นายกรัฐมนตรี ประกาศเคอร์ฟิวทั่วราชอาณาจักร เริ่มพรุ่งนี้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก

02 เมษายน 2563, 18:11น.


          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกประกาศข้อกำหนดฉบับที่ 2 ตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โดยมีสาระสำคัญ คือ ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหะสถานเวลา 22.00-04.00 น. เว้นแต่มีความจำเป็น หรือเป็นผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ การธนาคาร การขนส่งสินค้า อุปโภคบริโภค ผลผลิตทางการเกษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ หนังสือพิมพ์ การขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง การขนส่งพัสดุภัณฑ์ การขนส่งสินค้าเพื่อนำเข้าหรือส่งออก การขนย้ายประชาชนไปสู่ที่เอกเทศเพื่อกักกันตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ การเข้า-ออกเวรทำงานผลัดกลางคืนตามปกติ หรือเดินทางไปยังท่าอากาศยาน โดยมีเอกสารรับรองความจำเป็นและมีมาตรการป้องกันโรค หรือเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติตามข้อกำหนด หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีออกนอกประเทศไม่ได้ให้จัดสถานที่ที่มีความเป็นเอกเทศเพื่อกักตัว



           หากจังหวัด พื้นที่ หรือสถานที่อื่น มีเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาที่เข้มงวดเคร่งครัดกว่ากำหนดนี้ ให้ปฏิบัติตามคำสั่งนั้น



           ในกรณีที่สามารถเคลื่อนย้ายบุคคลใด ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเพื่อออกไปนอกราชอาณาจักรได้ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร จัดหาสถานที่ควบคุมหรือกักกันบุคคลนั้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนด โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 15 เมษายน 2563



           นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังขอความร่วมมือให้ทุกคน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” เพื่อลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ที่มีการทำงานหนัก เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ยืนยันว่าเรามียาที่จำเป็นในการรักษาอย่างเพียงพอ และมีแผนการจัดหาเพิ่มเติมจากต่างประเทศ มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องเตียงสำหรับผู้ป่วยอาจเพิ่มขึ้น โดยผู้ป่วยด้วยโรคนี้ รัฐบาลถือว่าเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน จึงจะมี 3 กองทุน (กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนรักษาพยาบาลประกันสังคม และกองทุนรักษาพยาบาลสวัสดิการข้าราชการ) มารับผิดชอบค่าใช้จ่าย 



           นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า จากผลการดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ สถานการณ์ขณะนี้ อยู่ในระดับที่ยังสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ คือ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวัน เฉลี่ยแล้วอยู่ในอัตราไม่ถึงร้อยละ 20  โดยเป้าหมายร่วมกันของเรา คือ การขจัดโรคภัยและเชื้อร้ายนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด และทุกคนปลอดภัย ซึ่งจะต้องมีการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างไม่ลดละ ต้องบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ อย่างเข้มงวด อย่างต่อเนื่อง และเหมาะสม จึงขอให้ประชาชนทุกคนร่วมมือปฏิบัติตนตามมาตรการแยกตัวอยู่บ้าน เพื่อลดภาระของทีมแพทย์และพยาบาล ขอให้ทุกคนมั่นใจว่า จะทำทุกทาง เพื่อที่จะนำพาประเทศของเรา ก้าวข้ามเวลาแห่งความยากลำบากนี้ไปให้ได้ อย่างมีสวัสดิภาพ อย่างพร้อมเพรียงกัน ขอให้พวกเราสู้ ไปด้วยกัน ประเทศไทยต้องชนะ.



 



 



 



...

ข่าวทั้งหมด

X