*จุดเทียนชัยถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว/เตรียมลงนามรถไฟรางคู่ไทย-จีน*

*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.

+++สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 11 คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาได้รายงานว่า คณะแพทย์ฯ ได้ถวายตรวจพระวรกาย เมื่อเย็นวันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พุทธศักราช 2557 มีความเห็นว่า ยังไม่ทรงพร้อมที่จะเสด็จออก จึงได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ งดพระราชกิจไว้ก่อน

ตามที่หมายกำหนดการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ในวันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2557 ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชน ถวายพระพรชัยมงคล

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ แทนพระองค์ ในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2557 (ทรงตั้งสมณศักดิ์ และเจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา) ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง

+++เวลา 09.30 น. นายกรัฐมนตรีและภริยา ลงนามถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพรชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2557 ณ ห้องแดง ศาลาว่าการพระราชวัง และเวลา 19.19 น. นายกรัฐมนตรีและภริยา ถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนชัยถวายพระพร และถวาย ราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา 5ธ.ค.นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สวนดุสิตโพลมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สอบถามความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,374 คน พบว่า สิ่งที่พสกนิกรชาวไทยตั้งใจจะทำเพื่อแสดงความจงรักภักดีถวายแด่"ในหลวง"คือ  ซื่อสัตย์สุจริต ทำตนให้เป็นคนดีของพ่อแม่และสังคม 80.79% น้อมนำพระราชดำรัสมาใช้ในการดำรงชีวิต โดยเฉพาะเศรษฐกิจพอเพียง ส่วนสิ่งที่คนไทยตั้งใจจะทำให้กับประเทศอันดับ 1 มีรอยยิ้มให้แก่กัน มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือแบ่งปันกัน ไม่คดโกง ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ไม่ทุจริตคอรัปชัน และ เคารพและปฏิบัติตามกฎหมาย

+++ความคืบหน้า รถไฟรางคู่ ล่าสุด ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยเห็นชอบ ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ภายใต้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของประเทศไทยในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ.2558-2565 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงว่า ร่างบันทึกดังกล่าวมี 2 เส้นทางคือ โครงการรถไฟทางคู่ขนาดมาตรฐาน เส้นทางหนองคาย-โคราช-แก่งคอย-มาบตาพุด ระยะทางประมาณ 734 กิโลเมตร และเส้นทางแก่งคอยกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 133 กิโลเมตร ซึ่งโครงการนี้จะใช้พื้นที่ ใช้ทรัพยากรที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคง กระทบเศรษฐกิจ เข้าเงื่อนไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว ปี 2557 มาตรา 23 ที่ระบุว่า ต้องผ่านความเห็นชอบจาก สนช. รัฐบาลจึงเสนอต่อ สนช.เพื่อให้ความ  ยืนยันว่าไม่มีการมอบสิทธิประโยชน์เรื่องที่ดินสองข้างทางรถไฟให้จีน เราจะพยายามดูแลโครงการนี้ไม่ให้เกิดผลกระทบในอนาคต

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คาดว่าจะมีการลงนามร่างบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของไทยกับประธานสภาเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน ระหว่างวันที่ 19-23 ธันวาคมนี้ โดยขณะนี้กำลังดูกำหนดวันที่ชัดเจนจากนั้นจะมีตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างไทย-จีนขึ้น ขณะที่ทางจีนจะส่งทีมเข้ามาเพื่อศึกษาถึงความเป็นไปได้ของโครงการ โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้ตั้งเป้าร่วมกันในเบื้องต้นว่า จะเริ่มการก่อสร้างให้ได้ในปี 2559

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยืนยันว่าเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจในทุกมิติ ซึ่งได้สั่งการไปแล้วว่า ต้องมีโครงข่ายที่สมบูรณ์ ต้องมีศูนย์ข้อมูลโครงข่ายขนาดใหญ่ของประเทศ หรือดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อเก็บข้อมูลทั้งหมดที่เป็นประโยชน์ ที่คนไทยและชาวต่างชาติสามารถใช้ประโยชน์ได้ เพื่ออำนวยความสะดวกในข้อมูลที่ตรงกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด และนำไปพัฒนาด้านอื่น เช่น ประหยัดงบประมาณ เวลา เพื่อเพิ่มมูลค่าในการค้าขาย ส่วนความเป็นไปได้ในการเปิดประมูลคลื่นความถี่ 1,800 เมกะเฮิรตซ์ หรือ 4จี ในปี 2558 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการตามกฎหมายเพื่อดำเนินการดังกล่าว ควบคู่กับการปรับโครงสร้างจากกระทรวงไอซีที มาเป็นกระทรวงดิจิตอล ยืนยันว่าไม่ได้ยุบหน่วยงานบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) แต่หน่วยงานทั้ง 2 จะอยู่ภายใต้สังกัดของกระทรวงที่ตั้งขึ้นใหม่

