‘ภูเก็ต’ พบผู้ป่วยใหม่เพิ่ม 3 คนเจ้าหน้าที่คุมเขัมการคัดกรองคน พบยังมีชาวบ้านไม่ให้ความร่วมมือ

         คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ขอแจ้งให้ทราบว่า ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.– 14 เม.ย. จ.ภูเก็ตมีผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 แล้ว 191 คน  (รายใหม่ 3 คน) โดยผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้าน 77 คน กำลังรักษาพยาบาลอยู่ 113 คน ในจำนวนนี้ อาการรุนแรง 3 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต ที่เหลืออาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

          สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 รายใหม่ ทั้ง 3 คน มีรายละเอียดดังนี้

- ลำดับที่ 1 รายที่ 189 ชายไทย อายุ 33 ปี อาชีพช่างพนักงานร้านทำกระจกในบางเทา เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 187 พักอาศัยที่บางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 2 เมษายน 2563  มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 15 คน

- ลำดับที่ 2 รายที่ 190 หญิงไทย อายุ 47 ปี   อาชีพทำอาหารขายในบางเทา เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 177 พักอาศัยที่บางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 28 มีนาคม 2563  มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 2 คน

- ลำดับที่ 3 รายที่ 191 เด็กหญิงไทย อายุ 12 ปี  อาชีพนักเรียน เป็นบุตรสาวของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 190 และพักอาศัยที่บ้านหลังเดียวกันในบางเทา ต.เชิงทะเล อ. ถลาง เริ่มมีอาการป่วยวันที่ 14 เมษายน 2563  มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 2 คน

          โดยผู้ป่วยทุกราย ทีมงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตและผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสอบสวน ควบคุม ป้องกันโรคตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข​สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 ที่พบเพิ่มในวันนี้ ทั้งหมดอาศัยและทำงานอยู่ในเขตบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง และเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด ที่มีความเสี่ยงสูงเช่นพักอาศัยในบ้านเดียวกัน ทำงานในที่เดียวกันกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ในพื้นที่ ซึ่งจากข้อมูลข้างต้นนี้จะเห็นได้ว่าโรคโควิด-19 สามารถติดต่อจาก คนไปสู่คนได้ง่ายโดยเฉพาะบุคคลใกล้ชิด

          สำหรับ จ.ภูเก็ต ยังพบว่าชาวบ้านในบางหมู่บ้าน ยังไม่ค่อยให้ความร่วมมือ แต่เมื่อภายหลังพบว่าคนในหมู่บ้านซึ่งเป็นช่าง ที่ไปให้บริการคนต่างชาติ ติดเชื้อเข้ามาในหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านเริ่มให้ความร่วมมือมากขึ้น แต่ก็สายไป โดยช่างคนดังกล่าวไปอยู่ในหมู่บ้านบางเทา ต.เชิงทะเล ทางขึ้นเกาะค้างคาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จากนั้นได้นำเชื้อไปติดคนในครอบครัว ซึ่งขณะนี้ส่วนท้องถิ่นมีการตั้งจุดคัดกรองจุดขึ้นเกาะค้างคาว และมีการคัดกรองคนเพิ่มขึ้น

          สำหรับผู้มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 2,471 คน (รายใหม่ 70 คน)โดยยังคงรักษาพยาบาล 177 คน ในจำนวนนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 64 คน กลับบ้านแล้ว 2,294 คน