มาตรการสกัดโควิด-19 ทางหลวงทุกสายโล่งมาก
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สั่งการให้ กรมทางหลวง (ทล.) ติดตามสถานการณ์การเดินทางของประชาชนออกต่างจังหวัดหรือกลับภูมิลำเนาในระยะนี้อย่างใกล้ชิด แม้ว่า รัฐบาลได้ประกาศยกเลิกจัดงานเทศกาลสงกรานต์และไม่เป็นวันหยุดราชการ นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เปิดเผยว่า วันที่ 10 เม.ย. 2563 เกิดอุบัติเหตุรวม 37 ครั้ง ลดลงร้อยละ 81 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์วันที่ 11 เม.ย. 2562 ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 5 ราย ลดลงร้อยละ 87 และบาดเจ็บ 24 คน ลดลงร้อยละ 89
สภาพการจราจรบนทางหลวง ในภาพรวมของวันที่ 11 เม.ย. มีความคล่องตัวอย่างมาก มีปริมาณรถที่เดินทาง ออกจากกรุงเทพฯ โดยใช้ทางหลวงสายหลัก และมอเตอร์เวย์ จำนวนทั้งสิ้น 408,706 คัน น้อยกว่าช่วงเวลาปกติร้อยละ 33 และ น้อยกว่าสงกรานต์ปี 2562 จำนวนร้อยละ 44
การเดินทางบนทางหลวงสายหลัก ด้านทิศเหนือ ทางหลวงหมายเลข 1 (วังน้อย) ปริมาณจราจรขาออก 43,233 คัน/วัน น้อยกว่าช่วงเวลาปกติร้อยละ 40 น้อยกว่าสงกรานต์ปีที่แล้วร้อยละ 66
ทางหลวงหมายเลข 32 (บางปะอิน) ปริมาณจราจร ขาออก 44,443 คัน/วัน น้อยกว่าช่วงเวลาปกติร้อยละ 35 น้อยกว่าสงกรานต์ปีที่แล้วร้อยละ 53 และทางหลวงหมายเลข 347 (บางปะอิน) ปริมาณจราจร ขาออก 13,279 คัน/วัน น้อยกว่าช่วงเวลาปกติร้อยละ 49 น้อยกว่าสงกรานต์ ปีที่แล้วร้อยละ 66
ขณะที่ การเดินทางบนทางหลวงสายหลักด้านทิศตะวันตก ทางหลวงหมายเลข 4 (นครชัยศรี) ปริมาณจราจร ขาออก 47,469 คัน/วัน น้อยกว่าช่วงเวลาปกติร้อยละ 34 น้อยกว่าสงกรานต์ปีที่แล้วร้อยละ 27
ทางหลวงหมายเลข 35 (สมุทรสาคร) ปริมาณจราจร ขาออก 55,534 คัน/วัน น้อยกว่าช่วงเวลาปกติร้อยละ 28 น้อยกว่าสงกรานต์ปีที่แล้วร้อยละ 41
ทางหลวงหมายเลข 340 (บางบัวทอง) ปริมาณจราจร ขาออก 33,606 คัน/วัน น้อยกว่าช่วงเวลาปกติร้อยละ 27 น้อยกว่าสงกรานต์ ปีที่แล้วร้อยละ 35
ส่วนการเดินทางบนทางหลวงสายหลักด้านทิศตะวันออก ทางหลวงหมายเลข 304 (มีนบุรี) ปริมาณจราจร ขาออก 28,248 คัน/วัน น้อยกว่าช่วงเวลาปกติร้อยละ 21 น้อยกว่าสงกรานต์ปีที่แล้วร้อยละ 24
ทางหลวงหมายเลข 305 (องค์รักษ์) ปริมาณจราจร ขาออก 11,829 คัน/วัน น้อยกว่าช่วงเวลาปกติร้อยละ 40 น้อยกว่าสงกรานต์ปีที่แล้วร้อยละ 55
ทางหลวงหมายเลข 34 (สมุทรปราการ) ปริมาณจราจร ขาออก 101,568 คัน/วัน น้อยกว่าช่วงเวลาปกติ ร้อยละ 24 น้อยกว่า สงกรานต์ปีที่แล้วร้อยละ 23 รวมถึงมอเตอร์เวย์ M 7 (ด่านฯ ลาดกระบัง) ปริมาณจราจร ขาออก 29,497 คัน/วัน น้อยกว่า ช่วงเวลาปกติร้อยละ 52 น้อยกว่าสงกรานต์ ปีที่แล้วร้อยละ 50
ตร.นครบาล คุมเข้มห้ามเล่นสงกรานต์ มีความผิดเท่ากับผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล คุมเข้มห้ามเล่นสงกรานต์ พบเท่ากับผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่จัดกำลังออกตรวจสาดน้ำในบ้าน จับได้ทันที พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.น.