มาตรการลดความแออัดในโรงพยาบาล นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า รัฐบาลได้พยายามจัดระบบในโรงพยาบาลใหม่ เพราะปัจจุบันมีประชาชนเข้าใช้บริการในโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก และมีความหนาแน่นจนเกินไป โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่เป็นโรคประจำตัวทั่วไปที่เข้าใช้บริการมาก ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการรับเชื้อไวรัสโควิด-19 ในโรงพยาบาล จึงต้องมีมาตรการลดความแออัด โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
-กลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการดีทั่วไปหรืออาการคงที่ เจ้าหน้าที่จะส่งยาทางไปรษณีย์ หรือนัดรับยาที่ร้านขายยาใกล้บ้าน หรือเลื่อนนัดตรวจให้นาน ตลอดจนการให้คำปรึกษาทางไกลผ่านไลน์วิดีโอคอล
-กลุ่มผู้ป่วยที่อาการไม่ดีขึ้นหรือผลการตรวจล่าสุดมีปัญหา จะมีการจัดบริการพูดคุยกับผู้ป่วยผ่านไลน์วิดีโอคอล และให้รับตรวจโรคตามนัดในระยะเวลาที่ไม่เร่งด่วน
-กลุ่มผู้ป่วยที่เจ็บป่วยรุนแรงฉุกเฉินสามารถรับบริการที่ห้องฉุกเฉินได้ตามปกติ
นอกจากนี้ ขอความร่วมมือกับประชาชนที่เข้าใช้บริการในโรงพยาบาลให้ข้อมูลผู้ให้บริการหรือพยาบาล แพทย์ให้ครบถ้วน ถูกต้อง ถ้าให้ข้อมูลไม่ครบ จะเป็นผลเสีย โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทุกรายจะเข้าสู่กระบวนการรักษาในทันที คือต้องเข้านอนที่โรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นกรณีไหนก็ตามเป็นเวลา 2-7 วัน แล้วแต่อาการของผู้ป่วย โดยผู้ป่วยอาการคงที่ทุกรายจะได้รับยาต้านไวรัสมาลาเรียและยาต้านไวรัสเอชไอวี ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการปอดบวมไม่ว่าจะหนักหรือเบาจะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์เพิ่มอีก 1 ตัว
...
ไทย เรียกร้องประชาคมโลก ประณามกัมพูชา ใช้ทุ่นระเบิด หยุดละเมิดอนุสัญญาออตตาวา
รองโฆษก ทร. ชี้ เขมรยังไม่ตอบรับ เก็บกู้ทุ่นระเบิด-ปราบปรามสแกมเมอร์
ดูความจริง! ไทย นำ ทูต 33 ประเทศ ลงพื้นที่ ภูมะเขือ สำรวจเขมรวางทุ่นระเบิด
ข่าวทั้งหมด
