ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.ประจำวันศุกร์ที่ 10 เมษายน 256

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.ประจำวันศุกร์ที่ 10 เมษายน 256

สธ.ยืนยัน ชาวชัยภูมิไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 ซ้ำ

           กรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใน จ.ชัยภูมิ หายดีแล้วกลับมาป่วยอีกนั้น นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ชี้แจงว่า จากการดูประวัติแล้วไม่น่าจะเป็นการติดเชื้อซ้ำ โดยเคสนี้ เริ่มพบอาการป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่กทม. ซึ่งเมื่อรักษาจนหายดีครบ 14 วันแล้ว แพทย์จึงให้กลับบ้าน แล้วแยกตัวจากครอบครัวต่ออีก 14 วัน โดยต้องชมคนไข้เพราะแยกตัวดีมาก แต่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาผู้ป่วยคนนี้พบว่าตัวเองไม่สบาย มีน้ำมูก และไข้ จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลหนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ พบว่ามีเชื้อไวรัส แต่ไม่มีไข้ ซึ่งแพทย์เอ็กซเรย์ปอดแล้วก็เป็นปกติ

          จากความเป็นไปได้ 2 แนวทาง คือ ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสซ้ำ หรือไม่ได้ป่วยซ้ำ ในการตรวจสอบพบว่าเป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย ส่วนเชื้อโควิด-19 ที่พบคือเป็นซากของเชื้อที่ไม่มีชีวิต ไม่สามารถกลับมาแพร่เชื้อได้อีก

          อย่างไรก็ตาม กรมการแพทย์จะลองแยกเชื้อไวรัสที่พบ และทำการศึกษาว่ายังสามารถเพาะเชื้อไวรัสได้อีกหรือไม่ แต่ในต่างประเทศได้ยืนยันแล้วว่าไม่สามารถเพาะเชื้อไวรัสได้ จึงสรุปได้ว่า ผู้ป่วยรายนี้ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสซ้ำ แต่เพื่อความปลอดภัยจึงให้คนไข้นอนในหอผู้ป่วยเพื่อดูอาการต่อไป 

ผู้ป่วยต้องอยู่รพ.ครบ 14 วัน

          นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ได้ปรับแนวทางการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโดยให้ผู้ป่วยที่มีภาวะปอดอักเสบจะได้รับยา Favipiravir เร็วขึ้น โดยผู้ติดเชื้อไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อยคล้ายไข้หวัด จะต้องเข้ารับการดูแลในโรงพยาบาล หรือสถานที่ที่โรงพยาบาลจัดไว้ให้ เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน เพื่อความปลอดภัยของผู้ติดเชื้อและลดโอกาสแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นในสังคม และเมื่อแพทย์ประเมินว่าหายจากโรค ควรพักฟื้นต่อที่บ้าน หรือหากจำเป็นต้องไปทำงานให้พยายามแยกตัวห่างจากผู้อื่น และสวมหน้ากากอนามัยไว้ตลอด จนครบ 1 เดือนนับจากตรวจพบเชื้อหรือเริ่มมีอาการ

คลังหารือธ.ก.ส.ออกมาตรการช่วยเกษตรกร 9 ล้านครัวเรือน

          นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เรียกประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส.เป็นการเร่งด่วนนัดพิเศษในวันนี้  เพื่อสรุปมาตรการเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกร

           นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า  ในวันนี้จะสรุปมาตรการ หากจ่ายครอบครัวละ 15,000 บาทเหมือนอาชีพอิสระ จำนวน 9 ล้านครัวเรือน ก็จะใช้เงินไม่เกิน 130,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้เงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน ไม่ได้ใช้เงินของธนาคาร โดยจะจ่ายผ่านบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นลูกค้ามีบัญชีกับธนาคารทั้งหมด เหลือ 4 แสนครัวเรือนที่ไม่มีบัญชี

           นอกจากนี้ กลุ่มเกษตรกรที่ได้จะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับอาชีพอิสระที่ได้รับเงิน 5,000 บาท ผ่านการลงทะเบียนเว็บไซต์เราไม่ทิ้งกันหรือไม่ เพราะกระทรวงการคลังไม่ต้องการให้มาตรการช่วยเหลือซ้ำซ้อนกันและต้องการกระจายการช่วยเหลือไปให้ถึงจำนวนคนมากที่สุด 