(รับผิดชอบงาน กศ.2) กล่าวถึง กรณีห้ามจัดกิจกรรมวันสงกรานต์ 2563 ว่า ในส่วนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ปฏิบัติตามประกาศข้อกำหนด กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ซึ่งเป็น 1 ใน 8 หน่วยของ ศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 (ศบค.) ที่สามารถออกข้อกำหนดเองได้ โดยอ้างตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยกระทรวงวัฒนธรรม ออกข้อกำหนดว่า “งดการจัดกิจกรรมสงกรานต์ในทุกระดับ” เมื่อมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าตรวจค้นได้ โดยไม่ต้องขอหมายค้นมีเพียงหมายจับที่ยังต้องขอศาล ดังนั้น ใครทำผิดข้อกำหนด ถือว่าฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน บช.น.ได้จัดกำลังออกตรวจหากพบเห็น หรือได้รับแจ้งจัดกิจกรรมสงกรานต์รวมถึงในบ้าน จะทำการจับกุมดำเนินคดีทันที โทษจำคุก 2 ปี ปรับ 40,000 บาท
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ขอความร่วมมือประชาชนอย่าสังสรรค์ในช่วงสงกรานต์ เพราะสถิติตัวเลขจากเมาแล้วขับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในช่วง 7 วันอันตราย มีอุบัติเหตุเกือบ 4,000 ครั้งในทุกๆ ปี พร้อมยืนยันว่าปีนี้ กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ยกเลิกกิจกรรมสงกรานต์ แม้ว่าวัฒนธรรมประเพณีหรือศาสนาจะมีความสำคัญในการสืบทอดแต่ก็ไม่สำคัญมากไปกว่าสุขภาพที่ส่งผลต่อชีวิตของทุกคน นอกจากนี้ พบว่าทุกจังหวัดรวมทั้งกรุงเทพฯ ประกาศห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากตระหนักถึงข้อมูลการติดเชื้อโควิด-19 มาจากการสังสรรค์ในพื้นที่ที่มีการจำหน่ายสุรา
หากจะต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา กลุ่มช่วงอายุ 20-29 ปี, 30-39 ปี, 40-49 ปี จะต้องอยู่ห่างจากผู้สูงอายุอย่างน้อย 2 เมตรทุกวัน และงดการรดน้ำอวยพรอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปส่งต่อให้กับญาติผู้ใหญ่ได้ รวมถึงห้ามทำกิจกรรมรดน้ำ-เล่นน้ำ ทุกกรณี แม้จะอยู่ภายในบ้าน และขอให้ใช้วิธีสรงน้ำพระพุทธรูปแทน
ศบค. แถลงว่า การฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกนอกเคหสถาน เมื่อคืนวันที่ 11 เม.ย. มีผู้ฝ่าฝืน 926 คน สาเหตุเกิดจากการดื่มสุราจนกลับบ้านไม่ทัน ทำให้ถูกดำเนินคดี 752 คน ตักเตือน 174 คน ขณะที่ผู้ที่ฝ่าฝืนด้วยการจับกลุ่มมั่วสุม 58 คน ถูกดำเนินคดีทุกคน
จับกลุ่มไลฟ์ FB ที่จ.ร้อยเอ็ด ผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน- พ.ร.บ.โรคติดต่อ
คดีอาชญากรรม ที่โลกโซเชียลมีเดีย วิพากษ์วิจารณ์ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่เล่นน้ำสงกรานต์ บริเวณหน้าบ้าน ในหมู่บ้านหนองฟ้า ตำบลโพธิ์ทอง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมตะโกนส่งเสียงดัง อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทั้งที่ภาครัฐขอความร่วมมืองดเล่นน้ำสงกรานต์ เนื่องจาก อาจนำพาเชื้อโรคจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ตำรวจสถานีตำรวจภูธรโพธิ์ทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคง ตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว พร้อมควบคุมตัวกลุ่มคนที่เล่นน้ำสงกรานต์จำนวน 5 คนมาดำเนินคดี นำโดย นายเอมภิราช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี, นายชัยพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี, นายสามพราน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี, นายชัยวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี และ น.ส.