ขอให้ชาวมุสลิม ปฎิบัติตัวตามคำแนะนำของจุฬาราชมนตรี
พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ขอให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนโดยเฉพาะชาวมุสลิมทราบถึงประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เนื่องจาก สัปดาห์น้าจะเข้าสู่ช่วงเดือนรอมฎอน จะมีการปฏิบัติศาสนกิจของชาวมุสลิมจำนวนมาก โดยประกาศดังกล่าวขอให้งดการละหมาดวันศุกร์และการละหมาดญะมาอะห์ที่มัสยิด และให้ละหมาดบ่าย (ดุรี) 4 รอกาอัต ที่บ้านแทน
สำหรับผู้บริหารมัสยิดให้จัดการละหมาดเฉพาะกลุ่มที่มีจำนวนไม่เกิน 5 คน และให้มีการเว้นระยะห่างในแถว อย่างน้อย 2 เมตร งดการจัดกิจกรรมและการรวมตัวกันเป็นกลุ่ม ได้แก่ การจัดงานการกุศลขององค์กรมัสยิด มูลนิธิ สมาคม ชมรม งานบรรยายศาสนธรรมประจำวัน ประจำสัปดาห์ ประจำเดือน การออกดะวะห์ (การเชิญชวนให้ศาสนิกทำความดี) ทั้งในมัสยิดและสถานที่ต่างๆ การเรียนการสอนศาสนา ทั้งการสอนอัลกุรอานและศาสนาภาคบังคับ โดยให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานของตนให้ทบทวนบทเรียนดังกล่าวภายในบ้าน งดหรือเลื่อนการจัดงานฉลองมงคลสมรสไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นหรือเข้าสู่สภาวะปกติ และหรือให้ทำพิธีนิกะฮ์ (สมรส) เฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้องไม่เกิน 10 คน รายละเอียดสามารถติดตามได้ในเว็บไซต์คณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร หรือเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ให้อยู่ในวงจำกัดต่อไป
สถานทูตไทยในอินโดฯ ขอรัฐบาลเช่าเหมาลำเที่ยวบินพาคนไทยกลับประเทศ
เฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ได้สำรวจความต้องการของผู้ประสงค์กลับไทยกรณีไม่มีเที่ยวบินพาณิชย์รวมถึงขออนุมัติจากรัฐบาลไทยในการเช่าเหมาลำเที่ยวบินเพื่อนำคนไทยกลับประเทศไทย ขณะเดียวกันมีการให้ความช่วยเหลือตามความจำเป็น ส่วนคนที่ต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตไทย ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน +62 811 186 253 และเฟซบุ๊ก Royal Thai Embassy, Jakarta
การดูแลช่วยเหลือคนไทยในประเทศอินโดนีเซียในสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา ประกอบด้วยกลุ่มนักเรียน นักศึกษาไทย จำนวน 1,717 คน ใน 37 เมือง ที่มีการส่งความช่วยเหลือให้นักศึกษาไทย เพื่อจัดหาอาหารแห้ง น้ำดื่ม และอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาด การส่งหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ 1,600 ชิ้น การสร้างกลุ่มไลน์นักศึกษาไทยที่อยู่ใน 37 เมือง เพื่อติดต่อสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ และลงทะเบียนนักศึกษาไทย รวมถึงการสำรองอาหารและน้ำดื่มเพื่อส่งให้ยามขาดแคลน ขณะที่เอกอัครราชทูตไทยฯ มีหนังสือถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆที่มีนักศึกษาไทยศึกษาอยู่ เพื่อขอให้ช่วยดูแลสวัสติภาพของนักศึกษาไทย
