ผู้ป่วยโควิด-19 กลับบ้านได้เพิ่ม 70 คน รวม 1,288 คน พบรายใหม่ 28 คน

          นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์วันที่ 13 เม.ย. 2563

-ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หายดีเพิ่มขึ้น 70 คน  กลับบ้านแล้วรวม 1,288 คน ใน 68 จังหวัด

-ผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 28 คน ผู้ป่วยสะสม 2,579 คน ทิศทางมีแนวโน้มลดลง แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 12 คน จ.ภูเก็ต 6 คน จ.ชลบุรี จ.ยะลา จ.สตูล 2 คน จ.ชุมพร จ.นครพนม จ.นนทบุรี จ.เลย 1 คน มาจาก 2 กลุ่มใหญ่

     1.กลุ่มที่ 1 เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 25 คน

        -ผู้ป่วยมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันหรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 18 คน

         - รายที่ 39 ชายไทย อายุ 56 ปี มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ เริ่มมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 7 มี.ค. จากนั้น วันที่ 14 มี.ค.รักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ด้วยอาการไข้ 38 องศา ไอ หอบเหนื่อย แพทย์วินิจฉัยสงสัยเป็นไข้หวัดใหญ่ จึงส่งตรวจทั้งไข้หวัดสายพันธุ์เอ,บี และส่งตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย แต่ผลตรวจไข้หวัด 2 ชนิดเป็นลบ ยืนยันติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากนั้นวันที่ 23 มี.ค. มีอาการเหนื่อยมากขึ้น แพทย์จึงใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตในวันที่ 12 เม.ย.

        -รายที่ 40 ชายไทย อายุ 43 ปี อาชีพพนักงานบริษัท มีโรคประจำตัว คือโรคเบาหวาน ไตวายเรื้อรัง ไขมันในเลือดสูง เริ่มมีอาการป่วย 23 มี.ค.ไข้สูง 39.4 องศา ไอ มีน้ำมูก เหนื่อยหอบ จนเข้ารักษาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และแพทย์ให้กลับบ้าน จนวันที่ 5 เม.ย. อาการไม่ดีขึ้น จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งเดิม แพทย์วินิจฉัยว่าปอดติดเชื้อ พร้อมส่งตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ผลยืนยันติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อมาวันที่ 9 เม.ย.มีอาการหอบเหนื่อยมากขึ้น ความเข้มข้นของเลือดในออกซิเจนลดลง จนเสียชีวิตวันที่ 11 เม.ย.

       กรุงเทพฯ เป็นอันดับหนึ่งที่พบว่ามีจำนวนคนที่ติดเชื้อรวม 1,306 คน อันดับ 2 จ.ภูเก็ต มีผู้ติดเชื้อรวม 182 คน และอันดับ 3 จ.นนทบุรี มีผู้ติดเชื้อ 150 คน

       ขณะที่อีก 9 จังหวัด ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี อ่างทอง

       ส่วนอันดับจังหวัดที่มีอัตราผู้ป่วยสูงสุดในอัตราผู้ป่วยต่อ 100,000 คน อันดับ 1 ยังคงเป็น จ.ภูเก็ต ร้อยละ 44.03 คน รองลงมาคือกรุงเทพฯ ทั้งนี้แนวโน้มอัตราผู้ป่วยในต่างจังหวัดลดลง แต่ในส่วนของกรุงเทพฯ ยังไม่นิ่ง