ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รายงานสถิติผู้ติดเชื้อไวรัสฯของไทยลดลงอย่างต่อเนื่องในรอบ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา นพ.โสภณ เอี่ยมสิริถาวร ผู้อำนวยการโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ยืนยันว่า แม้สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น แต่จะไม่ประมาท และจะมีการสอบสวนโรคกับผู้สัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้านี้ เพื่อหาผู้ติดเชื้อให้ได้อย่างรวดเร็วต่อไป แต่ขณะนี้ยังมีความเป็นห่วงบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีโอกาสติดเชื้อในบริบทต่าง ๆ เช่นเดียวกับประชาชน โดยอัตราประมาณร้อยละ 60 เกี่ยวข้องกับการปฎิบัติงานกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ และร้อยละ 20 มีโอกาสติดเชื้อไวรัสเช่นเดียวกับประชาชน และร้อยละ 20 อยู่ในส่วนอื่นๆ ซึ่งอยู่ระหว่างการหาข้อมูล จึงเน้นย้ำเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน โดยให้งดการรวมกลุ่ม และแยกรับประทานอาหาร เป็นต้น
ส่วนยอดผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 1,295 คน ในจำนวนนี้ถ้าเทียบกับอัตราการหายดีแล้ว ถือว่าไทยมีผู้ป่วยที่หายดีอยู่ในอันดับต้น ๆ เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ จึงขอให้มั่นใจว่าไทยมีจำนวนเตียงเพียงพอรักษาผู้ป่วยแน่นอน กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีเตียงรองรับผู้ป่วยมากถึง 1,900 เตียง ซึ่งยังไม่รวมต่างจังหวัด ที่มีอยู่เกือบ 10,000เตียง นอกจากนี้ไทยจะมีผู้ป่วยที่หายดีเพิ่มมากขึ้นอีก เพราะส่วนใหญ่มีอาการคงที่
สำหรับในจังหวัดภาคใต้ที่มีการปูพรมตรวจค้นหาเชิงรุก แบบเคาะประตูบ้าน โดยเฉพาะที่จังหวัดภูเก็ต มีการตรวจค้นเชิงรุก แบ่งเป็น
-กลุ่มเสี่ยงคือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ ก็มีการพบผู้ติดเชื้อ ร้อยละ 9
-กลุ่มอาการป่วยประวัติสัมผัสไม่ชัดเจน พบการติดเชื้อ ร้อยละ 3.9
-ตรวจหาจากประชาชนทั่วไปกว่า 2,000คน อัตราการพบการติดเชื้อ ร้อยละ 1.1
ทั้งนี้ มีการตรวจไปแล้วกว่า 3,000คน หากมีการดำเนินการในเชิงรุกที่เน้นการจัดการอย่างมีคุณภาพ จะพบผู้ติดเชื้อได้เร็วขึ้น นอกจากนี้การตรวจยังเป็นไปตามข้อเสนอของพื้นที่ ที่เน้นการตรวจคัดกรองผู้มีความเสี่ยงสูงเท่านั้น ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดการใช้ทรัพยากรทางการแพทย์แบบไม่คุ้มค่า
นอกจากนี้ ยังต้องมีการทบทวนเรื่องการรักษาและติดตามผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายดี เพื่อป้องกันการกลับมามีผลบวกซ้ำอีกโดยจะมีการนำเชื้อไวรัสฯของผู้ป่วยที่หายดีแล้วไปเพาะเชื้อซ้ำ เพื่อให้แน่ใจว่าหายดีแล้ว
...