++++นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ไอซีทียังได้มีมติเซ็นคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างไอซีทีกับอีก 7 หน่วยงาน ได้แก่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ เกี่ยวกับการจัดระบบแบบบูรณาการโครงสร้างพื้นฐาน ที่เป็นไฟเบอร์ออพติกทั้งหมด ที่มีรวมกันอยู่ประมาณ 2 แสนกิโลเมตร เพื่อแยกทรัพย์สินในโครงข่ายของแต่ละหน่วยงานที่ถือครองไม่ให้ทับซ้อนกัน โดยแผนการวางโครงข่าย ภายในปี 2558 จะครอบคลุม 70-80% ส่วนในปี 2559 การวางโครงข่ายจะครอบคลุม 95%"

+++ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแห่งชาติ (เนชั่นแนล บรอดแบนด์ เน็ตเวิร์ก) และดาต้าเซ็นเตอร์ว่า เชื่อว่าหลักจากนี้คงเกิดแน่ แต่อาจเสร็จไม่ทันรัฐบาลยุคนี้ แต่รัฐบาลเชื่อว่าถึงอย่างไรแล้ว หาก นโบายนี้ดีจริง แม้ทำงานเสร็จสิ้นไป 70% แล้ว รัฐบาลที่มารับช่วงต่อก็ต้องดำเนินการต่อให้ครบทั้ง 100% คาดการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านอินเตอร์เน็ตทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในระยะ 3 ปี แม้ส่วนตัวอยากให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 2 ปี

+++ส่วนภาษีมรดก สนช.ขอเลื่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีมรดก และร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ออกไปเป็นวันที่ 18 ธันวาคมนี้ เนื่องจากมีเนื้อหาสำคัญที่ต้องพิจารณาละเอียดรอบคอบ อีกทั้งระเบียบวาระการประชุม สนช. วันนี้ (4 ธันวาคม)

+++ส่วนการแก้ไขปัญหาน้ำ  นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า วันที่ 8 ธันวาคมนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดนโยบายและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จะนำแผนการบริหารจัดการน้ำระยะเร่งด่วน ปี 2558 เข้าเสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาโครงการที่สามารถดำเนินการได้ หลังจากที่ ครม.ได้อนุมัติแผนบริหารจัดการน้ำปี 2558 ในวงเงิน 1.17 แสนล้านบาท โดยนำงบประมาณจัดสรรจากงบปกติ 6 หมื่นกว่าล้านบาทมาใช้ได้ทันที และอีก 5 หมื่นล้านบาทให้หารือกับสำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับน้ำเพื่อหาโครงการที่สามารถดำเนินการให้เสร็จภายใน 1 ปี "งานเร่งด่วนที่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จในปีเดียว คงเป็นโครงการเกี่ยวกับโครงการเก็บกักน้ำ โครงการแก้มลิงขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ทั่วประเทศ ระบบ กระจายน้ำ สถานีสูบน้ำไฟฟ้า ระบบป้องกันน้ำท่วม และอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กมูลค่าประมาณ 30-40 ล้านบาท/ แห่ง ส่วนใหญ่จะสร้างในภาคอีสาน เบื้องต้นใช้งบประมาณ 3 หมื่นกว่าล้านบาท และอีก 2 หมื่นล้านบาท ให้กรมน้ำอื่นๆ ไปดำเนินการ

+++วันนี้จะมีการแข่งขันฟุตบอลรายการพิเศษ ที่มีสุดยอดนักเตะระดับโลก เช่น ฟาบิโอ คันนาวาโร พาทริก ไคลเวิร์ต หลุยส์ ฟิโก้ ไมเคิล โอเวน ร่วมปะทะแข้งกันที่สนามของสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด  เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และร่วมกันจุดเทียนชัยถวายพระพร