*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30น.
+++สติกเกอร์ LINE ภาพวาดฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเปิดให้ดาวน์โหลดวันนี้วันแรก ได้รับความนิยมมาก ขึ้นอันดับ 1 สติกเกอร์ยอดนิยมของร้านจำหน่ายสติกเกอร์ LINE ในเวลาไม่ถึง 1 ชม. โดยรายได้ซึ่งบริษัทไลน์ร่วมสนับสนุนโดยมิได้หักค่าใช้จ่าย จะมอบให้โครงการก่อสร้างศูนย์พยาบาลรวมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า 150 ปี โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา
+++วันนี้ กรมการขนส่งทางบก จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวามหาราช โดยมีผู้ประกอบการรถยนต์รับจ้างแท็กซี่ สหกรณ์แท็กซี่ สามล้อ สี่ล้อเล็ก ที่ กรมการขนส่งทางบก
+++การจับกุม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก.และพวก ในความผิดแอบอ้างเบื้องสูง ซื้อขายตำแหน่งราชการ เปิดบ่อนการพนัน และรับส่วยน้ำมันเถื่อนของเสี่ยโจ้ ปัตตานี หรือนายสหชัย เจียรเสริมสิน พ่อค้าน้ำมันเถื่อนที่หลบหนีออกนอกประเทศ พ.ต.ท.สมเกียรติ ตันติกนกพร พนักงานสอบสวน เดินทางมายื่นคำร้องขอผัดฟ้องฝากขังครั้งที่ 2 ผุ้ต้องหาทั้ง 10 คน เช่น พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรอง พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน อดีต ผบก.รน. และ พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ อดีต ผกก.4 บก.ปคบ. ผู้ต้องหาทั้ง 10 ไม่คัดค้านศาลอนุญาตให้ฝากขังได้
+++ส่วนกรณีของนายไตรสรณ์ ธีระตระกูล ผู้เสียหายรายที่ 3 ที่เข้ามาแจ้งความว่าถูกกลุ่มบุคคลแอบอ้างเบื้องสูงข่มขู่นั้น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 56 ผู้เสียหายถูกนายชากานต์ ภาคภูมิ และพวก ข่มขู่ให้เลิกกิจการ ขณะนี้ยังอยู่ในการขยายผล ส่วนการติดตามตัวนายนพพร ศุภพิพัฒน์ ยังไม่คืบหน้า เนื่องจากบุคคลที่เราเคยติดต่ออยู่ ขณะนี้ติดต่อไม่ได้แล้ว รวมถึงนายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ที่ยังไม่มีข้อมูล แม้จะมีคนพยายามโทรศัพท์เข้ามาแจ้งเบาะแส แต่เมื่อตรวจสอบกลับไปก็ยังไม่ตรงกับความจริง
++++นายวศิน วณิชย์วรนันต์ รอง กก. ผจก.ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีนายนพพร ศุภพิพัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH ผู้ต้องหาจ้างวาน เครือข่ายแอบอ้างสถาบันอุ้มลดหนี้ ได้หลบหนีออกนอกประเทศว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อสินเชื่อของธนาคาร ที่ได้ปล่อยกู้ให้กับบริษัทวินด์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด ที่ทำธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลม
++++ที่ประชุมสนช.ไม่ให้ความเห็นชอบให้ม.ล.ฤทธิเทพ เทวกุล เป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามที่ได้รับการเสนอ และ กมธ.สามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ม.ล.ฤทธิเทพพิจารณาเสร็จแล้ว ด้วยคะแนน 86 เสียงต่อ 76 เสียง และงดออกเสียง 20 เสียง โดยในรายงานลับมีการระบุถึงการทำงานในอดีตของ ม.ล.ฤทธิเทพ เมื่อครั้งเป็นองค์คณะ ผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พบว่าในอดีตเคยเป็น ผู้พิพากษาเสียงข้างน้อยที่เห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่มีความผิดในคดียึดทรัพย์ เพราะให้ความเห็นว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีอาญา ไม่ใช่คดีแพ่ง จึงไม่อาจพิพากษายึดทรัพย์ได้ ขณะเดียวกัน กมธ.ตรวจสอบ ประวัติฯ ยังสัมภาษณ์ม.ล.ฤทธิเทพ ด้วยว่าการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณที่ผ่านมาถือเป็นความผิดทางจริยธรรมหรือไม่ ซึ่งปรากฏว่าม.ล.ฤทธิเทพให้คำตอบไม่ชัดเจน
++++นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ เลขานุการคณะกรรมาธิการปฏิรูปการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สปช. แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปจะยื่นต่อกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ 30 ประเด็น อาทิ จะเสนอให้ประชาชนร้องขอข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานและติดตามตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นักการเมือง หน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งให้ประชาชนมีสิทธิปกป้องดูแลรักษา ผลประโยชน์ของสาธารณะและของรัฐ มีสิทธิปฏิเสธและต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ หากเรื่องนี้ได้รับความเห็นชอบจะถือเป็นครั้งแรกที่ถูกบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ
