+++พสกนิกรทั่วประเทศจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. 2557 ที่โรงพยาบาลศิริราช ประชาชนสวมเสื้อสีเหลืองเดินทางไปกันอย่างเนืองแน่น เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะที่ กรุงเทพมหานคร(กทม.) ตกแต่งซุ้มเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้แนวคิด “พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย” บนถนนสายสำคัญ เช่น บริเวณถนนราชดำเนินใน 1 ซุ้ม ถนนราชดำเนินกลาง 8 ซุ้ม ถนนราชดำเนินนอก (ซุ้มย่อย) 13 ซุ้ม บริเวณถนนราชดำเนินนอก (ซุ้มคร่อมถนน) จำนวน 6 ซุ้ม เป็นต้น รวมถึงประดับประดาถนนสายต่างๆ ด้วยดอกดาวเรือง และไม้ดอกอื่นๆ กว่า 2 แสนต้น
+++นอกจากนี้ ยังได้ประดับไฟบริเวณถนน บนต้นไม้ และซุ้มเฉลิมพระเกียรติ โดยเปิดให้ประชาชนได้ชมความงดงาม ตั้งแต่วันที่ 1–10 ธ.ค. 2557 ดังนี้ วันที่ 1–3 ธ.ค. 2557 เปิดระหว่างเวลา 19.00–22.00 น. วันที่ 4 และ 5 ธ.ค. 2557 เปิดตั้งแต่เวลา 19.00 น. จนถึงเช้าของวันรุ่งขึ้น และวันที่ 6 ธ.ค. 2557 เปิดระหว่างเวลา 19.00–22.00 น. และจะเปิดไฟประดับอีกครั้งในวันส่งท้ายปีเก่า 31 ธ.ค. 2557 ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ไปจนถึงเช้าของวันปีใหม่ 1 ม.ค. 2558
+++ ส่วนริมแม่น้ำเจ้าพระยา กทม.ประดับไฟสองฝั่งเจ้าพระยา เพื่อให้ประชาชนชมความงดงามของแสงสี จำนวน 7 จุด ภายใต้แนวคิด “มหัศจรรย์การแสดงของแสง The Spectacular Light Show” เริ่มตั้งแต่ 1. สะพานพระราม 8 2. สวนสันติชัยปราการ 3. สวนนาคราภิรมย์ 4. สำนักเทศกิจ ชมความตระการตาของแสง The Light of Happiness โบสถ์ซางตาครู้ส ชมการแสดงของแสง The Harmony of Light ผสมผสานด้วยแสงสี วัดอรุณราชวราราม ชมอลังการแห่งแสง The Light of Dawn แสงสว่างแห่งอรุณรุ่ง พระบรมมหาราชวัง ท่าราชวรดิฐ ชมแสงแห่งพระบารมี The Light of Kingdom แสงสว่างแห่งอาณาจักร ซึ่งประชาชนที่สัญจรทางเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาและประชาชนทั่วไป สามารถเดินทางไปชมความสวยงามของแสงและไฟประดับตามสถานที่ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค. 2557 – 5 ม.ค. 2558 ระหว่างเวลา 19.00–21.00 น.
+++ผลการรับฟังความเห็นจาก 74 พรรคการเมืองและองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ผ่านทางจดหมาย พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ประสานเพื่อรับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และ องค์กรอื่นๆ ในกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่าขณะนี้ มีพรรคการเมือง ที่ตอบรับและส่งความเห็นตามชุดคำถามที่ อนุ กมธ. ประสานเพื่อรับความคิดเห็นฯ เสนอจำนวน 23 พรรคการเมือง เช่น พรรคชาติไทยพัฒนา, พรรคมาตุภูมิ, พรรคชาติพัฒนา, พรรคภูมิใจไทย ในส่วนพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล คณะทำงานฝ่ายกฎหมายเป็นผู้ตอบกลับจดหมายดังกล่าว ขณะที่ พรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่ได้รับจดหมายตอบกลับ
+++สำหรับการประเมินความเห็นดังกล่าวมีสาระสำคัญ คือ พรรคการเมืองส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการเลือกนายกรัฐมนตรี ผ่านระบบสภาผู้แทนราษฎร , ต้องการให้ใช้รูปแบบของ 2 สภา คือ สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา สำหรับที่มาของส.ส. เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับระบบเขตเดียวเบอร์เดียว สูงสุดคิดเป็นจำนวน 11 พรรคการเมือง รองลงมาคือ เขตละไม่เกิน 3คน คิดเป็นจำนวน 7 พรรค ส่วนระบบเลือกตั้งต้องการให้คงส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ในจำนวน 125 คนเช่นเดิม ประเด็นคำถามเกี่ยวกับกระบวนการสรรหา และวาระดำรงตำแหน่งของกรรมการในองค์กรอิสระ เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.), ผู้ตรวจการแผ่นดิน, คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน, ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พรรคการเมืองส่วนใหญ่เห็นว่าต้องเปลี่ยนแปลงกระบวนการสรรหาโดยมีข้อเสนอให้เปิดกว้างและคณะกรรมการสรรหาต้องมีความหลากหลาย ขณะที่วาระดำรงตำแหน่งเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าควรลดวาระดำรงตำแหน่งลง เช่น กรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่าควรปรับลดจากวาระดำรงตำแหน่ง 9 ปี เป็น 5 ปี เป็นต้น
+++ขั้นตอนหลังจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงมติไม่ให้ความเห็นชอบให้ ม.ล.ฤทธิเทพ เทวกุล ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินตามที่คณะกรรมการสรรหาเสนอ นายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการ ฯ และโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า สนช.จะต้องส่งเรื่องดังกล่าวกลับมายังคณะกรรมการสรรหาฯ เพื่อให้คณะกรรมการสรรหาพิจารณา ว่า ม.ล.ฤทธิเทพ ยังเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่ หากคณะกรรมการสรรหามีเสียงเป็นเอกฉันท์ ว่า ม.ล.ฤทธิเทพ ยังเป็นผู้เหมาะสมก็จะส่งเรื่องให้ประธาน สนช.เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป แต่หากคณะกรรมการสรรหาฯเสียงแตก ไม่เป็นเอกฉันท์ ว่า ม.ล.ฤทธิเทพ ยังเป็นผู้เหมาะสมก็ต้องเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ ตั้งแต่การรับสมัคร และเสร็จสิ้นกระบวนการสรรหาก็ส่งเรื่องไปยังสนช.พิจารณาต่อไป โดยที่ยังใช้คณะกรรมการสรรหาชุดเดิมอยู่
