อู่ฮั่น แบ่งปันประสบการณ์รักษาโควิด-19 งดกักตัวผู้ป่วยที่บ้าน
นายหวัง สิงหวน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเหลยเสินซาน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลรักษาโควิด-19 ในนครอู่ฮั่น ของจีน ส่งเสริมการสวมใส่หน้ากากอนามัย นายหวัง กล่าวว่า บุคลากรทางการแพทย์ในแผนกที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 บางคน ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระยะแรกของการแพร่ระบาด เนื่องจากบุคลากรเหล่านั้นทั้งหมดไม่มีใครสวมใส่หน้ากากอนามัยแม้แต่คนเดียว พร้อมทั้งแนะนำว่าไม่ควรให้ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงกักตัวเองที่บ้าน เนื่องจากมีโอกาสแพร่เชื้อต่อไปยังสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัว เมืองอู่ฮั่น จึงตัดสินใจปรับเปลี่ยนสถานที่สาธารณะ รวมถึงโรงยิมและศูนย์จัดแสดงสินค้าให้เป็นโรงพยาบาลชั่วคราว 16 แห่ง เพื่อกักตัวผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง นับเป็นการตัดสินใจที่ประสบความสำเร็จ
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงว่า เมื่อวันอาทิตย์ จีนพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ที่มาจากต่างประเทศ 98 คน ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 1,378 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้สงสัยว่าจะติดเชื้อ ที่กำลังอยู่ระหว่างรอผลการตรวจอยู่ที่ 6 คน สถานการณ์ผู้ติดเชื้อล่าสุด ข้อมูลจากสถาบันจอนห์ ฮอปกิ้นส์ รายงานเมื่อเวลา 05.34 น.พบว่า จีน มีผู้ติดเชื้อ 83,213 คน เสียชีวิต 3,345 ราย
สิงคโปร์ เตรียมเรือนพักลอยน้ำให้แรงงานต่างชาติ ลดการแพร่ระบาด
สิงคโปร์ ยืนยันว่า เมื่อวันจันทร์ 13 เม.ย.พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 368 คน ทำสถิติเป็นวันที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเมื่อเวลา 05.51 น. อยู่ที่ 2,918 คน เสียชีวิต 9 ราย หลังจากเมื่อช่วงต้นๆได้รับคำยกย่องว่าเป็นหนึ่งในประเทศแบบอย่างที่สามารถรับมือได้ดีกับการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 แต่มาถึงเวลานี้สิงคโปร์ส่งสัญญาณแสดงว่าต้องคุมเข้มเพิ่มมากขึ้นในหลายเรื่อง เช่น เข้มงวดจำกัดการเดินทางเข้า-ออกประเทศ ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ สามารถยับยั้งการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อกลับเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวล โดยเฉพาะการแพร่ระบาดตามหอพักต่างๆซึ่งเป็นที่พักอาศัยของแรงงานต่างด้าว
