เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐอเมริกา เตือนว่า สหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงวิกฤตและภายในสัปดาห์นี้อาจเป็นช่วงเวลาที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยเฉพาะในนิวยอร์ก มิชิแกน และลุยเซียนา ที่มีผู้ติดเชื้อสะสมจำนวนมาก กับยังมีอีก 8 มลรัฐที่ยังไม่คำสั่งให้ประชาชนต้องกักตนเองอยู่ภายในบ้าน เพื่อชะลอการแพร่กระจายของเชื้อโรค ทั้งโบสถ์หลายแห่งยังจัดกิจกรรมทางศาสนาตามปกติ
อย่างไรก็ตามที่รัฐนิวยอร์กซึ่งเป็นรัฐที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประเทศมีรายงานเมื่อวันอาทิตย์ ว่าเป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาที่มีผู้เสียชีวิตลดลงเล็กน้อยจากวันก่อนหน้า แต่ก็ยังเป็นจำนวนที่มากเกือบ 600 รายและมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 7,300 คน นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตจำนวน 594 คน ซึ่งเป็นสถิติรายวันที่น้อยที่สุดและลดลงมากกว่าครึ่ง เมื่อเทียบกับสถิติในรอบหลายวันมานี้ โดยนับตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่พบผู้ติดเชื้อคนแรก รัฐนิวยอร์กมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4,159 คนและมีผู้ป่วยสะสม 123,018 คน และมีผู้ได้รับการรักษาหายแล้ว 16,346 คน แต่สถานการณ์นี้ยังไม่น่าไว้วางใจเพราะเพิ่งเป็นวันแรกที่มีผู้เสียชีวิตลดลง
ด้านนายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก เร่งให้เจ้าหน้าที่ส่วนกลางและระดับรัฐส่งเครื่องช่วยหายใจจำนวนประมาณ 1,000–1,500 เครื่องมาสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเครื่องช่วยหายใจที่เหลืออยู่ เป็นจำนวนที่เพียงพอจนถึงวันที่ 8 เมษายนนี้เท่านั้น
ดร.แอนโทนี่ เฟาชี นักวิทยาศาสตร์อาวุโส และที่ปรึกษาของรัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวเตือนว่ายอดผู้ติดเชื้อและคนตายจะพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ และชาวอเมริกันควรเตรียมพร้อมสำหรับสัปดาห์ที่เลวร้าย ส่วนดร.เจอโรม อดัมส์ แพทย์ใหญ่สหรัฐฯ ออกคำเตือนว่า สัปดาห์นี้ จะเป็นสัปดาห์ที่ยากลำบากที่สุดและเศร้าที่สุดในชีวิตของคนอเมริกันส่วนใหญ่ เหมือนกับช่วงเวลาแห่งเพิร์ลฮาร์เบอร์ และ 11 กันยายน เพียงแต่สถานการณ์นี้จะเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ เนื่องจากการที่ยังมีอีกหลายรัฐที่ไม่ใช้มาตรการควบคุมโรค ขณะที่รัฐบาลกลางปฏิเสธที่จะออกคำสั่งในระดับชาติ ผู้ชี่ยวชาญจึงเรียกร้องให้ผู้นำรัฐ ออกประกาศให้ประชาชนอยู่ภายในบ้านเป็นเวลา 7-10 วันข้างหน้านี้
....