เมืองในเยอรมนีบังคับใช้ประชาชนสวมใส่อนามัยตลอดเวลาที่อยู่นอกบ้านเพื่อลดความเสี่ยงโควิด-19

          เมืองเจนาทางภาคตะวันออกของเยอรมนีเป็นเมืองแรกในประเทศที่ออกคำสั่งให้ประชาชนทั่วไปที่จะออกไปนอกบ้านต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยปิดบังจมูกและปาก โดยเฉพาะเมื่อต้องเข้าไปในร้านค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และตลอดการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อชะลอการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19

          ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐต่าง ๆ ทั่วประเทศเยอรมนีมีประกาศปิดโรงเรียนร้านอาหาร บาร์และห้ามการชุมนุมในที่สาธารณะ เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค แต่จำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่เมืองเจนาที่มีผู้ติดเชื้อ 119 คนจากประชากรประมาณ 110,000 คนมีการออกมาตรการเพิ่มเติมที่ระบุให้ประชาชนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหากไม่มีก็สามารถใช้ผ้าเช็ดหน้า หรือผ้าพันคอทดแทนได้

          เมื่อวันจันทร์ (30 มี.ค.) กระทรวงสาธารณสุขของเยอรมนี ได้ยืนยันถึงความสำคัญในการให้ประชาชนใช้หน้ากากอนามัยเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และสนับสนุนให้ประชาชนเย็บหน้ากากอนามัยที่ทำด้วยผ้าใช้เอง เนื่องจากขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลกรวมถึงเยอรมนีต่างก็ประสบปัญหาในแบบเดียวกันคือไม่มีหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ และขาดแคลนชุดและเครื่องมือในการป้องกัน การที่ประชาชนใช้หน้ากากอนามัยในแบบเดียวกับแพทย์ทำให้ปัญหาขาดแคลนยิ่งรุนแรงขึ้น โดยพบว่า มีบริษัทสิ่งทอหลายแห่งของเยอรมนีที่เปลี่ยนมาผลิตหน้ากากอนามัยเพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น

...