องค์กรการกุศลออกซ์แฟม ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา เผยแพร่รายงานก่อนที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟกับธนาคารโลกจะจัดการประชุมในสัปดาห์หน้า โดยระบุว่า ไวรัสโคโรนา ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 83,000 คน ทำลายระบบเศรษฐกิจทั่วโลก และทำให้ประชาชนประมาณ 500 ล้านคนกลายเป็นคนยากจน
สำหรับการประชุมของไอเอ็มเอฟกับธนาคารโลกในสัปดาห์หน้า จะมีหัวข้อสำคัญคือผลกระทบที่มีต่อคนยากจนทั่วโลก เนื่องจากครัวเรือนมีรายได้ลดลง และมีการบริโภคลดลง
ในรายงานของออกซ์แฟม ระบุว่า วิกฤตเศรษฐกิจโลกที่ทรุดลงอย่างรวดเร็ว มีความรุนแรงมากกว่าวิกฤติการเงินโลกในปี 2551 และอาจทำให้บางประเทศต้องกลับไปอยู่ในระดับความยากจนเมื่อประมาณสามทศวรรษที่ผ่านมา ภายใต้สถานการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดจำนวนผู้คนที่อาศัยอยู่ใต้เส้นความยากจนอย่างรุนแรงจะเพิ่มขึ้นอีก 434 ล้านคนและทำให้โลกมีคนยากจนรุนแรงเพิ่มเป็น 922 ล้านคนทั่วโลก และผู้หญิงมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากส่วนใหญ่จะทำงานอยู่นอกระบบเศรษฐกิจ โดยมีสิทธิประโยชน์ตอบแทนจากการจ้างงานเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย
ในรายงานเตือนว่า คนยากจนมีรายได้แบบรายวัน หากหยุดงานก็หมายถึงไม่มีรายได้ จึงไม่มีความสามารถในการสะสมทั้งเงินและของจำเป็นต่าง ๆ โดยมีแรงงานมากกว่า 2 พันล้านคนทั่วโลกที่มีการทำงานในลักษณะนี้ ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารโลกได้ออกรายงานระบุว่า คนยากจนในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก จะเพิ่มขึ้นอีก 11 ล้านคนหากสถานการณ์เลวร้ายลง ออกซ์แฟมจึงสนับสนุนให้รัฐบาลเพิ่มความช่วยเหลือทั้งเงินสดและเงินกู้แก่บุคคลและธุรกิจที่ต้องการรวมถึงให้ยกเลิกดอกเบี้ยเงินกู้ ขณะที่ไอเอ็มเอฟก็ควรเพิ่มความช่วยเหลือ ทั้งควรเพิ่มการเก็บภาษีมั่งคั่ง และผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อเก็งกำไร จะช่วยระดมทุนที่จำเป็น
...