อรพิน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี จากการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด พบเป็นสีม่วง 3 คน ตำรวจได้นำตัวไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลเพื่อใช้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ได้เล่นน้ำสงกรานต์ มั่วสุมกันตามที่ถ่ายทอดสดในเฟซบุ๊กไลฟ์จริง จึงได้แจ้งข้อหาชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกันโดยฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.โรคติดต่อ และ ประกาศจังหวัดร้อยเอ็ด สำหรับนายเอมภิราช หรือตี๋ เป็นลูกจ้างชั่วคราว องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โพธิ์ทอง และเป็นลูกชายรองประธานสภา อบต.โพธิ์ทอง
เสนอปิดร้านเหล้า ที่ จ.สมุทรสาคร ปล่อยวัยรุ่นมั่วสุม-เสพยา
นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร รับแจ้งว่ามีร้านเหล้าลักลอบเปิดบริการ มีการมั่วสุมดื่มสุราและเปิดเพลงเต้นเสียงดัง บริเวณศูนย์การค้าแลนด์มาร์ก ภายในร้าน Mega เลขที่ 336/89 ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ได้ประสาน พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี แก้วเอี่ยม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร นำกำลังไปตรวจสอบ โดยมี พ.ต.ท.อภิวิทย์ แจ่มแจ้ง สวป.สภ.เมืองสมุทรสาคร นายสิริพงษ์ กลัดเจริญ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่สมาชิกกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองสมุทรสาครที่ 1 และเจ้าหน้าที่ ตำรวจสภ.เมืองสมุทรสาคร เข้าร่วม
ภายในร้านดังกล่าวด้านหน้าปิดประตูแต่มีเสียงเพลงลอดออกมาด้านนอก เจ้าหน้าที่จึงเรียกคนที่อยู่ด้านในเพื่อสอบถามพบ นายธนะพัฒน์ ตันบวรไชยเจริญ อายุ 29 ปี เป็นเจ้าของร้าน และมีกลุ่มวัยรุ่นอีก 21 คน กำลังมั่วสุมดื่มสุรากันอย่างสนุกสนาน จากการตรวจค้นภายในร้าน พบสารเสพติดเคตามีน จำนวนหนึ่ง นายธนะพัฒน์ รับเป็นเจ้าของ และตรวจค้นกลุ่มวัยรุ่นพบยาเคตามีน น้ำหนักประมาณ 3.84 กรัม บรรจุห่อพลาสติกซ่อนอยู่ที่ขอบกางเกงชั้นในของ นายวรทัต เจษฎาลักษณ์ อายุ 30 ปี จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางไว้ ขณะที่ นักเที่ยวบางคนบอกยอมฝ่าฝืนเคอร์ฟิวเพราะเคยดื่มกินเป็นประจำ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมแจ้งข้อกล่าวหากลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดว่าร่วมกันชุมนุม มั่วสุมกัน อันเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ส่วนนายวรทัต เจษฎาลักษณ์ ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมมีสารเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และนายธนะพัฒน์ ถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืนประกาศจังหวัด เรื่อง ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว, ฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่ 22/2558 ที่ปล่อยให้มีขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่ากำหนดเวลาตามที่มีกฎหมายบัญญัติ และยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มียาเสพติดเข้าไปในสถานที่ของตน พร้อมมีสารเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะดำเนินการเสนอจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเสนอปิดสถานที่ดังกล่าวเป็นเวลา 5 ปี
CR:Facebook กรมทางหลวง