นายกรัฐมนตรีโจเซฟ จูธ แห่งเฮติ ประกาศว่าจะอนุญาตให้อุตสาหกรรมสิ่งทอเปิดทำการได้ในสัปดาห์หน้า แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 แต่เนื่องจากเฮติเป็นประเทศยากจนที่พบผู้ติดเชื้อซึ่งได้รับการยืนยัน 41 คน เสียชีวิต 3 ราย นอกจากนี้เฮติยังมีปัญหาขาดแคลนน้ำ และโครงสร้างพื้นฐานด้านสุขอนามัยและบริการด้านสุขภาพที่ไม่เพียงพอ แต่ใช้มาตรการป้องกันด้วยการเปิดรับนักท่องเที่ยวน้อยลงและประกาศภาวะฉุกเฉินหลังจากตรวจพบผู้ติดเชื้อ 2 คนแรกเมื่อเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ทั้งให้ปิดพรมแดน โรงเรียน ศาสนสถาน และนิคมอุตสาหกรรม
นายกรัฐมนตรีเฮติ กล่าวว่า การบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉินจะหมดอายุลงในเร็ว ๆ นี้ และรัฐบาลกำลังพิจารณาว่าจะขยายเวลาออกไปหรือไม่ แต่จะอนุญาตให้ภาคการผลิตสิ่งทอ ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 90 ของการส่งออกจะเริ่มการทำงานในวันจันทร์หน้า โดยคาดว่าจะทำได้ประมาณร้อยละ 30 ของกำลังการผลิตเพราะยังต้องใช้มาตรการระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
ทุกประเทศทั่วโลกกำลังถกเถียงกันว่าควรจะผ่อนคลายการปิดเมือง และมาตรการควบคุมโรคอย่างไร เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสควบคู่ไปกับการให้ภาคธุรกิจ อุสาหกรรมกลับมาดำเนินงานอีกครั้ง ซึ่งภาคอุตสาหกรรมของเฮติ ระบุว่า สำหรับแรงงานแล้ว คำถามในเวลานี้ คือการเลือกว่าจะตายจากความหิวโหยหรือโควิด-19 เมื่อรัฐบาลมีทรัพยากรทางการเงินไม่เพียงพอที่จะช่วยเหลือแรงงาน
ด้าน เอทเซอร์ เอมิล นักเศรษฐศาสตร์ชาวเฮติ เห็นว่า โรงงานเหล่านี้ไม่ต้องการที่จะสูญเสียรายได้เนื่องจากการที่ต้องหยุดการทำงานเป็นเวลานาน โดยตั้งแต่เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว โรงงานสิ่งทอประมาณ 1 ใน 3 ก็เริ่มกลับมาทำงานแล้ว เพื่อผลิตหน้ากากผ้าและเสื้อผ้าทางการแพทย์
...