รัฐบาล ประเมินทุกวันหลังประกาศเคอร์ฟิว ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มหรือไม่
การประกาศเคอร์ฟิวของรัฐบาล ห้ามประชาชนออกจากบ้าน ในเวลา 22.00-04.00 น. ซึ่งมีผลในวันนี้ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จะมีการประเมินข้อกำหนดที่ประกาศล่าสุดนี้ ทุกวัน ตลอด 1 สัปดาห์ หากตัวเลขผู้ป่วยยังเพิ่มขึ้นอีก มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการพิจารณาประกาศเคอร์ฟิว ตลอด 24 ชั่วโมง แต่หากตัวเลขลดลง อาจจะคงหรือผ่อนคลายมาตรการ
การประกาศเคอร์ฟิวครั้งนี้ ถือเป็นข้อกำหนดฉบับที่ 2 ในการประกาศตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังมีข้อกำหนดฉบับที่ 1 ออกมา ก่อนหน้านี้แล้ว ให้ปิดสถานที่ต่างๆ แต่ยังพบว่าประชาชนยังทำกิจกรรมรวมตัวกัน ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ได้ ซึ่งบางจังหวัดผู้ว่าราชการจังหวัดได้ใช้อำนาจออกคำสั่งห้ามประชาชนออกจากเคหสถานไปบ้างแล้ว จึงมีการพิจารณาในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 โควิด-19 (ศบค.) เมื่อวานนี้ นายกฯ เห็นว่า ควรจะประกาศทั่วราชอาณาจักรเพื่อควบคุมโรคให้ได้ เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นที่หลักร้อยทุกวัน รัฐบาลไม่อยากใช้ยาแรงแต่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องดำเนินการเช่นนี้ เพื่อลดการรวมกลุ่มของประชาชน
สำหรับบุคคลบางกลุ่มที่ยังจะต้องออกมาทำงานในช่วงเวลาประกาศเคอร์ฟิว โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติงานทางด้านการแพทย์ การธนาคาร ขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตทางการเกษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือทางการแพทย์ หนังสือพิมพ์ น้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุภัณฑ์ หรือกลุ่มคนที่ทำงานเป็นกะ เพียงแต่ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ต้องมีเอกสารรับรองจากหน่วยงานต้นสังกัด ถึงความจำเป็นในการเดินทาง ส่วนผู้ที่เจ็บป่วย มีข้อยกเว้นเช่นกัน ส่วนคนที่ไม่มีเหตุจำเป็น แต่ยังออกจากเคหสถาน มีโทษตามที่กำหนดไว้คือ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท
สำนักวิจัยฯกรมชลประทาน ผลิตเจลและสเปรย์แอลกอฮอล์ใช้เอง
นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามออกมาตรการต่างๆ เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายก็ตาม นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เห็นความสำคัญในการป้องกันเจ้าหน้าที่ของกรมชลประทาน ที่จำเป็นต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจหลัก ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการน้ำ การช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้ง ล้วนมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้สั่งการให้สำนักวิจัยและพัฒนา ดำเนินการผลิตเจลล้างมือและสเปรย์แอลกอฮอล์ ไว้แจกจ่ายให้กับสำนัก กอง ต่างๆ ของกรมชลประทาน
ทั้งนี้ ฝ่ายวัชพืช ส่วนวิทยาศาสตร์ฯ สำนักวิจัยและพัฒนา เป็นหน่วยงานที่มีแอลกอฮอล์เป็นวัตถุดิบ จึงได้นำแอลกอฮอล์ 99.99 % ที่มีมาลดความเข้มข้นลงเหลือ 70 % พร้อมเติมส่วนผสมของว่านหางจระเข้ เพื่อให้เจลแอลกอฮอล์มีกลิ่นอ่อนลง และยังมีคุณสมบัติที่ช่วยถนอมมือผู้ใช้อีกด้วย จนสำเร็จได้ผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ว่านหางจระเข้ ขนาด 700 มิลลิลิตร และสเปรย์แอลกอฮอล์ขนาด 10 มิลลิลิตรออกมา โดยจะดำเนินการผลิตเพิ่มให้มากขึ้น เพื่อส่งมอบให้กับสำนัก กอง ต่างๆ นำไปแจกให้เจ้าหน้าที่กรมชลประทาน เพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
