ออมสิน ใช้ระบบจัดคิว ลงทะเบียนขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำออนไลน์
การเปิดให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ลงทะเบียนขอเข้าร่วมโครงการสินเชื่อฉุกเฉินดอกเบี้ยต่ำ วงเงิน 10,000-50,000 บาท ของธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เมื่อวานนี้เป็นวันแรก 15 เม.ย. พบว่ามีคนพลาดหวังจากการขอเงินเยียวยาโควิด 5,000 บาท แห่มาลงทะเบียนขอกู้เงินผ่านช่องทางออนไลน์กันจำนวนมาก ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 08.00 น.จนทำให้ระบบล่มไม่สามารถลงทะเบียนได้ จนต้องปิดระบบปรับปรุงชั่วคราวและจะเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้งในวันที่ 16 เม.ย. ตั้งแต่เวลา 8.00 น. เป็นต้นไป
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เตรียมใช้ระบบจัดคิวให้เข้าลงทะเบียนขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำออนไลน์ แก้ปัญหาคนแห่เข้าจนระบบล่ม ย้ำหลังลงทะเบียนจะนัดมายื่นหลักฐานและทำสัญญากู้ในวันที่ 7 พ.ค. เจ้าหน้าที่จะจัดระบบทยอยให้ไปทำสัญญา การลงทะเบียนเป็นเพียงการคัดกรองเบื้องต้น หากในวันที่มาทำสัญญาแล้วคุณสมบัติไม่เข้าเงื่อนไขก็ไม่สามารถที่จะขอกู้เงินได้ เพราะธนาคารต้องพิจารณาให้รอบคอบเพื่อไม่ให้การปล่อยกู้เป็นหนี้เสีย และหลังจากทำสัญญาวันที่ 7 พ.ค.แล้ว คาดว่า อย่างเร็วที่สุดผู้กู้จะได้เงินในวันที่ 8 -9 พ.ค.
ธนาคารออมสิน ปล่อยกู้ 2 รูปแบบ สำหรับผู้มีอาชีพอิสระ วงเงินกู้ต่อรายสูงสุด 10,000 บาท ดอกเบี้ยคงที่ ร้อยละ 0.10 ต่อเดือน ผ่อนชำระสูงสุด 24 เดือน หรือ 2 ปี ไม่ต้องผ่อน 6 งวดแรก ส่วนผู้มีรายได้ประจำ วงเงินกู้ต่อรายสูงสุด 50,000 บาท ดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.35 ต่อเดือน ผ่อนชำระสูงสุด 3 ปี
ผู้ประกันตนรับสิทธิว่างงานจากเหตุสุดวิสัย 62% ของค่าจ้างรายวัน ไม่เกิน 90 วัน
คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบให้ขยายความครอบคลุมผู้ประกันตนมาตรา 33 ว่างงานจากเหตุสุดวิสัย เพื่อให้ผู้ประกันตนที่ว่างงานจากผลกระทบจากโควิด-19 สามารถได้รับสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานร้อยละ 62 ของค่าจ้างรายวัน ไม่เกิน 90 วัน ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
- กรณีผู้ประกันตนไม่ได้ทำงาน หรือนายจ้าง ไม่ให้ทำงาน กักตัว 14 วัน เนื่องจากสัมผัสหรือใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19
-ครม.มีมติเห็นชอบให้ขยายความครอบคลุม กรณีผู้ประกันตนไม่สามารถทำงานได้และไม่ได้รับค่าจ้างในระหว่างนั้น ไม่ว่านายจ้างจะหยุดประกอบกิจการเอง หรือหยุดประกอบกิจการ ตามคำสั่งของทางราชการ ผู้ประกันตนมีสิทธิรับเงินกรณีว่างงานร้อยละ 62 ของค่าจ้างรายวัน ไม่เกิน 90 วัน เช่นกัน กระทรวงแรงงาน อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อให้ออกเป็นราชกิจจานุเบกษาและประกาศให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว
ครม.เห็นชอบผ่าน พ.ร.ก.เงินกู้ 3 ฉบับ
นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ครม.เห็นชอบร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) 3 ฉบับ ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจสอบแล้ว คือ
1.ร่างพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท
2.ร่างพ.ร.ก.ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สามารถออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) 500,000 ล้านบาท
3.ร่างพ.ร.ก.ให้อำนาจ ธปท.สามารถเข้าไปซื้อตราสารหนี้ เอกชนคุณภาพดีที่ครบกำหนดชำระ 400,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนจากนี้ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ก่อนประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
นายประสงค์ กล่าวว่า กระทรวงการคลัง มองว่า ร่าง พ.ร.ก.ที่ให้กระทรวงการคลังกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท กระบวนการกู้เงินน่าจะเริ่มทำได้ช่วงปลายเดือนเม.ย.หรือต้นเดือนพ.ค. แต่ไม่ใช่เป็นการกู้ทีเดียวทั้งก้อน 1 ล้านล้านบาท เพื่อมาเยียวยาผู้ที่เดือดร้อน การใช้เงินต้องเป็นขั้นตอน ขณะนี้ รัฐบาลจะใช้เงินก้อนแรกจากงบกลางรายการสำรองในกรณีฉุกเฉินและจำเป็นปี 2563 และปรับงบประมาณบางส่วนมาเป็นงบกลางฯ พร้อมปรับปรุงแผนงานของบประมาณปี 2564 มาใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ถ้าไม่พอ จึงจะนำ เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทมาเสริม
