*ผู้นำรัสเซียระบุจะไม่ตัดสัมพันธ์กับยุโรปและสหรัฐฯแม้จะบาดหมางเรื่องยูเครนก็ตาม*

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย แถลงนโยบายประจำปีต่อที่ประชุมรัฐสภา โดยมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์และมีผู้เข้าฟัง 1,100 คนในวันนี้ ในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่กล่าวหาว่ารัสเซียแทรกแซงวิกฤติในยูเครน แต่เขาชี้แจงว่า รัสเซียส่งเสริมอธิปไตยของประเทศที่เป็นอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียตทั้งหลายรวมถึงยูเครน 

ประธานาธิบดีปูติน กล่าวหาชาติตะวันตกว่า ฉวยโอกาสใช้วิกฤติในยูเครน เพื่อใส่ร้ายป้ายสีรัสเซียในทางเสียหาย และระบุว่า อ่าวไครเมียมีความสำคัญสำหรับรัสเซีย แต่รัสเซียจะไม่ตัดความสัมพันธ์กับชาติตะวันตกและสหรัฐฯ ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องระหองระแหงกันมาโดยตลอด เป็นผลพวงจากปัญหาขัดแย้งในยูเครน นายปูตินกล่าวว่า ชาติตะวันตกอาจจะใช้ข้ออ้างอื่นๆมาจำกัดการเติบโตของรัสเซีย ถ้าหากไม่เกิดประเด็นต่างๆเช่น กรณีอ่าวไครเมียและยูเครน นอกจากนี้ ผู้นำรัสเซียยังปฏิเสธคำกล่าวที่ว่า การคว่ำบาตรของชาติตะวันตกและสหรัฐฯและราคาน้ำมันที่ลดลงส่งผลให้เศรษฐกิจรัสเซียเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยนายปูตินระบุว่า รัสเซียอยู่ระหว่างการกำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ด้านนักวิเคราะห์หลายคนรู้สึกเบื่อหน่ายมากขึ้นเรื่อยๆกับแนวโน้มเศรษฐกิจของรัสเซียและกรณีรัฐบาลไม่ยอมปรับเปลี่ยนนโยบายในเรื่องวิกฤติของยูเครน แม้ว่าเศรษฐกิจรัสเซียจะเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยอยู่ในขณะนี้ เศรษฐกิจรัสเซียที่เสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้าเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรบวกกับราคาน้ำมันดิ่งลงและเงินรูเบิลอ่อนค่า ประธานาธิบดีปูติน ประกาศว่า รัสเซียยังเปิดกว้างและยินดีต้อนรับการลงทุนจากต่างชาติ นอกจากนี้เขากล่าวถึงประเด็นที่เงินรูเบิลไหลออกนอกประเทศกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ โดยกำชับให้มีการลงโทษพวกเก็งกำไรค่าเงินในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แต่เสนอละเว้นภาษีให้กับการโอนเงินรูเบิลกลับเข้าประเทศ และระงับการตรวจเช็คภาษี 3 ปีกับบริษัทที่มีประวัติดี