ศบค.สกัดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจ.ยะลา-สงขลา พบการติดเชื้อถึงสามช่วงคน

          จังหวัดภาคใต้แม้ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อาจจะลดลงแต่ยังไม่น่าไว้วางใจ วันนี้ทีมระบาดวิทยาของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงรายละเอียดสาเหตุที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของ 2 จังหวัด คือ จ.ยะลา และ จ.สงขลา นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ จ.ยะลา มีจำนวน 82 คน อยู่อันดับที่ 5 จาก 68 จังหวัดที่พบผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ  จ.ยะลา เริ่มพบผู้ป่วยติดเชื้อ ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มบุคคลที่ไปร่วมพิธีศาสนาดาวะห์ที่ประเทศมาเลเซีย จากนั้นในวันที่ 23 มี.ค.พบผู้ป่วยติดเชื้อเป็นจำนวนมาก และตลอดทั้งเดือนมี.ค.มีการติดต่อเชื้อต่อกันตั้งแต่ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มดาวะห์และใกล้ชิดกับกลุ่มดาวะห์อีกที ในอัตราขึ้นๆ ลง ๆ  จนวันที่ 8 เม.ย.พบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากพบผู้ป่วยส่วนหนึ่งที่ไปร่วมพิธีศาสนาที่อ.บันนังสตา ด้วย

          ส่วนที่ จ.สงขลา แม้จะมีผู้ติดเชื้อ 56 คน น้อยกว่า จ.ยะลา แต่ก็พบผู้ติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่เข้าร่วมพิธีทางศาสนาดาวะห์ในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และ ปากีสถาน เช่นกัน โดยเฉพาะวันที่ 8 เม.ย.และวันที่ 11 เม.ย.มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นจะเห็นได้ว่าจังหวัดภาคใต้มีการติดเชื้อกันถึงสามช่วงคน  ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังอย่างมาก แม้ว่าคนที่กลับจากการเข้าร่วมพิธีทางศาสนาจะแข็งแรงแต่ก็ต้องระวังตัวและเว้นระยะห่างจากคนในครอบครัวที่อาจจะทำให้มีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้น ดังนั้นสิ่งที่ต้องการชี้แจงให้ชาวมุสลิมได้รับทราบ คือการรักษาสุขภาพซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ และจะต้องจัดสมดุลของชีวิตกับเรื่องของพิธีการต่างๆ ให้เหมาะสมเพื่อลดการติดโรคและปลอดเชื้อในพื้นที่โดยเร็ว