           สำหรับกลุ่มเกษตรกรที่จะรับเงินช่วยเหลือจะครอบคลุมทั้งหมด ทั้งชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ประมง และปศุสัตว์ที่มีการลงทะเบียนไว้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประมาณ 9 ล้านครัวเรือน โดยไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่ เพราะกระทรวงเกษตรขึ้นทะเบียนไว้แล้วกว่า ร้อยละ 99 อาจจะมีส่วนเก็บตกบ้างนิดหน่อยเท่านั้น

ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

          ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนมีนาคมของปีนี้ อยู่ที่ระดับ 50.3 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมีนาคมอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และเมื่อประเมินเศรษฐกิจไทยขณะนี้ถือว่ากำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย จากภาวะเศรษฐกิจหดตัว การว่างงานเพิ่มขึ้น กระทบต่อรายได้ของผู้บริโภค กำลังซื้อลดลงในช่วงไตรมาส 2 และเมื่อเข้าสู่ไตรมาส 3 กำลังซื้อจะชะลอตัว ดังนั้น ในช่วง 3 เดือนจากนี้ (เมษายน ถึง มิถุนายน) จะเป็นตัวประเมินว่าการควบคุมปัญหาจะคลี่คลายได้หรือไม่

          จากการประเมินปัญหาทั้งภาคการท่องเที่ยว การบริโภค เศรษฐกิจ คาดการณ์ว่าครึ่งปีแรกของปีนี้ เม็ดเงินจะหายออกไปจากระบบเศรษฐกิจประมาณ 7 แสนล้านบาท และหากดูทั้งปีประกอบจากปัจจัยของการลงทุนลดลง ค้าชายแดนชะลอตัว การส่งออก คาดว่าเม็ดเงินจะหายไปจากระบบเศรษฐกิจถึง 1-1 ล้าน 5 แสนล้านบาท

อเมริกามอบ 8 ล้านดอลลาร์ช่วยไทยสู้โควิด-19

          นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภาให้การรับรองนายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร (H.E. Mr. Michael George DeSombre) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยมีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง และนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รองประธาน กรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภาและนายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภา ร่วมให้การรับรองด้วย

           ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ในขณะนี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention : CDC) มีความร่วมมือกับไทย ในการแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจะเพิ่มเงินสนับสนุนให้กับประเทศไทยอีก 8,000,000ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

เลื่อนประชุมครม.เป็น 15 เม.ย. หลังนายกฯติดภารกิจประชุมสุดยอดอาเซียน สมัยพิเศษ

          เลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ในสัปดาห์หน้าเป็นวันที่ 15 เมษายนเนื่องจากวันที่ 14 เมษายน พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องการแก้ไขปัญหาโควิด-19 มีภารกิจร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน และประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม จีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ สมัยพิเศษ เพื่อหารือร่วมกันถึงวิธีการรับมือการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยเวลา 08.00 น. เป็นการประชุมสุดยอดอาเซียน และเวลา 14.00 น. ประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ขณะที่การประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 15 เมษายน เป็นการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เชื่อมสัญญาณจากทำเนียบรัฐบาลไปยังรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง

ห้ามเล่นน้ำสงกรานต์ ผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

           ใกล้ถึงเทศกาลสงกรานต์ หรือ วันขึ้นปีใหม่ของไทย พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า หมออยากให้ทุกคนอยู่บ้านเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะนี้กระทรวงวัฒนธรรมได้ประกาศให้งดกิจกรรมหลายอย่าง เช่น การงดเดินทางกลับภูมิลำเนาเพราะเราอาจะเป็นคนที่นำเชื้อไปแพร่ให้คนที่บ้านและครอบครัว นอกจากนี้ ยังให้งดกิจกรรมรดน้ำดำหัว งดจำหน่ายสุรา ซึ่งขณะนี้ประกาศแล้ว 20-30 จังหวัด  จึงเชื่อว่าหลายพื้นที่โดยเฉพาะถนนคนเดินต่างๆจะไม่มีการจัดงานสงกรานต์แล้ว ในส่วนของรถสาธารณะก็ไม่มีให้บริการเช่นกัน ดังนั้น การเดินทางก็จะไม่สะดวกอย่างที่คิด แต่ตำรวจจะมีการตั้งด่านตรวจตามปกติ สิ่งที่ดีที่สุดคือการอยู่บ้าน ถือว่าเป็นการลดการเกิดอุบัติเหตุด้วย และปัจจุบันเราสามารถทำบุญ หรือใช้สื่อออนไลน์อวยพรได้

