้งในระบบและนอกระบบ กลุ่มอิสระ รวมถึงกำลังดูเรื่อง เกษตรกร วันนี้ลงรายละเอียดทั้งหมดซึ่งเกษตรกรมีหลายประเภท บางกลุ่มมีผลกระทบมากและมีผลกระทบน้อยซึ่งต้องเข้าใจว่ารัฐบาลมีมาตรการตรงนี้ในการคัดกรองจึงขอให้ทุกคนร่วมมือก็แล้วกัน สิ่งสำคัญที่สุด อยากให้ทุกคนร่วมมือกันแบบนี้ วันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง ขณะที่สาธารณสุขก็ได้ระบุว่าถ้า 14 วัน ผู้ติดเชื้อลดลงแสดงว่า สามารถควบคุมได้บ้างแล้ว จึงต้องดูว่าจะปลดล็อกตรงไหนได้บ้างแต่ไม่ใช่ทีเดียวทั้งหมด แล้วกราฟตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมัน ก็จะดึงลงลำบาก หากปลดล็อก บางกิจการให้เคลื่อนไหวได้ มีอาชีพบ้างก็ต้องร่วมมือกัน ตรงนี้ ถ้าเรียกร้องให้เปิดกันทั้งหมด แล้วตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นใครจะรับผิดชอบได้ ดังนั้นเราต้องรับผิดชอบร่วมกัน ในหลายๆ เรื่อง เพราะเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ



          นายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงท้ายว่า "ขอบคุณ และขอโทษที่ทำให้ ไม่มั่นใจ ขอให้มั่นใจ มั่นใจผมมาตลอด เวลาที่ผ่านมาแล้ว ขอให้มั่นใจ กระทรวงการคลัง มั่นใจบุคลากรของผม ทุกคนพยายามทำอย่างเต็มที่ บางครั้งมันก็ยากบ้างง่ายบ้าง ทันใจบ้างและไม่ทันใจบ้าง ก็ขอโทษด้วยแล้วกัน แต่เป็นมาตรการที่ต้องระมัดระวังที่สุด เพราะเป็นการใช้เงินของภาครัฐ ต้องมีการตรวจสอบภายหลังทุกอย่าง ผมก็ไม่อยากให้เกิดปัญหาขึ้นในระยะหลัง ผมทราบดีว่า ทุกคนเดือดร้อนและเดือดร้อนในเวลาเดียวกันด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องทยอยดำเนินการยืนยัน 3 เดือน โอเคไหม"  



รองนายกฯ สั่งกู้เงินตามพ.ร.ก.เยียวยาโควิด 1 ล้านล้าน ภายในเดือนพ.ค.นี้



            นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันไม่มีประเทศใดในโลกที่จะมีงบประมาณโดยตัวของมันเองในการดูแลประชาชนที่เดือดร้อน ดังนั้นทุกประเทศไม่มีใครคาดว่าจะมีโควิด-19 เกิดขึ้น ดังนั้น งบประมาณจึงเป็นงบตามระบบปกติ เช่น ประเทศไทยมีงบประมาณกลาง ซึ่งพอมีโควิด-19 เข้ามา ทุกประเทศก็ต้องหันเข้ามาพึ่งพาการกู้ยืม ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอเมริกา สิงคโปร์ และอื่นๆ ก็มีการออกพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)กู้เงิน เพื่อนำเงินมาดูแลประชาชนที่เดือดร้อน



          กระทรวงการคลังจึงได้ออกพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท มาใช้ดูแลประชาชนส่วนในเดือนพ.ค. จะมีการกู้เงินล็อตแรกจำนวนเท่าไหร่นั้น หน่วยงานที่ดูแลกำลังพิจารณาอยู่



          ทั้งนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ประเมินว่า ตัวเลขหนี้ทั้งหมดของโลกจะสูงมากทั้งปีนี้และปีหน้า สนับสนุนให้กู้เพื่อนำมาดูแลประชาชน ซึ่งกระทรวงการคลังก็ได้มีการคาดคะเนแล้วจึงได้ออก พ.ร.ก.ในระยะเวลาที่พอดี เพราะเงินที่ดูแลประชาชนขณะนี้มาจากงบกลาง ซึ่งเป็นงบดูแลประชาชนปกติ จึงได้มีการวางแผนว่าต้นเดือนพ.ค.2563 จะสามารถกู้เงินได้ ซึ่งเมื่อกู้เงินแล้วก็จะนำมาสานต่องบประมาณปกติ ยืนยันว่า ทั้งหมดนี้เป็นไปตามแผนงานการก่อหนี้ และจะก่อหนี้เป็นช่วงๆ ตามว่าแต่ละช่วงนั้นจะมีการใช้จ่ายอย่างไร ฉะนั้น การขาดแคลนเงินจะไม่เกิดเพราะมีแผนงานรองรับอยู่แล้ว



