ผู้เสียชีวิตรายที่ 31-32 เป็นชายสูงอายุ 74-82 ปี
สถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 54 คน รวมมีผู้ป่วยสะสม 2,423 คน หายป่วย 940 คน เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย คือชายชาวฝรั่งเศส อายุ 74 ปีกับชายไทย อายุ 82 ปี รวมมีผู้เสียชีวิตแล้ว 32 ราย
โดยที่ประชุมสถานการณ์ฯ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่ประชุมมีมติให้งดจัดงานสงกรานต์ งดการเดินทางกลับภูมิลำเนา งดรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ งดเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก
และยังไม่มีการปรับขยายเวลาเคอร์ฟิว ยังกำหนดอยู่ที่ 22.00 น.-04.00 น. แต่ขอให้ประชาชนร่วมมือปฏิบัติตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินด้วย
ผู้ป่วยต้องอยู่รพ.ครบ 14 วัน
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ได้ปรับแนวทางการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโดยให้ผู้ป่วยที่มีภาวะปอดอักเสบจะได้รับยา Favipiravir เร็วขึ้น โดยผู้ติดเชื้อไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อยคล้ายไข้หวัด จะต้องเข้ารับการดูแลในโรงพยาบาล หรือสถานที่ที่โรงพยาบาลจัดไว้ให้ เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน เพื่อความปลอดภัยของผู้ติดเชื้อและลดโอกาสแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นในสังคม และเมื่อแพทย์ประเมินว่าหายจากโรค ควรพักฟื้นต่อที่บ้าน หรือหากจำเป็นต้องไปทำงานให้พยายามแยกตัวห่างจากผู้อื่น และสวมหน้ากากอนามัยไว้ตลอด จนครบ 1 เดือนนับจากตรวจพบเชื้อหรือเริ่มมีอาการ
คลังหารือธ.ก.ส.ออกมาตรการช่วยเกษตรกร 9 ล้านครัวเรือน
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เรียกประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส.เป็นการเร่งด่วนนัดพิเศษในวันนี้ เพื่อสรุปมาตรการเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งเป็นมาตรการเพิ่มเติมจากที่ผ่านมารัฐบาลได้มีมาตรการดูแลอาชีพอิสระผ่านการลงทะเบียน www.เราไม่ทิ้งกัน.com โดยในหลักการเบื้องต้นจะเป็นการให้เงินช่วยเหลือเกษตรกร 9 ล้านครัวเรือนที่มาลงทะเบียนไว้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และลูกค้าของ ธ.ก.ส.
นายอุตตม กล่าวด้วยว่า กระทรวงการคลังจะพิจารณาออกมาตรการช่วยเหลือให้ครอบคลุมทุกอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
เลื่อนประชุมครม.เป็น 15 เม.ย. หลังนายกฯติดภารกิจประชุมสุดยอดอาเซียน สมัยพิเศษ
เลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ในสัปดาห์หน้าเป็นวันที่ 15 เมษายนเนื่องจากวันที่ 14 เมษายน พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องการแก้ไขปัญหาโควิด-19 มีภารกิจร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน และประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม จีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ สมัยพิเศษ เพื่อหารือร่วมกันถึงวิธีการรับมือการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยเวลา 08.00 น. เป็นการประชุมสุดยอดอาเซียน และเวลา 14.00 น. ประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ขณะที่การประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 15 เมษายน เป็นการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เชื่อมสัญญาณจากทำเนียบรัฐบาลไปยังรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนมีนาคมของปีนี้ อยู่ที่ระดับ 50.3 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมีนาคมอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และเมื่อประเมินเศรษฐกิจไทยขณะนี้ถือว่ากำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย จากภาวะเศรษฐกิจหดตัว การว่างงานเพิ่มขึ้น กระทบต่อรายได้ของผู้บริโภค กำลังซื้อลดลงในช่วงไตรมาส 2 และเมื่อเข้าสู่ไตรมาส 3 กำลังซื้อจะชะลอตัว ดังนั้น ในช่วง 3 เดือนจากนี้ (เมษายน ถึง มิถุนายน) จะเป็นตัวประเมินว่าการควบคุมปัญหาจะคลี่คลายได้หรือไม่
จากการประเมินปัญหาทั้งภาคการท่องเที่ยว การบริโภค เศรษฐกิจ คาดการณ์ว่าครึ่งปีแรกของปีนี้ เม็ดเงินจะหายออกไปจากระบบเศรษฐกิจประมาณ 7 แสนล้านบาท และหากดูทั้งปีประกอบจากปัจจัยของการลงทุนลดลง ค้าชายแดนชะลอตัว การส่งออก คาดว่าเม็ดเงินจะหายไปจากระบบเศรษฐกิจถึง 1-1 ล้าน 5 แสนล้านบาท
อเมริกามอบ 8 ล้านดอลลาร์ช่วยไทยสู้โควิด-19