          ส่วนหากบางคนอ้างว่าไม่ได้เดินทาง แต่นำถังน้ำมาตั้งรอสาดน้ำบริเวณหน้าบ้านตัวเอง ถือมีความผิด เนื่องจากอยู่ในช่วงการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีข้อบังคับหรือข้อกำหนดหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คือ การไม่มั่วสุมในสถานที่ใด ๆ ที่อาจจะแพร่เชื้อได้ การเล่นน้ำเช่นนี้ อาจเป็นการแพร่เชื้อได้ แม้จะไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาเคอร์ฟิวก็ตาม

ตำรวจจับ พันธ์ยศ พรรคภราดรภาพ ขายหน้ากากอนามัยเกินราคา

            ความคืบหน้า หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมนายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ประธานยุทธศาสตร์ พรรคภราดรภาพ ได้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านเพชรเกษม ตามความผิดข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคา และเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน ซึ่งเป็นการขยายผลมาจากการดำเนินคดีนายศรสุวีย์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือ บอย ที่เคยโพสต์ว่าสามารถจัดหาหน้ากากอนามัยได้จำนวนมาก และตำรวจมีข้อมูลว่ารับหน้ากากอนามัยมาจากบริษัท ไทยเฮลท์ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ที่จดทะเบียนชื่อของนายพันธ์ยศ นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับการจับกุมนายอานนท์วัฒน์ วรเมธชยางกูร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคภราดรภาพ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 ที่หน้าบริษัทแห่งหนึ่ง ย่านวังทองหลาง พร้อมของกลางหน้ากากอนามัย 100 กล่อง รวม 5,000 ชิ้น ซึ่งต่อมาให้การรับสารภาพว่ารับหน้ากากอนามัยมาจากนายพันธ์ยศไปจำหน่าย โดยได้รับส่วนแบ่งชิ้นละ 10 สตางค์  จากการตรวจสอบพบว่านายพันธ์ยศ นำเข้าหน้ากากอนามัยมาอย่างผิดกฎหมาย จากนั้นจะนำมาบรรจุใส่กล่องที่เป็นชื่อบริษัทของตัวเอง คือ บริษัทไทยเฮลท์ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) แล้วให้ผู้อื่นโพสต์จำหน่ายและอ้างถึงตนเอง เพื่อสร้างมูลค่าให้กับสินค้าและใช้ในนามหลายบริษัท

          นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่านายพันธ์ยศ นำเข้าหน้ากากอนามัย จำนวน 513,300 ชิ้น ขายหน้ากากอนามัย จำนวน 614,800 ชิ้น มีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 14,000,961 บาท  และยังเข้าไปเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นอีกหลายคดี 

          ด้าน พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ในการสอบปากคำ นายพันธ์ยศยังให้การปฏิเสธอยู่ แต่ได้ให้การบางส่วนที่เป็นประโยชน์ ซึ่งเมื่อวานนี้หลังสอบปากคำเสร็จสิ้นได้ปล่อยตัวชั่วคราวเพราะไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี โดยใช้หลักทรัพย์ขอยื่นประกันตัว 140,000 บาท หลังจากนี้ หากพบว่าเข้าข่ายความผิดอื่นจะเรียกตัวมาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม จากการสอบสวนขณะนี้ ถือว่านายพันธ์ยศเป็นต้นตอของการกักตุนหน้ากากอนามัยรายใหญ่ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ประเทศไทยขาดแคลนหน้ากากอนามัยและมีราคาสูงขึ้น

          ส่วนกรณีที่เพจแหม่มโพธิ์ดำ เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการขายหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้นของนายศรสุวีย์ ก่อนหน้านี้ ถือว่าเข้าข่ายความผิดนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากข้อมูลที่นายศรสุวีย์เผยแพร่นั้นเป็นเท็จ การที่เพจนำข้อมูลเท็จนั้นมาเผยแพร่ต่อจึงอาจเข้าข่ายกระทำความผิด  

         สำหรับภาพรวมการจับกุมกักตุนและจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคา ตั้งแต่ 4 กุมภาพันธ์-8 เมษายน มีการจับกุม 328 คน หน้าร้าน 238 คน ออนไลน์ 77 คน และเบาะแส 13 คน รวมของกลางหน้ากากอนามัยกว่า 2,587,578 ชิ้น เครื่องวัดแอลกอฮอล์ 2,764 เครื่อง เจลแอลกอฮอล์ 80,500 ลิตร ชุดเครื่องตรวจ 55,048 ชิ้น รวมมูลค่าประมาณ 71 ล้านบาท ซึ่งของกลางที่ยึดมาได้อยู่ระหว่างรอผู้ต้องหายินยอมหรือศาลมีคำสั่งริบของกลาง เพื่อนำไปกระจายให้กับบุคลากรทางแพทย์ใช้ประโยชน์ต่อไป