ทางการกำลังจัดเตรียมเรือนพักลอยน้ำ ซึ่งปกติจะใช้งานในอุตสาหกรรมทางทะเลและนอกชายฝั่ง เพื่อไว้เป็นที่พักชั่วคราวสำหรับแรงงานต่างชาติหลายร้อยคนที่อาศัยกันอยู่อย่างแออัดในเรือนพักจนกลายเป็นจุดแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทางการสิงคโปร์ จะเคลื่อนย้ายแรงงานส่วนหนึ่งที่มีสุขภาพแข็งแรงไปยังที่พักอื่นๆที่ทางการเตรียมจัดหาไว้ให้ เช่น ค่ายทหาร ศูนย์แสดงสินค้า อาคารเคหะที่พักอาศัยที่ยังว่างอยู่ และเรือนพักลอยน้ำหรือที่เรียกกันว่า โรงแรมลอยน้ำ นายโคว์ บุน วาน รัฐมนตรีคมนาคมของสิงคโปร์ กล่าวว่า ที่พักที่เตรียมไว้รองรับผู้อาศัยได้หลายร้อยคน และเหมาะสมที่จะดำเนินการเรื่องการรักษาระยะห่างทางสังคม ภายในเรือนพักลอยน้ำ มีห้องพักพื้นฐานที่สะอาด ในหนึ่งห้อง มีเตียงนอน 3 เตียง สามารถใช้ชั้นดาดฟ้าสำหรับออกกำลังกายได้วันละ 1 ชั่วโมง ส่วนอาหารจะจัดส่งให้จากด้านนอกและส่งให้ถึงห้องพัก
กรุงมะนิลา ตั้งเป้า 1 สัปดาห์ต้องตรวจหาเชื้อให้กับประชาชนกว่า 1,600 คน
กรุงมะนิลา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของฟิลิปปินส์ เริ่มการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับประชาชนเป็นจำนวนมากในกรุงมะนิลา โดยตั้งเป้าตรวจหาเชื้อให้กับประชาชนกว่า 1,600 คนต่อสัปดาห์ จะเน้นเฉพาะผู้ที่มีอาการรุนแรง เพื่อวินิจฉัยว่าติดเชื้อหรือไม่ สำนักงานสารนิเทศของรัฐบาลฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า นายฟรานซิสโก โดมาโกโซ นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลาอนุมัติให้มีการตรวจหาเชื้อที่อาคารกักกันตัวของสำนักงานสาธารณสุขกรุงมะนิลา และในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ 6 แห่งในกรุงมะนิลา ขณะที่รัฐบาล พยายามแยกตัวผู้ป่วยติดเชื้อออกจากชุมชน รัฐบาลฟิลิปปินส์ รายงานยอดติดเชื้อโควิด-19 ทั่วประเทศอยู่ที่ 4,932 คน และมีผู้เสียชีวิต 315 ราย
สนามบินนาริตะ จัดที่นอนชั่วคราวให้คนเข้าประเทศ รอผลตรวจโควิด-19
ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะของญี่ปุ่น จัดเตรียมที่พักชั่วคราว เป็นเตียงนอนทำจากกระดาษกล่องพร้อมหมอน ผ้าห่มและฟูกให้ผู้โดยสารเข้าประเทศ ระหว่างรอผลตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เที่ยวบินที่ท่าอากาศยานแห่งนี้ลดลงมากจนต้องปิดทางวิ่งไปหนึ่งทาง แต่ยังคงมีเที่ยวบินมาจากต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ อิตาลี ผู้โดยสารเข้าประเทศจะต้องตรวจหาเชื้อจึงจะออกจากท่าอากาศยานได้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เปิดเผยว่า ผลตรวจอาจทราบได้ภายใน 6 ชั่วโมง แต่อาจมีความล่าช้าที่ทำให้ผู้โดยสารต้องรออีกสองสามวัน ทางการจึงได้เตรียมพร้อมที่นอนทำจากกระดาษกล่องมารองรับผู้โดยสารเหล่านี้ในกรณีที่ที่พักใกล้เคียงไม่ว่าง จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการใช้งานเพราะยังมีที่พักเพียงพอ ปกติแล้วที่นอนกระดาษกล่องพร้อมเครื่องนอนมักใช้ตามศูนย์อพยพในยามที่เกิดภัยพิบัติหรือในยามที่ต้องการที่พักชั่วคราว ญี่ปุ่นประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 7 จังหวัดใหญ่เพื่อควบคุมสถานการณ์ ญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อ 7,370 คน เสียชีวิต 123 ราย