วธ.ออกประกาศ งดจัดงานสงกรานต์ในทุกระดับ
การสกัดการแพร่ระบาดของดไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ได้ออกเทศกาลประเพณีสงกรานต์ ดังนี้
1) งดเว้นการจัดงานสงกรานต์ในทุกระดับ
2) งดเว้นการเดินทางกลับภูมิลำเนา หากต้องการรดน้ำขอพรญาติผู้ใหญ่ หรือแสดงความกตัญญูกตเวที หรือแสดงความปรารถนาดีต่อกัน ควรใช้การสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์ หรือช่องทางสื่อสังคมออนไลน์
3) งดการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก หรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค โดยเด็ดขาด
และ4) เพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ ให้ปฏิบัติเฉพาะภายในครอบครัวเท่านั้น เช่น สรงน้ำพระพุทธรูปที่บ้าน รดน้ำขอพรญาติผู้ใหญ่ที่บ้านโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของญาติผู้ใหญ่ที่สูงอายุ และปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ประกาศฉบับดังกล่าวมีผลตั้งแต่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
รัฐบาลท้องถิ่นของญี่ปุ่น ต้องเตรียมเตียงในรพ.สำหรับผู้ป่วยวิกฤต
สำนักข่าวเกียวโดและหนังสือพิมพ์ไมนิชิว่ารัฐบาลกลางในกรุงโตเกียว ญี่ปุ่น มีคำสั่งไปยังรัฐบาลท้องถิ่นของพื้นที่ซึ่งมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 ในระดับวิกฤต ให้จัดสรรเตียงในโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยวิกฤตเท่านั้น ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง หรือไม่แสดงอาการ ให้กักตัวที่โรงแรมซึ่งทางการจัดเตรียมไว้หรือกักตัวภายในบ้านพักของตัวเองและต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอของบุคลากรทางการแพทย์
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลญี่ปุ่น เพิ่มประเด็นถกเถียงในสังคม เกี่ยวกับศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์และความพร้อมของระบบสาธารณสุขในประเทศว่าสามารถรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นไม่หยุดได้มากน้อยเพียงใด ท่ามกลางเสียงเรียกร้องมากขึ้นให้นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข
ญี่ปุ่น ห้ามชาวต่างชาติรวม 73 ประเทศ เข้าประเทศ รวมไทย-จีน
รัฐบาลญี่ปุ่น ห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศเพิ่มเติม ประกอบด้วยอังกฤษ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ จีน และ ไทย ทำให้ขณะนี้ญี่ปุ่น ห้ามชาวต่างชาติจาก 73 ประเทศทั่วโลกเข้าประเทศเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ญี่ปุ่นยังอนุญาตให้ชาวญี่ปุ่นหรือผู้มีถิ่นพักอาศัยถาวรในญี่ปุ่นเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้ แต่จะต้องถูกกักตัวเฝ้าระวัง 14 วัน ในวันนี้ ญี่ปุ่น มีผู้ป่วยรายใหม่ 235 คน ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 2,617 คน เสียชีวิต 74 ราย แบ่งเป็น 63 รายในประเทศและอีก 11 ราย เป็นผู้โดยสารเรือสำราญไดมอน ปรินเซส
สำหรับกรุงโตเกียว เป็นพื้นที่มีพบการระบาดของโรคโควิด-19 มากที่สุด มีผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 684 คน รัฐบาลกรุงโตเกียวจึงปิดโรงเรียนไปจนถึงเดือนพฤษภาคมนี้ ทางการญี่ปุ่นเตือนว่าตัวเลขผู้ป่วยใหม่จะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ถ้าประชาชนไม่ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่รัฐบาลรณรงค์ในขณะนี้
แฟ้มภาพ