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภาให้การรับรองนายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร (H.E. Mr. Michael George DeSombre) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยมีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง และนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รองประธาน กรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภาและนายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภา ร่วมให้การรับรองด้วย
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ในขณะนี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention : CDC) มีความร่วมมือกับไทย ในการแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจะเพิ่มเงินสนับสนุนให้กับประเทศไทยอีก 8,000,000ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ
ปิดตลาดหุ้นไทยบวก 4.71 จุด
ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังผลการประชุมโอเปกว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันลดกำลังการผลิตน้ำมันได้
ส่งผลให้ปิดตลาดที่ 1,210.48 จุดเพิ่มขึ้น 4.71 จุดหรือร้อยละ 0.39 ด้วยมูลค่าซื้อขาย 83,662 ล้านบาท
ทั่วโลกติดเชื้อเกือบ 1,500,000 คนเสียชีวิตเกือบ 90,000ราย
มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกิ้นส์ รายงาน ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 1,490,790 คน และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 88,982 ราย
สหรัฐฯมียอดผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดในโลก 432,438 คน เสียชีวิต 14,808 ราย
รองลงมาคือสเปน มีผู้ติดเชื้อ 148,220 คนและมีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 2 ของโลกคือ 14,792 ราย
อิตาลี มีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับ 3 คือ 139,422 คนแต่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก คือ 17,669 ราย
เยอรมนี มีผู้ติดเชื้อสะสม 113,296 คน เสียชีวิต 2,349 ราย
ฝรั่งเศส มีผู้ติดเชื้อสะสม 83,080 คน เสียชีวิต 10,887 ราย
และจีน มีผู้ติดเชื้อสะสม 82,883 คน เสียชีวิต 3,339 ราย
รัสเซียเครียดยอดติดโควิดทะลุหลักหมื่น
สถานการณ์โควิด-19 ในรัสเซียทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อศูนย์รับมือวิกฤตโควิด-19ในรัสเซีย ประกาศว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงมานี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศเพิ่มถึง 1,459 คนทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นไปที่ 10,131 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 13 รายรวมเป็น 76 รายแล้ว
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ประกาศขยายมาตรการให้ชาวรัสเซียหยุดงานแต่ยังคงได้รับเงินออกไปจนถึงวันที่ 30 เมษายนนี้ และสั่งปิด ร้านอาหาร บาร์ โรงภาพยนตร์ และโรงยิมต่อไป
เยอรมนีหวัง EU ผ่านงบช่วยประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
นายปีเตอร์ อัลท์เมเออร์ รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนี คาดหวังว่าที่ประชุมรัฐมนตรีคลังของสหภาพยุโรป หรือ อียูในวันนี้ จะมีความคืบหน้าเรื่องการอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจต่อประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 วงเงิน 500,000ล้านยูโร โดยเฉพาะสเปนและอิตาลี
อย่างไรก็ตาม การประชุมรัฐมนตรีคลังของอียูผ่านไปแล้วนานกว่า 16 ชั่วโมง คือตั้งแต่บ่ายวันอังคารต่อเนื่องมาจนถึงเช้าวันพุธ โดยที่ประชุมยังไม่สามารถตกลงกันในเรื่องการมอบความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจต่อประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และจะกลับมาประชุมอีกครั้งในคืนนี้
โอเปกพลัสประชุมชี้ชะตาทิศทางราคาน้ำมัน
กลุ่มประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปก และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะจัดการประชุมฉุกเฉินในวันนี้ เพื่อหาข้อตกลงเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน หลังจากที่ราคาน้ำมันทรุดตัวลงตามอุปสงค์น้ำมันที่ลดลงทั่วโลก โดยการประชุมจะเริ่มขึ้นในเวลาประมาณ 21.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่าเขาได้หารือกับผู้นำของรัสเซียและซาอุดีอาระเบียแล้ว และเชื่อว่าทั้ง 2 ประเทศจะยุติการทำสงครามราคาน้ำมัน และจะบรรลุข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิต 10-15 ล้านบาร์เรล/วัน เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด
...