กรุงมอสโก รัสเซีย เพิ่มความเข้มงวดมาตรการปิดเมืองเพื่อชะลอโควิด-19
ทางการกรุงมอสโก ของรัสเซีย กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสม 11,513 คน เสียชีวิต 82 ราย กำลังพิจารณาออกใบอนุญาตดิจิทัลเพื่อลดการละเมิดมาตรการปิดเมืองเพื่อชะลอการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากเมื่อวันจันทร์13 เม.ย. ทางการรัสเซียรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 2,500 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุด จากที่เคยมีการรายงาน ล่าสุดรายงานเมื่อเวลา 05.47 น. มีผู้ติดเชื้อ18,328 เสียชีวิต 148 ราย
ทางการได้ออกบัตรโดยสารมากกว่า 800,000 ใบ สำหรับผู้ที่วางแผนจะเดินทางโดยรถยนต์ หรือระบบขนส่งสาธารณะ รวมถึงการนัดแพทย์ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันพุธนี้ 15 เม.ย. ผู้ที่ออกมาภายนอกที่พักจะต้องมีใบอนุญาตนี้ และแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ที่จะเรียกตรวจ โดยบัตรนี้จะหมดอายุในวันที่ 30 เม.ย. เว้นแต่บัตรสำหรับผู้ที่มีนัดแพทย์จะต้องมีการต่ออายุอีกครั้ง ส่วนผู้ที่ได้รับการยกเว้น คือ เจ้าหน้าที่ของทางการท้องถิ่น นักข่าวและอื่น ๆ กรุงมอสโก ประกาศใช้มาตรการปิดเมืองที่มีความเข้มงวดมาตั้งแต่ 30 มีนาคม แต่ก็ยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ระบุว่า โรงพยาบาลต่าง ๆ กำลังใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว
ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ประกาศพ้นจุดเลวร้ายสุดของวิกฤตโควิด-19
นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก สหรัฐฯ ประกาศว่า สถานการณ์เลวร้ายที่สุดของรัฐ ในวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จบลงไปแล้ว ตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ เมื่อเวลา 06.08น.อยู่ที่ 577,307 คน เสียชีวิต 23,219 ราย นายคูโอโม บอกว่า ค่าเฉลี่ยของอัตราผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลกับผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ชี้ว่าการแพร่ระบาดอยู่ในภาวะคงที่ และกำลังวางแผนกลับมาเปิดเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป และจะปรึกษากับผู้ว่าการรัฐต่างๆที่อยู่ติดกัน เพื่อหาแนวคิดเกี่ยวกับแผนเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง จะเริ่มจากภาคธุรกิจที่มีความจำเป็น ค่อยเป็นค่อยไป อย่างระมัดระวัง นอกจากนี้ นายคูโอโม สนับสนุนให้ชาวนิวยอร์ก ปฎิบัติตามคำแนะนำเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคมต่อไป โดยบอกว่าพฤติกรรมเลินเล่อเพียง 2 หรือ 3 วัน อาจทำให้ศึกการต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่หวนคืนมา
ฝรั่งเศส ขยายเวลาล็อคดาวน์ ออกไปถึง11พ.ค.