กลุ่มคนไทยที่เข้าร่วมกิจกรรมดาวะห์ 100 คน และกลุ่มคนไทยที่เข้าร่วมกิจกรรมดาวะห์ในเมืองเมดาน จำนวน 9 คน มีการมอบข้าวสาร 100 กิโลกรัมแก่กลุ่มคนไทยดาวะห์ 100 คน การจัดตรวจ Rapid Test 100 คนที่โรงพยาบาลในกรุงจาการ์ตา
การส่งคนไทย 76 คน กลับประเทศไทยโดยเที่ยวบินเช่าเหมาลำ การจัดที่พักให้ 24 คนที่ไม่ผ่านการตรวจสุขภาพเพื่อกักตัวเฝ้าระวัง การส่ง 19 คนที่มีอาการป่วย เข้ารักษาโรงพยาบาลในกรุงจาการ์ตา การจัดที่พักให้กลุ่มดาวะห์-เมดาน 9 คน รวมถึงมีการมอบอาหาร หน้ากากอนามัย ยา และเจล แอลกอฮอล์ล้างมือ
พังงา ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 เป็นแม่เด็กป่วยรายแรกของเกาะยาวใหญ่
สาธารณสุขจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จ.พังงา แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 1 คน ใน ต.เกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา ผู้ป่วยคนนี้เป็นแม่ที่ติดเชื้อจากลูกชายวัย 8 ขวบ ซึ่งเป็นผู้ป่วยคนแรก ทำให้ขณะนี้ตัวเลขติดเชื้อสะสมของจังหวัดอยู่ที่ 2 คน รายละเอียดของผู้ป่วยที่เป็นแม่ เดิมทำงานอยู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เคยเดินทางไปเกาะยาว จ.พังงา เมื่อวันที่ 23 มี.ค. และวันที่ 24 มี.ค.ญาติที่อยู่เกาะลันตา จ.กระบี่ ได้เดินทางมาเยี่ยมครอบครัว และเดินทางไปอีกหลายที่ จากนั้นเดินทางกลับไปที่จ.กระบี่ในวันที่ 27 มี.ค. ต่อมาพบว่าญาติ 3 คน ติดโควิด-19
ผู้ป่วยรายนี้เคยถูกเก็บตัวอย่างส่งตรวจไปแล้วเมื่อวันที่ 7 เม.ย.แต่ผลตรวจไม่พบเชื้อ จากนั้น 9 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตรวจพบเชื้อในตัวของลูกชายวัย 8 ขวบ จึงได้นำตัวเธอตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง และระหว่างรอผลให้อยู่ในห้องแยกโรคโรงพยาบาลพังงา พร้อมติดตามอาการทุกวัน จนล่าสุดผลตรวจประเมินความเสี่ยง เบื้องต้น คาดว่า ได้รับเชื้อจากญาติในจังหวัดกระบี่ที่เดินทางมาเยี่ยม
ผู้ป่วยรายที่ 5 ของขอนแก่นติดจากลูกที่กลับจากบาห์เรน
ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 5 ของจังหวัดขอนแก่น นายศุภชัย ลีเขาสูง นายอำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น ประชุมสาธารณสุขอำเภอ ผอ.รพ.น้ำพอง และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับรายละเอียดของผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นหญิงอายุ 63 ปี ชาวอำเภอน้ำพอง ว่า ได้เดินทางมารับบริการที่ รพ.สต.กุดน้ำใส ด้วยอาการไข้ หนาวสั่น ครั่นเนื้อครั่นตัว มีน้ำมูกใส และให้ข้อมูลว่าลูกชายเพิ่งกลับมาจากบาห์เรน ช่วงปลายเดือนก.พ. แต่ตรวจโรคผ่านแล้ว แพทย์ รพ.สต.ให้ยาตามอาการ จากนั้นกลับมาหาหมอที่ รพ.สต.อีกครั้ง ด้วยอาการคลื่นไส้ อาเจียน จุกเสียดแน่นท้อง เนื่องจากกินแกงเห็ดใส่ผักหวาน แพทย์ให้ยาตามอาการ จากนั้น ผู้ป่วย เริ่มมีไข้ เหนื่อยเพลีย ไปพบแพทย์ที่คลินิกแห่งหนึ่งในตลาดน้ำพอง ได้ยากลับบ้านไปรับประทาน วันที่ 8 เม.ย.อาการไม่ดีขึ้น เหนื่อย อ่อนเพลีย ประกอบกับคนไข้มีโรคประจำตัว เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ลูกจึงพาส่ง รพ.น้ำพอง และรักษาตัวมาจนถึงวันที่ 13 เม.ย.จากนั้นถูกส่งตัวมาตรวจที่ รพ.ขอนแก่น และผลตรวจโควิด-19 ครั้งที่ 1 ยืนยันผลเป็นบวก
