สหรัฐฯแนะให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย แต่ผู้นำประเทศเลือกที่จะไม่ใส่

         สหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่อีก 28,667 คน เสียชีวิตวันเดียว 1,094 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ภายในระยะเวลา 24 ชม. ที่มากที่สุดในสหรัฐฯ ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อทั้งหมดในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 273,880 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 7,077 ราย โดยรัฐไวโอมิงกลายเป็นรัฐเดียวในสหรัฐฯ ที่ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อเสียชีวิต

          สำหรับยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 1,097,909 คน เสียชีวิต 59,131ราย รักษาตัวหายแล้ว 225,945 คน อิตาลี ยังเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิต มากที่สุด14,681 ราย รักษาหาย 19,785 คน จากผู้ติดเชื้อ 119,827 คน ส่วนสเปนมีผู้เสียชีวิตเป็นอันดับ 2 ของโลกเสียชีวิต 11,198 ราย รักษาหาย 30,513 คน จากผู้ติดเชื้อ  119,199 คน 

          ด้านเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดสหรัฐฯ ออกมาให้คำแนะนำแก่ชาวอเมริกันว่าควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กลับเน้นย้ำว่าการสวมหน้ากากควรเป็นไปตามความสมัครใจ และเขาเองก็จะเป็นคนหนึ่งที่เลือกจะไม่สวมหน้ากากอนามัย

          ด้านนายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก กล่าวภายหลังการหารือกับผู้แทนสำนักงานบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินแห่งชาติและกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เกี่ยวกับการรับมือจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในนครนิวยอร์กที่กำลังพุ่งไม่หยุดอยู่ในขณะนี้ หลังตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 1,584 ราย

          นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กเผยว่าจะมีการจ้างบุคลากรเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นอกเหนือจากในปัจจุบันที่มีบุคลากรจากส่วนกลางมากกว่า 100 คน พร้อมด้วยอุปกรณ์จำเป็นเข้าให้ความช่วยเหลือแล้ว ด้านนายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กแสดงความวิตกว่า รัฐนิวยอร์กกำลังใกล้ถึงจุดวิกฤตขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจในอีกไม่วันนี้

          ในเรื่องนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าเขาเองก็ไม่อาจรับประกันได้ว่า รัฐนิวยอร์กจะมีเครื่องช่วยหายใจเพียงพอต่อความต้องการของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่ แต่รัฐบาลกลางก็กำลังพยายามช่วยเหลือรัฐนิวยอร์กอย่างเต็มกำลังที่สุด