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส กล่าวปราศรัยทางโทรทัศน์ทั่วประเทศว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19กำลังเริ่มทรงตัวและความหวังกำลังกลับคืนมา แต่การควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัดด้วยการล็อคดาวน์ห้ามประชาชนออกนอกบ้านจะยังมีผลต่อไปจนถึงวันจันทร์ที่ 11 พ.ค. ผู้นำฝรั่งเศส เตือนว่า การผ่อนปรนมาตรการล็อคดาวน์มีความเป็นไปได้ หากเรายังเป็นประชาชนที่ดี รับผิดชอบและเคารพกฎ และถ้าการแพร่ระบาดลดน้อยต่อไป โรงเรียนก็จะเริ่มทำการเรียนการสอนได้อีกครั้งในวันที่ 11 พ.ค.เช่นกัน แต่ร้านอาหารและคาเฟ่จะต้องปิดต่อไป เช่นเดียวกับพรมแดนที่ติดกับประเทศที่ไม่ใช่สมาชิกอียู ตัวเลขผู้ติดเชื้อของฝรั่งเศส เมื่อเวลา 06.14 น. อยู่ที่ 137,875 คน เสียชีวิต 14,986 ราย
สหราชอาณาจักร ขอให้รอมั่นใจก่อนถึงจะผ่อนคลายมาตรการ
รัฐบาลสหราชอาณาจักร เตือนว่ายังไม่สามารถยกเลิกมาตรการล็อคดาวน์ทั่วประเทศเร็วๆนี้ หลังข้อมูลชี้ยังไม่ถึงจุดพีคของการแพร่ระบาด นายโดมินิก ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศแห่งสหราชอาณาจักร ทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ที่เพิ่งหายป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 บอกว่าพอมีสัญญาณในแง่บวกอยู่บ้างในพัฒนาการของสถานการณ์ แต่ก็เตือนว่า เรายังไม่ผ่านพ้นจุดพีคของไวรัส คณะรัฐมนตรี จะประชุมในวันพฤหัสบดี 16 เม.ย. เพื่อตัดสินว่าจะคงมาตรการล็อคดาวน์ 3 สัปดาห์ ต่อไปหรือไม่ โดยกฎระเบียบดังกล่าวได้กำหนดให้ปิดโรงเรียนและร้านค้าต่างๆ พร้อมสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน ยอมรับว่า ไม่คาดหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงๆในมาตรการปัจจุบันที่บังคับใช้อยู่ และเราจะไม่เปลี่ยนแปลงใดๆจนกว่าเราจะมั่นใจจริงๆว่าการเปลี่ยนแปลงนั้น สามารถกระทำได้อย่างปลอดภัย หากเราผ่อนปรนมาตรการต่างๆเร็วเกินไป เราเสี่ยงเจอกับการแพร่ระบาดของเชื้อระลอกสอง รายงานผู้ติดเชื้อเมื่อเวลา 06.17 น. มีจำนวนสะสม 89,569 คน เสียชีวิต 11,346 ราย
อุตสาหกรรมอินเดีย เตือนอาจเกิดความไม่สงบ หากนายกฯ ขยายเวลาปิดเมือง
ภาคอุตสาหกรรมของอินเดียเตือนนายกฯ นเรนทรา โมดีของอินเดีย ว่าหากมีการขยายเวลาบังคับใช้มาตรการปิดเมืองเพื่อควบคุมโควิด-19 ออกไปอีก อาจส่งผลให้เกิดความไม่สงบขึ้นได้ ตามที่มาตรการปิดเมืองจะหมดเวลาบังคับใช้ในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 14 เม.ย. และนายกฯ กล่าวว่า เขาอาจให้ขยายเวลาออกไปอีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อปิดกั้นการระบาดใหญ่ สำหรับประชาชน 1,300 ล้านคน และพบผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 9,150 คน เสียชีวิต 308 ราย
ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดีย เรียกเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่าเป็นนักฆ่าที่มองไม่เห็น อาจทำให้เกิดความเสียหายกับเศรษฐกิจ ขณะที่ สมาคมผู้ประกอบการร้านอาหาร ซึ่งมีสมาชิก 7,000,000 ล้านคน เตือนว่าอาจมีความไม่สงบทางสังคมหากรัฐบาลไม่ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ และลูกจ้าง
มาตรการที่รัฐบาลกำลังจะออกประกาศนี้ จะเป็นการให้ชาวเมืองเดลี มุมไบ และเมืองใหญ่อื่น ๆ อยู่บ้านเพื่อควบคุมโรค แต่ให้เปิดพื้นที่ชนบทของประเทศที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ รวมถึงจะใช้มาตรการผ่อนคลายสำหรับภาคการเกษตร เพื่อให้การผลิตและการขนส่งสินค้า ดำเนินไปตามปกติ นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอของผู้ประกอบการหลายกลุ่มที่แสดงความต้องการกลับมาดำเนินกิจการอีกครั้ง รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์
CR:NHK,BBC