โฆษก ศบค.เห็นว่า ยังไม่ควรผ่อนคลายมาตรการ ปชช.ยังต้องร่วมมือกัน90% ลดโควิด-19

          การแถลงตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ที่พบว่ามีตัวเลขลดลง จะสามารถผ่อนคลายมาตรการการทำงานที่บ้านได้หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่อยากให้ผ่อนคลายกันมากจนทำตัวเป็นปกติ สิ่งที่ต้องเน้นย้ำ คือ สถานการณ์ภายในประเทศ มีการล้อมรั้วดูแลภายในได้เป็นอย่างดี แต่สถานการณ์ต่างประเทศยังคงมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นซึ่งไม่น่าไว้วางใจ หากมีการดูแลพื้นที่อย่างดี จะสามารถผ่อนคลายให้มีการทำกิจกรรมทางสังคมได้ดีขึ้น แต่ต้องมีคณะกรรมการวิชาการที่อยู่ในพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 เป็นผู้วางมาตรการ ซึ่งขณะนี้มีการประชุมหารือกันอยู่โดยอธิบดีกรมควบคุมโรคเป็นผู้รายงาน และช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ชุดพฤติกรรมต้องมีการเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับปัจจุบัน กังวลใจว่าจะสามารถปรับตัวได้หรือไม่ หากตัวเลขการติดเชื้อวันนี้อยู่ที่ 28 คน ไม่ใช่เป็นตัวเลขอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่เป็นตัวเลขเมื่อ 7 วันที่แล้ว หากวันนี้ผ่อนคลาย อีก 7 วันข้างหน้าตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็จะเพิ่มขึ้น ดังนั้นจะลดมาตรการใดลงไม่ได้ ยังต้องให้ความร่วมมือกันร้อยละ 90 ขึ้นไป

           นพ.ทวีศิลป์ ย้ำเตือนว่า ช่วงนี้ไม่สามารถรวมกลุ่มตั้งวงก๊งเหล้าในเวลากลางวันได้ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจาก มีประกาศห้ามจำหน่ายสุราซึ่งมีจุดประสงค์ไม่ให้เกิดการรวมกลุ่มเพื่อเกิดการติดโรค ซึ่งมีแต่ความเสี่ยงทั้งสิ้น ขอให้ทุกคนลด ละ เลิก ตนเองในฐานะจิตแพทย์ขอเตือนกลุ่มที่ดื่มหนักและต้องหยุดการดื่มอาจเกิดอาการลงแดง มือสั่นและประสาทหลอน ให้รีบพบแพทย์ก่อน ซึ่งแพทย์จะมียาทดแทนการดื่มเพื่อลดอาการมือสั่น ประสาทหลอน หูแว่ว

           ส่วนการประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหสถานในเวลา 22.00 -04.00 น.ทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ พบผู้กระทำความผิดออกนอกเคหสถานคืนวันที่ 12 เม.ย. 820 คน ลดลงจากคืนวันที่ 11 เม.ย. 108 คน แต่มีกลุ่มที่ออกมามั่วสุมชุมนุมกัน 135 คน มากกว่าคืนก่อนหน้านี้ 79 คน 

          การกระจายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์จากบริษัทไปรษณีย์ไทยขณะนี้จำนวนรับเข้าในระบบทั้งสิ้น 16,036,500 ชิ้น อยู่ระหว่างการจัดส่ง 1,869,500 ชิ้น และส่งแล้วจำนวน 14,167,000 ชิ้น