ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.วันศุกร์ที่ 3 เมษายน 2563

03 เมษายน 2563, 07:27น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.วันศุกร์ที่ 3  เมษายน  2563



หมอยง เผย นำพาสมาของผู้ป่วยที่ีหายแล้ว เป็นยารักษาโควิด-19



          นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญไวรัส จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  โพสต์ข้อความเช้าวันนี้ ถึงแนวทางรับมือเชื้อไวรัส โคโรนา (โควิด-19)  มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า รัฐบาลจึงต้องออกมาตรการ ต่างๆออกมา เป็นขั้นเป็นตอน เพราะจะต้องต่อสู้อีกยาวนาน และจะต้องให้มีผลอีกด้านหนึ่งน้อยที่สุด ที่ทุกคนจะต้องอยู่ได้ บนความเอื้ออาทรต่อกัน ช่วยเหลือกันและกันในยามยากลำบาก



          การชะลอการติดเชื้อ ประชากรให้น้อยที่สุด ซื้อเวลาให้นานที่สุดเพื่อการ รอยาที่มีประสิทธิภาพสูง หลังการศึกษาและค้นคว้า ก็น่าจะมียาที่มีประสิทธิภาพสูง  โรคนี้เป็นโรคใหม่ ยาที่ใช้รักษาขณะนี้ จึงใช้ยาที่โยงมาจากยารักษาไวรัส ชนิดอื่น เช่ นยารักษาโรคเอดส์ ยารักษามาลาเรีย ยารักษาไข้หวัดใหญ่ ถูกนำมาใช้  ดังนั้นประสิทธิผล จึงยังไม่ได้ตามเป้าหมาย เรายังต้องการยาที่รักษาโรคนี้โดยตรง ที่มีประสิทธิภาพสูง



          การพัฒนาจนได้ยาจำเพาะกับโรคนี้ จะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ในการศึกษา ตั้งแต่สัตว์ทดลอง ความปลอดภัย และประสิทธิผลของยา  เราหวังว่าคงจะมียาที่มีประสิทธิภาพสูงมาใช้ในเร็วๆนี้ เพราะทุกคนร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว การใช้พลาสมาของผู้ป่วย ที่หายแล้วมาใช้รักษา ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง เพราะผู้ป่วยที่หายแล้วจะมีภูมิต้านทานโรค เปรียบเสมือนเซรุ่มจำเพาะกับโควิด-19 สิ่งนี้เราสามารถทำได้เองโดยสภากาชาดไทย



          สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่จะมาควบคุมการระบาดของโรคนี้ได้ คือวัคซีน  เราคาดว่าน่าจะมีวัคซีนใช้อย่างเร็วก็ต้นปีหน้า และวัคซีนที่จะผลิตขึ้นมาจะต้องมีมากเพียงพอให้ได้ครึ่งหนึ่งของ ประชากรโลก ดังนั้นในขณะนี้เพื่อลดความสูญเสียให้น้อยที่สุดของ โควิด-19 ก็คือ ลดจำนวนผู้ป่วยให้น้อยที่สุดให้อยู่ในระดับที่ระบบสาธารณสุขของประเทศไทยรองรับได้   



          สิ่งสำคัญที่จะต้องทำ คือค้นหาผู้ป่วยผู้ติดเชื้อให้ได้เร็วที่สุด และควบคุมพร้อมทั้งรักษา ไม่ให้ไปติดผู้อื่น เฝ้าระวังผู้สัมผัส ในผู้ที่รักษาหายแล้ว เชื้อไวรัสจะยังไม่หมดทันที ผู้ป่วยจะต้องเข้าใจว่าสภาพร่างกายหายแล้วแต่อาจจะยังไปติดผู้อื่นได้ ทำไมเราให้ผู้ป่วยที่หายแล้ว ต้องเก็บตัวอีกอย่างน้อย 14 วัน เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าจะได้ไม่ไปแพร่กระจายสู่คนอื่น



          ปัจจุบันปัญหาใหญ่อีกประการหนึ่ง คือผู้ที่มีอาการน้อยทุกคน ก็อยากอยู่โรงพยาบาล ถ้าได้รับตรวจพบเชื้อ จึงเป็นปัญหาใหญ่ของจำนวนเตียงผู้ป่วยที่มีอาการน้อย เราจึงต้องเตรียม cohort ward อาจเป็นโรงพยาบาลจำเพาะ หรือโรงพยาบาลสนาม  ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นไม่มาก เพื่อแยกตัวออกมาจากสังคม ในการลดการแพร่กระจายของโรค



เคอร์ฟิวทั่วประเทศ เริ่มวันนี้



          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ออก “ข้อกำหนดฉบับที่2”มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ



นายกฯสั่งชะลอคนต่างชาติเข้าไทย ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่ม 104 ราย



           น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.แถลงสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประจำวันว่า วันนี้มีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 505 คน ผู้ป่วยรายใหม่ 104 คน ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสม 1,875 คน  เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย ได้แก่



          รายที่ 1 ผู้ป่วยชาย อายุ 57ปี เดินทางกลับจากปากีสถานมาสุไหงโกหลก เสียชีวิตบนรถไฟ มีโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง มีบุคคลากรที่ทำงานบนรถไฟต้องกักตัว15 คน



