ประเทศไทยเสนอตั้งกองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับเชื้อไวรัสโควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในที่ประชุมสุดยอดอาเซียนสมัยพิเศษทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทวีความรุนแรงไปทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงเศรษฐกิจและสังคมด้วย คาดการณ์ว่าอัตราการเจริญเติบโตของจีดีพีโลกในปีนี้อาจจะติดลบถึงร้อยละ 1.5 และหากวิกฤตโควิด-19 ยืดเยื้อต่อไป ก็อาจจะติดลบไปถึงร้อยละ 4.7 และประเทศกำลังพัฒนาอาจสูญเสียรายได้กว่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ดังนั้นทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด ลดจำนวนผู้ติดเชื้อ หาแนวทางร่วมกันบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรอบด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า ไม่มีประเทศใดสามารถต่อสู้กับโรคโควิด-19 ได้ตามลำพัง
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นายกฯ เสนอแนวทางที่สำคัญ 5 ประการ คือ
-เสนอให้อาเซียนและประเทศบวกสาม ร่วมกันจัดตั้ง “กองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-19” โดยจัดสรรเงินที่มีอยู่แล้วเท่าที่สามารถตกลงกันได้ มาใช้ในการรับมือกับโควิด-19 รวมถึงการจัดซื้อชุดตรวจ อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล และอุปกรณ์การแพทย์ ตลอดจนเพื่อการศึกษาวิจัยคิดค้นยาและวัคซีน ให้อาเซียนสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว
-เสนอให้ร่วมกันอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ ผ่านพิธีการศุลกากรและการค้าชายแดนระหว่างกัน เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์และสินค้าที่จำเป็นในช่วงวิกฤติอย่างเพียงพอ
-เสนอให้เร่งรัดการเชื่อมโยงการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะการใช้มาตรฐานรหัสคิวอาร์โค้ด ที่เชื่อมโยงกันได้ ให้การค้าภายในภูมิภาคของเรามีความคล่องตัวมากขึ้น
-เสนอให้อาเซียนถอดบทเรียนและประสบการณ์จากการต่อสู้กับโควิด-19 เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับในอนาคต โดยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ และจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งจากภายในและการพึ่งพาตนเองของภูมิภาคในระยะยาวให้มากขึ้น
-ควรเสริมสร้างบทบาทของเลขาธิการอาเซียน ในฐานะผู้ประสานงานจัดระบบให้ความช่วยเหลืออย่างครอบคลุมและทันเหตุการณ์
ในตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า อาเซียนควรใช้โอกาสนี้มุ่งเสริมสร้างความเข้มแข็งของภูมิภาคนิยมและพหุภาคีนิยม โดยเน้นความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งภายในอาเซียน และกับภาคีภายนอก ในวันนี้เราต้องรอด วันหน้าเราต้องเข้มแข็ง
CR:รัฐบาลไทย