ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ของสหรัฐฯ ระบุว่า ณ วันที่ 11 เมษายน สหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างน้อย 20,389 ราย และผู้ติดเชื้อสะสมที่ 524, 903 คน โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตของสหรัฐฯ มีจำนวนมากกว่าอิตาลีแล้ว และกลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก
รัฐนิวยอร์กยังคงเป็นรัฐที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในสหรัฐฯ ณ วันที่ 11 เมษายน มีผู้เสียชีวิตในรัฐนิวยอร์กอยู่ที่ 8,627 ราย ขณะที่นายบิลล์ เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก กล่าวว่า โรงเรียนรัฐในนครนิวยอร์กยังคงปิดเรียนไปจนถึงสิ้นสุดปีการศึกษา เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กกลับไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของนายแอนดรูว์ คูโอโม่ ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ซึ่งเน้นย้ำในเวลาต่อมาว่า อำนาจการตัดสินใจอยู่ที่เขา และนายเดอ บลาซิโอไม่สามารถตัดสินใจโดยปราศจากการประสานงานได้ เนื่องจากการทำงานทั่วรัฐนิวยอร์กควรดำเนินไปด้วยกัน
ทั้งนี้ รัฐบาลกลางสหรัฐฯ อยู่ระหว่างดำเนินมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม จนถึงวันที่ 30 เมษายน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะตัดสินใจว่าจะขยายเวลาหรือไม่ หรือจะสนับสนุนให้ประชาชนกลับมาทำงาน และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้น ซึ่งนายทรัมป์ กล่าวว่า จะตัดสินใจในสัปดาห์หน้า ซึ่งตัวเลขทางเศรษฐกิจและตัวเลขทางสาธารณสุข จะเป็นสิ่งประกอบการตัดสินใจ
...