การใช้เงินกู้จะแยกเป็น 3 ส่วนคือ
1.ใช้ในระบบสาธารณสุขโดยเฉพาะเพื่อดูแลป้องกันรักษาประชาชนทั้งหมด 40,000 ล้านบาท โดยในส่วนนี้ได้รวมเรื่องวัคซีนสำหรับประชาชนทุกคน 60 ล้านคนไว้แล้ว
2. เงินเยียวยา 5,000 บาท สำหรับลูกจ้างรายวันผู้ทำงานอิสระ และจะมีกลุ่มอื่นๆ เพิ่มเติมขึ้นมาอีกวงเงิน 555,000 ล้านบาท
3.ภายหลังการระบาดของโควิด-19 คลี่คลายแล้วจะต้องมีการฟื้นฟูประเทศใช้วงเงิน 400,000 ล้านบาท
ส่วนการช่วยเหลือด้วยการให้เงินเยียวยาเกษตรกรจะต้องรอให้พ.ร.ก.กู้เงินออกมาก่อน จากนั้นจึงกำหนดหลักเกณฑ์ การช่วยเหลือจะครอบคลุมอย่างไรบ้าง เพราะต้องเป็นเกษตรกรที่ได้รับผล กระทบจากโควิด-19 โดยตรง เท่าที่เห็นชัดเจนตอนนี้คือเกษตรกรที่ปลูกกล้วยไม้ที่ส่งออกไม่ได้ เป็นต้น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 24 เซนต์ ปิดที่ 19.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.91 ดอลลาร์ ปิดที่ 27.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทบวงพลังงานสากล(ไออีเอ) เตือนถึงแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันดิบในปีนี้ลดลงมากสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บีบให้ประเทศต่างๆทั่วโลกต้องปิดเศรษฐกิจประเทศตัวเอง
น้ำมันตลาดโลก ปิดตลาดร่วงลงต่ำกว่า 20 ดอลลาร์ฯ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดวันพุธดิ่งลงแรง จากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ชี้ให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวอย่างรุนแรง ท่ามกลางวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 ดาวโจนส์ ลดลง 445.41 จุด หรือร้อยละ1.86 ปิดที่ 23,504.35 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 62.70 จุด หรือร้อยละ 2.20 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 2,783.36 จุด แนสแดค ลดลง 122.56 จุด หรือร้อยละ1.44 ปิดที่ 8,393.18 จุด เนื่องจาก ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือนมี.ค. ลดลงมาก ขณะที่ ผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนเดียวกัน ลดลงหนักหน่วงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1946 ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯหดตัวลงอย่างรุนแรง นอกจากนี้ ในรายงานอื่นๆ แสดงให้เห็นว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านที่ลดลงอย่างหนักและสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจลดลง เนื่องจาก ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
ราคาทองคำ ปิดลบหนักสุดในรอบสัปดาห์ จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน หลังจากสถิติปิดสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี หนึ่งวันก่อนหน้านี้ ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 28.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,740.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ไออาต้า ประเมินสายการบินทั่วโลก ขาดทุน 314,000 ล้านดอลลาร์ฯ
สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) รายงานว่า สายการบินทั่วโลก จะขาดทุนจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เพิ่มเป็น 314,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงกว่าประมาณการก่อนหน้านี้มากกว่าร้อยละ 25 เนื่องจาก เศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรง คาดว่าจะมีความล่าช้ากว่าที่คาดในการเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศใหม่ คาดว่า รายได้จากผู้โดยสารในปี 2563 ลดลงร้อยละ 55 เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว นอกจากนี้ ไออาต้าคาดการณ์ว่า ปริมาณการขนส่งผู้โดยสารในปีนี้จะลดลงร้อยละ 48 จากเดิมที่คาดว่าจะลดลงเพียงร้อยละ 38
ไออาต้า เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจัดเตรียมสภาพคล่องให้กับสายการบินเพื่อช่วยให้รอดพ้นจากวิกฤต คาดว่า ตลาดการบินภายในประเทศจะเปิดก่อนเหมือนที่เกิดขึ้นในประเทศจีน และเที่ยวบินระหว่างประเทศจะเริ่มเปิดตามมาอย่างช้าๆ อย่างไรก็ดี การเปิดเที่ยวบินระหว่างประเทศจะยังคงมีปัญหาทางการเงินเพราะว่าสายการบินส่วนใหญ่มีรายได้จำนวนมากจากเส้นทางบินระหว่างประเทศ ไออาต้า เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ร่วมมือกันยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ และจัดประชุมระดับภูมิภาคเพื่อพิจารณา "แผนเริ่มต้นใหม่" ให้อุตสาหกรรมสายการบิน
CR:facebook ธนาคารออมสิน