สอบถามลูกชายที่เป็นสาวประเภท 2 ทราบว่า วันที่ 28 ก.พ. ออกจากบาห์เรนมาพร้อมเพื่อนอีก 2 คน แต่เพื่อน 2 คนไม่ผ่านการตรวจคัดกรอง ตัวเองจึงเดินทางกลับไทยคนเดียว และมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิวันที่ 29 ก.พ. จากนั้นนั่งรถทัวร์นครชัยแอร์ถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 3 จังหวัดขอนแก่น และนั่งรถตู้สายหนองบัวลำภูกลับบ้านที่อำเภอน้ำพอง จากนั้นช่วงต้นเดือน มี.ค.ไปเที่ยวพัทยา และเดินทางกลับมาที่ จ.ขอนแก่น
ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดคนขับรถเมล์สาย 140 พบบางคนเกี่ยวข้องกับคนในสถานบันเทิง
นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง การตรวจสอบบุคคลใกล้ชิดคนขับรถเมล์สาย 140 ที่เสียชีวิตว่าจากการตรวจสอบย้อนหลัง เริ่มมีอาการเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ถึง 2 เม.ย.ระหว่างที่มีอาการยังคงไปทำงานขับรถเมล์อยู่ อย่างไรก็ตาม ผู้เสียชีวิตพักอาศัยคนเดียว จึงไม่มีคนในครอบครัวสัมผัสใกล้ชิด แต่พบว่ากลุ่มเสี่ยงสูง คือ กลุ่มเพื่อนที่ร่วมวงสังสรรค์ด้วยกันรวมทั้งหมด 10 คน ในจำนวนนี้ตรวจพบเชื้อ 7 คน และจากประวัติพบว่าในเพื่อนที่ร่วมวงดื่มสังสรรค์ 1 คนมีประวัติเกี่ยวข้องกับสาวเสิร์ฟย่านทองหล่อ ส่วนกลุ่มเพื่อนร่วมงานที่ ขสมก. เช่น กระเป๋ารถเมล์ ผู้ที่ทำงานในกะเดียวกัน พนักงานขับรถต่างๆ รวมกันแล้ว 9 คนที่เป็นผู้สัมผัส แต่มีความเสี่ยงระดับปานกลางไปจนถึงต่ำ กลุ่มนี้ตรวจแล้วไม่พบผู้ติดเชื้อ และกลุ่มผู้โดยสารถือว่ามีความเสี่ยงน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่สวมใส่หน้ากากอนามัย แต่หากมีไข้หรือไม่สบายสามารถไปพบแพทย์ได้
พบหญิงวัย 65 ปี เสียชีวิตรายแรกในจ.เชียงใหม่
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมโควิด-19 คงที่ 40 คน และไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 แต่กลับพบผู้เสียชีวิตเป็นรายแรกของจังหวัด ผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นหญิงอายุ 65 ปี มีโรคประจำตัว ความดันสูง และไต เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตั้งแต่กลางเดือนที่แล้ว และสัปดาห์ก่อนเริ่มมีอาการแทรกซ้อน ติดเชื้อในกระแสเลือด เสียชีวิตลงเมื่อค่ำวานนี้ ขณะนี้เก็บศพไว้ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ รอให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศล
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ บอกว่า แม้จะมีผู้เสียชีวิต แต่ที่ผ่านมาหน่วยราชการในพื้นที่คุมเข้มเฝ้าระวังตามมาตรการอย่างจริงจัง ส่วนประชาชนให้ความร่วมมือปฏิบัติตาม ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อคงที่อยู่ในระดับควบคุมสถานการณ์ได้ ต่อไปจังหวัดอาจมีการผ่อนปรนบางมาตรการเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
แฟ้มภาพ facebook จุฬาราชมนตรี