          สำหรับการก่อหนี้ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มการเยียวยา กลุ่มดูแลเศรษฐกิจท้องถิ่นในอนาคตข้างหน้า เพื่อให้คนมีงานทำ และดูแลภาคการเงิน ซึ่งมีความสำคัญมาก เพราะหากการเงินมีปัญหาทุกอย่างจะล่มสลาย โดยได้ดูแลในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม เพราะหลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกพ.ร.ก.ดูแลเสถียรภาพของตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนตลาดตราสารหนี้ก็นิ่งแล้ว ซึ่งที่บอกว่าเราจะไม่มีเงิน งบประมาณไม่มีใครเยียวยาแต่เรามีเงินกู้เข้ามาเสริมพอดี ดังนั้น ไม่มีอะไรต้องกังวล



          นอกจากนี้ ได้เตรียมแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการกระตุ้นการผลิต เศรษฐกิจท้องถิ่น เพื่อรองรับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงาน การผลิต และตลาด ฉะนั้นจากวันนี้ไปจะต้องมีการเตรียมแผนงานทั้งการผลิต ตลาด และการขนส่ง โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส) เข้ามาคุมแผนการผลิตและปล่อยสินเชื่อให้ภาคการเกษตรและท้องถิ่น ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า และได้เชิญภาคเอกชน ที่เป็นชูเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศ เข้ามาตกลงร่วมกันว่า จะช่วยกระจายสินค้าช่วยเกษตรกรอย่างไรโดยปตท. ได้เข้ามาร่วมด้วย เพราะปั๊มน้ำมันแต่ละแห่งของปตท. มีทั้งเซเว่น เคอรี่และไปรษณีย์ไทย ที่จะช่วยเรื่องโลจิสติกส์ได้ ฉะนั้นจะให้ ปตท. เข้ามามองแผนด้านการตลาดร่วมกับภาคเอกชน เพื่อช่วยให้เกษตรกรสามารถเดินหน้าต่อไปได้



ศาลจังหวัดสีคิ้ว สั่งปรับ ผู้ต้องหายักยอกเงินเยียวยาโควิด 5,000 บาท ขณะที่เจ้าตัวโพสต์ข้อความถึง รมว.คลังจะช่วยเหลืออย่างไร



          จากกรณีนายบุญใหล มอมขุนทด อายุ 71 ปี อาชีพขายเฉาก๊วย ที่อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ถูกนายพัฒนา รัปชัย หรือ อเล็กซ์ อายุ 21 ปี ทำทีอาสาลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา ตามมาตรการช่วยเหลือประชาชนได้รับผลกระทบจากแพร่ระบาดโควิด-19 ของรัฐบาล เนื่องจากไม่รู้เรื่องและทำไม่เป็น โดยใชับัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาปากช่อง ที่ใช้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ



         หลังจากนั้น นายพัฒนาฉวยโอกาสที่อาสากดเงินแทน โอนเงินต่างธนาคารผ่านระบบ ORFT เข้าบัญชีตัวเอง 3,975 บาท หักค่าธรรมเนียมธนาคาร 25 บาท แล้วกดเงินสด 1,000 บาทให้โดยที่นายบุญใหลไม่รู้ ภายหลังความแตกเพราะชาวบ้านระบุว่า รัฐบาลโอนเงินเยียวยามาให้ 5,000 บาท แล้วเมื่อปรับสมุดบัญชีพบว่านายพัฒนาแอบโอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง ตำรวจจึงควบคุมนายพัฒนาดำเนินคดี และยอมรับสารภาพ เพราะครอบครัวกำลังเดือดร้อน รถที่นำไปซ่อมไม่มีเงินจ่าย อัยการจังหวัดสีคิ้ว (ปากช่อง) ได้นำตัวนายพัฒนาส่งฟ้องศาลจังหวัดสีคิ้ว (ปากช่อง) ต่อมาศาลพิพากษาจำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี ขณะที่ชาวเน็ตต่างให้ความช่วยเหลือนายบุญใหลโดยการโอนเงินเข้าบัญชีเป็นจำนวนมาก ทำให้มียอดบริจาค 100,000บาท



          ล่าสุด เฟซบุ๊ก "พัฒนา รัปชัย" ซึ่งเป็นผู้ต้องหาโพสต์ข้อความ ฝากกระซิบถึง รมต.คลังว่า ถ้าเคสนี้ประชาชนไม่ช่วยเหลือกันเอง ท่านจะมีมาตรการอย่างไรที่จะช่วยเหลือคนพวกนี้ ขอฝากในฐานะที่มีประสบการณ์ตรงกับคนในสลัมในตอนท้าย นายพัฒนาได้กล่าวขอโทษหลายฝ่าย และกล่าวว่า เรื่องเสียงวิพากษ์วิจารณ์คงห้ามไม่ได้ ได้แต่ตั้งหน้ารับกรรมในสิ่งที่ตัวเองทำไป จากนี้ไปขอกลับตัวกลับใจจริงๆ รู้สึกผิดและแย่กับตัวเองจริงๆ 

ข่าวทั้งหมด

X