ทันสถานการณ์โลก 06.30น.ประจำวันศุกร์ที่ 17 เมษายน 2563

ทันสถานการณ์โลก 06.30น.ประจำวันศุกร์ที่ 17 เมษายน 2563

สวิตเซอร์แลนด์เริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ตั้งแต่ปลายเดือนนี้

            รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง และการควบคุมโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายนนี้ หลังจากที่มีการบังคับใช้เมื่อเดือนที่แล้ว โดยโรงพยาบาลจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินงานได้ทุกแผนกรวมถึงการผ่าตัดเสริมความงาม พร้อมกับให้เปิดร้านเสริมสวย ร้านนวดได้

           ส่วนโรงเรียนภาคบังคับ ร้านค้าและตลาดให้เปิดทำการตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคมเป็นต้นไป    จากนั้นโรงเรียนมัธยม โรงเรียนอาชีวศึกษา และมหาวิทยาลัยให้เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน แต่ยังห้ามจัดการชุมนุม หรือจัดกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 5 คน

          ประธานาธิบดีซีโมเน็ตตา ซอมมารูกา แห่งสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวว่า การแพร่กระจายของโควิด-19 เริ่มช้าลงแล้ว และโรงพยาบาลยังสามารถรองรับได้ สิ่งที่สำคัญในเวลานี้คือความแน่ใจว่าจะไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก และสวิตเซอร์แลนด์ไม่ต้องการกลับไปเริ่มต้นใหม่ จึงขอให้ทุกคนยึดติดกับมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม และสุขอนามัยที่วางไว้

          สวิตเซอร์แลนด์มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่า 1,000 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อสะสมเกือบ 27,000 คน แต่อัตราการติดเชื้อชะลอตัวลงในไม่กี่วันมานี้  ขณะที่รัฐบาลกำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น จากประชาชนและกลุ่มธุรกิจที่ต้องการกลับมาทำการอีกครั้ง แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการช่วยเหลือหลายด้าน แต่เศรษฐกิจของประเทศก็อาจหดตัวลงร้อยละ 10 ในปีนี้

องค์การอนามัยโลก เตือนยุโรปเร็วเกินไปที่จะเปิดเมือง

          นายฮานส์ คลูจ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ประจำภูมิภาคยุโรป กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในยุโรปได้เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าจนเกือบแตะ 1,000,000คนแล้ว และช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาที่ยุโรปเข้าสู่ช่วงวิกฤต ที่ยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้ติดเชื้อประมาณครึ่งหนึ่งของทั้งโลกอยู่ในยุโรป นอกจากนี้ ยุโรปยังมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 84,000 ราย

            ส่วนที่บางประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง โดยให้เปิดเรียน และสถานที่ทำงานในเวลานี้ ว่าเป็นการตัดสินใจที่เร็วเกินไป เพราะไม่มีทางด่วนในการกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ โดยผู้ประกอบการและนักการเมืองทั่วโลกต่างเป็นกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดกับเศรษฐกิจเมื่อต้องปิดเมืองเป็นเวลานาน หลายประเทศในยุโรป อาทิ เยอรมนี เดนมาร์ก สเปน เริ่มมีการหารือเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการควบคุมแล้ว

สหรัฐฯเตรียมเปิดเมืองเร็วๆนี้

           ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯเปิดเผยว่า ข้อมูลการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่รวบรวมมาจากทุกรัฐ ทั่วประเทศ แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯได้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่มีผู้ป่วยใหม่เพิ่มสูงสุดแล้ว และยังคงเป้าหมายเดิมที่จะให้เปิดเมืองอีกครั้งในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ โดยอาจมีบางรัฐที่จะเปิดเมืองเร็วกว่านั้น โดยรัฐบาลจะเริ่มจัดทำหลักเกณฑ์การปฏิบัติในการเปิดเมืองในวันนี้ หลังการหารือกับผู้ว่าการรัฐต่างๆทั้ง 50 รัฐเสร็จแล้ว

            ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องการจะให้ประเทศกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว เพื่อให้ทุกคนจะได้กลับไปทำงาน เด็กๆจะได้กลับไปเรียนหนังสือ พร้อมคาดว่า ตัวเลขผู้ป่วยใหม่จะเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งของการแถลงข่าว นักข่าวถามว่าเหตุใดสหรัฐฯจึงมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 จำนวนมาก ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่า ประเทศอื่นๆ ปกปิดข้อมูลตัวเลขผู้เสียชีวิต ทั้งย้อนถามว่า ทุกคนเชื่อจริงๆหรือว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตของหลายประเทศ รวมถึงประเทศจีนเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง

          นอกจากนั้น ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังกล่าวด้วยว่าสหรัฐฯจะเดินหน้าตรวจสอบรายงานที่ว่าเชื้อไวรัสโคโรนาที่เป็นสาเหตุของโรคโควิด-19 มีต้นตอจากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์แห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น ไม่ใช่จากตลาดสดในเมืองอู่ฮั่น ตามที่มีการเสนอข่าวก่อนหน้านี้

          ส่วนความเคลื่อนไหวอื่น ๆ ในสหรัฐฯ ผู้ว่าการรัฐคอนเนคติกัต, แมร์รีแลนด์, นิวยอร์ก และเพนซิลเวเนีย ออกระเบียบปฏิบัติให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยตลอดช่วงเวลาที่มีการเปิดเมืองในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งประชาชนเริ่มกลับมาทำงานหรือกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ

          ทั้งนี้สหรัฐฯมีผู้ป่วยสะสม 666,949 คน เสียชีวิต 33,875 ราย เพิ่มขึ้น1,287 ราย ในวันเดียว ส่วนใหญ่ในรัฐนิวยอร์ก รองลงมาคือรัฐมิชิแกนและรัฐอิลลินอยส์ ส่วนยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก อยู่ที่ 2,142,701 คน ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้น 56,270 คน เสียชีวิต 143,115 ราย เพิ่มขึ้น 4,496 ราย

จีนตอบโต้สหรัฐฯ ไม่มีหลักฐานว่าโควิด-19 มาจากห้องปฏิบัติการในจีน

           กระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงปฏิเสธข้อกล่าวหาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่ว่าเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นสาเหตุของโรคโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกมากกว่า 2 ล้านคน มีที่มาจากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ไม่ใช่ตลาดค้าสัตว์ป่าในเมืองอู่ฮั่น โดยนายจ้าว หลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุว่า องค์การอนามัยโลกได้รายงานแล้วว่าไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่รองรับข้อกล่าวหาของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

          ก่อนหน้านี้ นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า ทางการจีนต้องทำความสะอาดในสิ่งที่พวกเขารู้  ส่วนพล.อ.มาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะผู้บริหารร่วม เปิดเผยว่า มีรายงานของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ที่ระบุว่ามีแนวโน้มว่าไวรัสโคโรนาจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งต่างจากเชื้อที่สร้างจากห้องปฏิบัติการในประเทศจีน แต่ก็ยังต้องตรวจสอบสถานการณ์นี้อย่างละเอียด

ราคาน้ำมันโลก ในตลาดนิวยอร์คคงที่ –หุ้นดาวโจนส์เพิ่มเล็กน้อย-ทองคำลดลง

          ราคาน้ำมันปิดผสมผสานหลังระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปี สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม คงที่ ปิดที่ 19.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ ปิดที่ 27.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

         หลังทบวงพลังงานสากลปรับลดคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้จะลดลง 9.3 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ถือว่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เช่นเดียวกันโอเปกก็ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบลง โดยประมาณการว่าอุปสงค์พลังงานโลกจะลดลง 6.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2020 เมื่อเทียบกับปีนี้

          ส่วนของตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดในแดนบวกวันพฤหัสบดี(16เม.ย.) หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศลุยเดินเครื่องเศรษฐกิจ แม้ข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่ออกมาชุดล่าสุดยังคงมืดมน ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 33.33 จุด ปิดที่ 23,537.68 จุด

        กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยในวันพฤหัสบดี(16เม.ย.) มีคนงานอเมริกันอีก 5.2 ล้านคนที่ยื่นขอรับสิทธิประโยชน์คนว่างงานในสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้ยอดรวมตลอด 4 สัปดาห์ ตามหลังมาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพิ่มเป็น 22 ล้านคนแล้ว รวมถึงจำนวนที่อยู่อาศัยเริ่มสร้าง (Housing Starts) ในสหรัฐฯ ยังลดลงถึงร้อยละ22.3 ในเดือนมีนาคม ขณะที่ยอดขออนุญาตก่อสร้างบ้านใหม่ลดลงร้อยละ 6.8

            ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(16เม.ย.) ปิดลบเล็กน้อย ถูกกดดันจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 8.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,731.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

สิงคโปร์ติดเชื้อวันเดียว กว่า 700 คน

           กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพิ่มเติมถึง 728 คน นับเป็นสถิติรายวันสูงสุด ตั้งแต่มีการแพร่ระบาด ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อสะสมของประเทศอยู่ที่ 4,427 คน ผู้ติดเชื้อรายใหม่นั้น มีอยู่ถึง 654 คน ที่เกี่ยวข้องกับหอพักแรงงานต่างด้าว ส่วนที่เหลือเป็นการแพร่ระบาดในท้องถิ่น การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วภายในชุมชนแรงงานต่างด้าวครั้งใหญ่ ย้ำในสิ่งที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่า สิงคโปร์ยังประสานงานไม่ดีนัก ในความพยายามควบคุมการแพร่ระบาด

          ข้อมูลล่าสุดของสิงคโปร์ ส่งผลให้พวกเขายังเป็นชาติที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดอันดับ 4 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอันดับ 1 ยังเป็นของฟิลิปปินส์ ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 5,660 คน หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 207 คน  ขณะที่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 13 คน ยอดผู้เสียวิตสะสมอยู่ที่ 362 คน

           รองลงมาได้แก่ อินโดนีเซีย มีสถานการณ์ที่ยอดผู้ติดเชื้ออาจจะมาอยู่ในอันดับ 1 แทนฟิลิปปินส์เร็วๆ นี้ โดยในอินโดนีเซีย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 380 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 5,516 คน ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมมี 27 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 496 ราย

           อันดับ 3 เป็นของมาเลเซีย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 110 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 5,182 คน ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม1 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 84 ราย ส่วนไทย รั้งอันดับ 5 หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 29 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 2,672 คน นอกจากนี้ยังพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 3 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 46 ราย

รถฉุกเฉินในรัสเซีย ประสบปัญหาจราจร เพราะต้องออกไปรับผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโวรัสโคโรนา

           เมื่อปัญหาการจราจรแออัดบนท้องถนนสายต่างๆของกรุงมอสโกไม่เป็นประเด็นอีกต่อไป จากมาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) แต่หน่วยแพทย์ฉุกเฉินของเมืองต้องประสบกับอีกปัญหาอย่างไม่คาดฝัน นั่นคือรถฉุกเฉินต่อแถวยาวหลายกิโลเมตรด้านนอกโรงพยาบาลต่างๆ ระหว่างนำส่งคนไข้และบุคคลต้องสงสัยติดเชื้อ ภาพรถฉุกเฉินต่อแถวยาวเหยียดถูกบันทึกได้บริเวณด้านนอกของโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ทางภาคเหนือของกรุงมอสโกเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(10เม.ย.) โดยในวิดีโอที่เผยแพร่โดยสื่อมวลชนรัสเซียยังเผยให้เห็นว่ารถตู้ประดับตรากาชาดไม่ได้ติดขัดบนถนนที่มุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลเท่านั้น แต่ยังมีมาที่จอดอยู่ข้างทาง หลังปรับสถานพยาบาลเป็นโรงพยาบาลสนาม คนไข้และผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 ต้องรอนานถึง 15 ชั่วโมงกว่าจะถึงมือแพทย์ รัสเซีย มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 27,938 คน เสียชีวิต 232 ราย