+++ส่วนผู้นำทางการเมือง ที่ดีนั้น ให้ประชาชนมีสิทธิเลือกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทุกระดับจากพรรค การเมืองที่มีคุณธรรม จริยธรรม ติดตาม สอดส่องผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทุกระดับ รวมถึงมีสิทธิถอดถอนได้ รวมถึงหากคนติดตามของนักการเมืองไปทำอะไรที่เสื่อมเสีย นักการเมืองผู้นั้นต้องร่วมรับผิดชอบด้วย
+++นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญแถลงว่า คณะอนุกมธ.คณะที่ 4 ภาค 2 ผู้นำการเมืองที่ดีและสถาบันการเมือง หมวด 5 การคลังและงบประมาณของรัฐ เสนอตั้งศาลวินัยการเงินการคลังและงบประมาณ ตั้งมาเป็นแผนกหนึ่งในศาลยุติธรรม
+++พล.ท.พิสิทธิ์ สิทธิสาร รองเสนาธิการทหารบก ในฐานะผอ.ศูนย์ปรองดองสนามฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) แถลงว่า ศปป.จะเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นพร้อมกันทั้ง 4,268 เวทีทั่วประเทศ มีชื่อโครงการว่า "คนไทยหัวใจเดียวกัน" โดยให้องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาล นิสิต นักศึกษา รวมทั้งบุคลากรในสถาบันการศึกษา และสาขาอาชีพต่างๆ ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นตามกรอบการปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน พร้อมเสนอความต้องการของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง ถ้าพื้นที่ใดพร้อมก็เริ่มได้เลย ส่วนการเปิดเวทีตามพื้นที่ภาคต่างๆ นั้น จะมีแม่ทัพภาคแต่ละภาคเป็นผู้ดูแล
+++ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ลงพื้นที่ตรวจสอบการจ่ายเงินตามมาตรการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท พบทุจริตเฉลี่ยจังหวัดละ 3-4 รายว่า ถ้าตรวจเจอ ต้องรับโทษไม่ว่าใครทั้งสิ้น จะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ถ้าเป็นข้าราชการต้องไล่ออก เราได้ทำกลไกไว้อย่างดี ถ้ามีทุจริตต้องรับโทษ ประชาชนสบายใจได้ แต่ตอนนี้ยังไม่มีรายงานเข้ามา ถ้าตรวจเจอให้แจ้งมาเราจะดำเนินคดีทันที ทราบว่าทั้งป.ป.ท. สตง.และกรรมการของจังหวัดติดตามอยู่ ต้องดูให้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นจะมีความผิด
++++สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ระบุว่า ขณะนี้ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติรับคำร้องของบริษัท ที่ร้องทุกข์กล่าวโทษ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) 3 ราย ประกอบด้วย นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ พลโทพีระพงษ์ มานะกิจ กรณีจงใจฝ่าฝืนต่อกฎหมายและเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ไว้พิจารณาแล้ว จากกรณี 3 กสท.มีมติให้บริษัทบีอีซี มัลติมีเดีย จำกัด ผู้ได้รับใบอนุญาตโทรทัศน์ระบบดิจิทัลช่อง 33 HD นำผังช่อง 3 อนาล็อกของบริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ไปออกอากาศบนช่อง 33 แบบคู่ขนาน (Simulcast) 100% เช่นเดียวกับ ช่อง 7 และช่อง 9 ซึ่งเป็นคนละนิติบุคคลกัน เท่ากับว่า 3 กสท. อนุญาตให้บริษัทบางกอกฯ ซึ่งไม่มีใบอนุญาตทีวีดิจิทัล มาเป็น ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล
+++หลังนายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยกำลัง อส. ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ทหารบุกเข้าตรวจค้นภายในร้านลาบ เลดี้พริ้ง และร้านลาบ 108 ริมถนนสายศุภประยูร (315) ฉะเชิงเทราพนัสนิคม ที่เปิดให้บริการในลักษณะของร้านอาหารอีสาน แต่ภายในกลับพบว่ามีหญิงสาวชาวลาว 50 คน นั่งรอให้บริการแขกที่เข้ามาใช้ พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือคำสั่งให้ พ.ต.อ.ธนาวุฒิ จงจิระ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉะเชิงเทรา (ผกก.สภ.ฉะเชิงเทรา) ไปปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงจากกรณีนี้ให้มีผลทันที จนกว่าจะมีการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ
+++พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้มีคำสั่งย้ายตำรวจระดับสารวัตรฝ่ายป้องกันปราบปราม รองสารวัตร และผู้บังคับหมู่ สภ. เมืองอุดรธานี จำนวน 14 นาย โดยให้ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อตั้งกรรมการสอบสวน หลังจากที่มีผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ปกครองกลุ่มวัยรุ่นเกือบ 10 คน เข้าร้องเรียนว่าถูกข่มขู่รีดเงินรายละ 1 หมื่นบาท กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ได้ถูกนำตัวมาสอบสวนและตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ระหว่างการสืบสวนหาคนร้ายซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุทำร้ายใช้มีดฟันกันจนเสียชีวิต และบาดเจ็บสาหัส หลังจากเที่ยวงานบุญกฐินที่บ้านชัยพร ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และติดตามจับกุมคนร้ายตามภาพวงจรปิดได้ 4 คน เมื่อวัน 6 พฤศจิกายน