          รายที่ 2 ชายไทย 77 ปี ชาวปัตตานีมีประวัติโรคถุงลมโป่งพองและเบาหวาน สัมผัสกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้



          รายที่ 3 ชายไทย 55 ปี ขับรถสาธารณที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางไปจ.สุรินทร์ แล้วกลับมากทม. เริ่มป่วยวันที่ 18 มีนาคม ต่อมาอาการเหนื่อยจึงรับการรักษารพ.ในกทม. เสียชีวิตวันที่ 1 เมษายน รวมยอดเสียชีวิตสะสม 15 ราย



          สำหรับผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 104 คน ได้แก่



          กลุ่มที่ 1 มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน 60 คน (สนามมวย 1 คน สถานบันเทิง10 คน กลับจากพิธีกรรมจากอินโดนีเซีย 10 คน สัมผัสใกล้ชิด 40 คน)



          กลุ่ม 2 ผู้ป่วยกลุ่มอื่น 36 คน มีบุคลากรสาธารณสุข 2 คน



          และกลุ่มที่ 3 อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 8 คน



         พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีมาตรการชะลอการเดินทางเข้ามายังประเทศไทยของคนต่างชาติและคนไทย ตั้งแต่วันที่ 2-15 เมษายน ยกเว้นคนที่ได้รับอนุญาตไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนคนที่จำเป็นต้องกลับมาต้องติดต่อกับสถานทูตและปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด



           กรมควบคุมโรคได้สำรวจประชาชน 77 จังหวัด 1.4 แสนคน ผ่านระบบออนไลน์ เรื่องมาตรการป้องกันตัวเอง พบว่า ใส่หน้ากากอนามัยร้อยละ 94.03 ล้างมือบ่อย ร้อยละ 90.47  น.พ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวลคือ การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร มีเพียงร้อยละ 64.81 เท่านั้น เราเป็นห่วงและอยากให้ช่วยตรงนี้ให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านข้อมูล มาตรการแก้ปัญหาโรคติดเชื้อโควิด-19 ระบุว่า จากการสำรวจการเดินทางของประชาชนในวันธรรมดาลดลงร้อยละ 20-30 ซึ่งไม่น่าพอใจ จึงขอความร่วมมือนายจ้าง ผู้ประกอบการ ให้พิจารณาปรับปรุงการทำงานเพื่อให้ลูกจ้างลดเดินทาง หรือลดความแออัด เพิ่มระยะห่าง ถ้ายังเปิดโรงงานและสถานประกอบการอยู่ ย่อมมีความเสี่ยง



           ยังมี 13 จังหวัดที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภาคเหนือได้แก่ จ.น่าน ลำปาง กำแพงเพชรและจ. พิจิตร ภาคกลาง ได้แก่ จ.ชัยนาท สิงห์บุรีและจ.อ่างทอง ภาคอีสาน ได้แก่ จ.บึงกาฬและจ.สกลนคร ภาคตะวันออก ได้แก่ จ.ตราด และภาคใต้ ได้แก่ จ.ระนอง พังงาและจ.สตูล



บุคคลใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีกักตัว



            หลังมีรายงานข่าวพบเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งเข้ามาทำหน้าที่ประสานงานกับศบค.ที่ทำเนียบฯมีอาการไอ มีไข้ต่ำๆและอ่อนเพลีย ผลปรากฏว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นรายที่ 2 ที่พบติดเชื้อและเข้าทำเนียบฯ ล่าสุดนายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะกรรมการและเลขานุการ ศบค. ซึ่งมาร่วมประชุมและทำงานที่ศบค.ต่อเนื่องได้ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว โดยผลตรวจ 2 ครั้ง ไม่พบติดเชื้อ แต่ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงได้กักตัวเองอยู่ที่บ้านแล้ว โดยทำงานประชุมผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ รวมถึงนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กักตัวสังเกตอาการที่บ้านมาแล้วกว่า 1 สัปดาห์ แต่ยังคงทำงานจากที่บ้านโดยตลอด ด้านนายกฯได้ตรวจร่างกายและวัดอุณหภูมิเป็นประจำ ยังคงมีสุขภาพแข็งแรงดี ทำงานได้ตามปกติ



          ผบ.ทบ.สั่งมทภ.4ดูแลภูเก็ต



          พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ประชุมผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเร้นช์กับผู้บังคับหน่วยทั่วประเทศ เป็นห่วงบางพื้นที่ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ล่าสุดที่จ.ภูเก็ต มอบให้แม่ทัพภาคที่ 4 ประสานการสนับสนุนกับจังหวัดและตำรวจ ช่วยดูแลให้มาตรการป้องกันต่างๆของภาครัฐขับเคลื่อนไปภายใต้ความร่วมมือของประชาชนและนักท่องเที่ยว เพื่อมิให้การติดเชื้อขยายวงกว้างออกไปอีก



          คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตรายงานถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อล่าสุด มีผู้ป่วยแล้ว 87 คน เป็นรายใหม่ 12 คน หายกลับบ้าน 15 คน กำลังรักษาอยู่ 72 คน อาการรุนแรง 1 คน สำหรับผู้ป่วยที่พบเพิ่มวันนี้ เป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงใน ซ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ เช่นเดิม ส่วนจังหวัดยะลา,สตูล,ใช้มาตรการสูงสุดห้ามเข้าออกข้ามเขตจังหวัด



           ส่วนที่จังหวัดขอนแก่น เจอรายที่4หญิงวัย70ปี โดยเริ่มมีอาการเมื่อวันที่ 27 มีนาคม จากนั้นอาการทรุดหนักลงและเข้ารับการรักษาที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ผลตรวจรอบแรกพบติดเชื้อ จากนั้นถูกส่งต่อรักษาที่รพ.ขอนแก่นผลตรวจยืนยันชัดเจน



ศาลสั่งจำคุกวัยรุ่น 18 คน 4 เดือน มั่วสุม-เสพยา



           นายประยุทธ เพชรคุณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 เมษายน ศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา ได้มีคำพิพากษาคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.สายลม แก้วดี กับพวก รวม 18 คน เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ซึ่งตามฟ้องระบุพฤติการณ์โดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ตำรวจ สภ.ช่างใหญ่ จ.พระนครศรีอยุธยา และฝ่ายปกครอง ได้เข้าจับกุมวัยรุ่นที่จับกลุ่มมั่วสุมเสพยาเสพติดที่แพปลาสมหมาย ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต.ราชคราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลาง กัญชาแห้ง เคตามีน ยาอี และอุปกรณ์การเสพ



          ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.ช่างใหญ่ ได้คุมตัวจำเลยทั้งหมดพร้อมสำนวนคดี ส่งให้อัยการพิจารณา ก่อนมีการยื่นฟ้องต่อศาลแขวงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดจริง จึงพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 เเละ 2 ฐานร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้จำคุก 1 เดือนโดยไม่รอการลงโทษ ส่วนจำเลยที่ 3-18 นอกจากความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมชุมนุม ศาลยังสั่งให้จำคุกฐานเสพยาเสพติด เป็นเวลา 3 เดือน รวมโทษจำคุก 4 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ  นับเป็นคดีแรกที่ศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้ว ในกรณีการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในช่วงที่มีการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19



          ส่วนที่จ.ตาก ทหารจากกรมทหารราบที่ 4 อ.แม่สอด จ.ตาก ร่วมกับตำรวจ สภ.แม่สอด ฝ่ายปกครอง เข้าควบคุมรถบัสโดยสาร ทะเบียน 16-0029 กรุงเทพมหานคร ภายในรถมีแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ประมาณ 70 คน ทั้งหมดกำลังเดินทางผ่านจุดตรวจความมั่นคง เส้นทาง อ.แม่สอด-อ.เมืองตาก บ้านห้วยหินฝน ต.แม่ปะ อ.แม่สอด ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ตาก ฉบับที่ 9/ 2563 เรื่อง มาตรการป้องกันควบคุมโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 จ.ตาก ลงวันที่ 1 เมษายน 2563 ที่ให้ระงับการเดินรถโดยสารประจำทางหมวด 1 หมวด 4 จ.ตาก หมวด 2 หมวด 3 และรถโดยสารไม่ประจำทาง รวมถึงรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ที่เคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวโทษกรณีการฝ่าฝืนดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2528 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



          เช่นเดียวกับที่จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.อกนิษฐ ด่านพิทักษ์ศาสน์ ผกก.สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต นำกำลังเข้าทลายปาร์ตี้มั่วสุมเสพยาเสพติดในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังจากได้รับแจ้งว่ามีการจัดปาร์ตี้กันซึ่งเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และฝ่าฝืนประกาศของ จ.เก็ต ตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยพบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 9 คน และชาวไทย 5 คน รวม 14 คน พร้อมของกลาง สุราหลายขวด โคเคน น้ำหนักประมาณ 0.94 กรัม กัญชาแห้งอัดแท่ง น้ำหนักประมาณ 2.16 กรัม จึงคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง



ตม.ลุยจับขายหน้ากากอนามัย 2 หมื่นชิ้น เกินราคา



               พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมคณะ เเถลงข่าวกรณีตำรวจสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการค้าภายใน ร่วมกันเข้าจับกุมผู้ต้องหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคา ในพื้นที่ กทม.ย่านเขตบางแค และเขตหนองแขม ยึดของกลางไว้ได้รวมกว่า 20,250 ชิ้น และกล่องกระดาษเปล่า 200 กล่อง แจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฯ จงใจทำให้ราคาต่ำเกินสมควร หรือสูงเกินสมควร หรือทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้า (หน้ากากอนามัย) ส่วนอีกคดี จับกุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางหน้ากากอนามัย 4,650 ชิ้น แจ้งข้อหาเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งข้อมูล ต้นทุน ราคาซื้อ จำหน่าย ปริมาณคงเหลือ ปริมาณผลิต ปริมาณการจำหน่ายรายวัน และ จำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคาสูงเกินสมควรตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฯ



 

ข่าวทั้งหมด

X