+++กรณีเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก.อุ้มนายบัณฑิต โชติวิทยะกุล ผู้เสียหายเพื่อบังคับให้ลดหนี้จำนวน 120 ล้าน เหลือ 20 ล้าน ที่ย่านพุทธมณฑล เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. กระทั่งสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ เหลือเพียงนายนพพร ศุภพิพัฒน์ อายุ 43 ปี รวมทั้งนายเจี๊ยบ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ที่ทางตำรวจได้ดำเนินการออกหมายจับศาลทหารกรุงเทพ ก่อนประสานทางฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ไล่ล่าติดตามตัว มีรายงานระบุว่า พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ได้สอบปากคำไปแล้วกว่า 50 ปาก รวมทั้งพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งตอนนี้สำนวนใกล้แล้วเสร็จสมบูรณ์ก่อนจะนำเสนอให้ทางผู้บังคับบัญชาในชั้นกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) นำไปพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
+++ พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนติดตามจับกุมนายนพพร เปิดเผยว่า ล่าสุดได้รับรายงานว่า นายนพพร ยังคงอยู่ในประเทศกัมพูชา และยังไม่ได้รับการติดต่อขอเข้ามอบตัวแต่อย่างใด โดยชุดสืบสวนได้มีการประสานงานกับด่านตรวจคนเข้าเมือง หากพบนายนพพร เดินทางกลับเข้ามาประเทศไทย ก็จะดำเนินการจับกุมทันที อย่างไรก็ตาม นายเจี๊ยบ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบชื่อสกุลจริง จึงยังคงทำได้แค่การออกหมายจับชายไทยตามภาพสเก็ตซ์เท่านั้น
+++กรณีที่ตำรวจ สน.พระโขนง ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 2 ราย คือ นายปรีชา ดาราไตร อายุ 44 ปี และนายไพเชษฐ์ เมธิสริยพงศ์ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาที่ได้มีการติดต่อขอเข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.แต่จนถึงขณะนี้ยังไร้วี่แวว มีรายงานข่าวว่า พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสรุปสำนวน โดยเบื้องต้นได้สอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 10 ปาก คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะสามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลจังหวัดพระโขนงได้ อย่างไรก็ตามในวันนี้จะนำสำนวนบางส่วนส่งให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบความเรียบร้อย ก่อนนำมารวบรวมพยานหลักฐานที่ยังไม่สมบูรณ์อีกครั้ง ทั้งนี้ทางตำรวจยังเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองยังอยู่ในประเทศไทย แต่ต้องการหลบไปตั้งหลักสู้คดีก่อน
+++ความคืบหน้าคดีคนร้ายสังหาร พ.ต.อ.วิฑูรย์ พรหมประวัติ (ผู้พันกระทิง) จนถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 20 พ.ย. พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม นายสุวัฒน์ ผลอุดม อายุ 32 ปี ส.จ.ราชบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ในข้อหาร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. 2 กระบอก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำไปตรวจสอบว่าเป็นอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุหรือไม่ เบื้องต้น ผู้ต้องการยังให้การภาคเสธ แต่คาดว่าน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการรายอื่นอีก ซึ่งจะขยายผลการจับกุมต่อไปอีก ส่วนสาเหตุการลงมือสังหาร เป็นความลับทางสำนวนคดี ซึ่งยังอยู่ในชั้นสอบสวน จึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้
+++ชาวอินเดีย ในรัฐปัญจาบทางตอนเหนือของประเทศ กลุ่มหนึ่ง ตาบอดหลังเข้ารับการผ่าตัดต้อกระจก จากหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ซึ่งดำเนินงานโดยองค์กรอิสระ ในเมืองกุรทัสปุระ นายราจีฟ ภัลลา ศัลแพทย์ในเมืองกุรทัสปุระ กล่าวว่า หน่วยแพทย์ดังกล่าวดำเนินในสภาพที่ไม่รักษาอนามัยและเสี่ยงต่อการติดเชื้ออย่างมาก ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในการดำเนินงานตามที่สำนักงานด้านการแพทย์ของเมืองระบุไว้ ด้านเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนกรณีดังกล่าวเพื่อหาสาเหตุอย่างเร่งด่วน และตามจับกุมแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด โดยกลุ่มผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในครั้งนี้ เป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปและมีฐานะยากจน เหตุการณ์นี้ ซ้ำรอยการเสียชีวิตจำนวนมาก ของผู้ที่เข้ารับการทำหมันฟรี ซึ่งภายหลังตรวจพบว่า ยาที่จ่ายให้คนไข้หลังการทำหมันมีสารพิษปนเปื้อน