ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.
+++กิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทรคณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กล่าวว่า ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรง ตั้งพระทัยไว้ว่าจะเสด็จฯ ไปประกอบพระราช พิธีมหามงคล ที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย โดยจะเสด็จลงจากอาคารที่ประทับชั้น 16 อาคาร เฉลิมพระเกียรติ ในเวลา 10.30 น. แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของพระวรกาย จึงขอให้ประชาชนร่วมชื่นชมพระบารมีและเฝ้าฯ รับเสด็จ ในวันมหามงคลของคนไทยด้วย.
ด้าน ก.วัฒนธรรม (วธ.) นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม (วธ.) ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัด วธ. นายดนุชา สินธวานนท์ รักษาการรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) นำบุคคลในภาพพระราชกรณียกิจที่หายากในอดีต ร่วมแถลงข่าวโครงการเผยแพร่ภาพยนตร์ตามรอยพระราชกรณียกิจ 365 วันนี้ในอดีตและตามหาบุคคลในภาพยนตร์ และบุคคลในภาพพระราชกรณียกิจที่หายากในอดีต ภายใต้กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ขณะที่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ร่วมเทิดพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยการจัดสร้างตราไปรษณียากรที่ระลึก เป็นภาพพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยบรรยากาศโครงการชั่งหัวมัน ใน อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี สะท้อนถึงความใส่พระทัยที่ทรงมีต่อเกษตรกรเพื่อพัฒนาส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน โดยมีภาพทุ่งนา กังหันลม และโคนม ประกอบตราสัญลักษณ์ของโครงการ ผู้สนใจสามารถหาซื้อเป็นที่ระลึกได้ที่ไปรษณีย์ทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อทางออนไลน์ www.poste mart.com ได้ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. เป็นต้นไป ในราคาดวงละ 5 บาท เต็มแผ่น 10 ดวง ราคา 50 บาท ซองวันแรกจำหน่าย 13 บาท
+++วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 14 เวลา 13.30 น. มีวาระพิจารณาใช้หลักเกณฑ์ความอาวุโสร้อยละ 33 ในการพิจารณาแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ว่าควรให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มอาวุโส 33% ของตำแหน่งที่ว่างได้รับการแต่งตั้งเลื่อนขึ้นโดยอัตโนมัติ หรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งมีสิทธิพิจารณาปัจจัยอื่นประกอบ ซึ่งจะนำไปใช้เป็นเกณฑ์ในการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับสารวัตร ถึงรองผู้บังคับการ วาระประจำปี 2557
+++ความคืบหน้ากรณีติดตามจับกุมตัวนายนพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหารที่ 138/2557 ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท เบื้องสูง จ้างวานใช้ให้ผู้อื่นกระทำการร่วมกันทำร้ายผู้อื่น ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นว่า นายนพพรได้หลบหนีออกนอกประเทศไทยไปตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. เวลา 05.00 น.ความคืบหน้ากรณีติดตามจับกุมตัวนายนพพร พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. กล่าวว่า นายนพพร เดินทางจากด่านบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ไปประเทศกัมพูชา โดยเดินเท้าผ่านเส้นทางธรรมชาติ ซึ่งคาดว่าจะเดินทางต่อไปประเทศที่ 3 ทั้งนี้ ได้จัดชุดสืบสวนติดตามจับกุมนายนพพร 3 ชุด คือ โดยให้ พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. เป็นหัวหน้าของศูนย์สืบสวน และให้ พล.ต.ต.ชวลิต ประสพศิลป ผบก.น.5 เป็นหัวหน้าชุดสืบสวน บก.น.5 และชุดสืบสวน สน.วัดพระยาไกร เพื่อเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหา หากเดินทางกลับมาในประเทศไทยให้จับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
+++ส่วนวันนี้ จะมีการประชุมบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง หลังจากนายนพพร ศุภพิพัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร โดนออกหมายจับต้องติดตามว่า ที่ประชุมจะตั้งใครขึ้นมาจัดการปัญหา
+++ส่วนการขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มคดีทวงหนี้นั้น พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ได้ขออนุมัติศาลจังหวัดพระโขนง ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่ม 2 ราย คือ นายปรีชา ดาราไตร ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ และนายไพเชษฐ์ เมธีอริยะพงศ์ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่อุ้มผู้เสียหายไปเจรจา" และ มีผู้เสียหายไปแจ้งความไว้ที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมีการก่อเหตุทวงหนี้ในลักษณะเดียวกับพื้นที่ สน.พระโขนง และ สน.วัดพระยาไกร โดยวันที่ 3 ธ.ค. อาจจะมีการสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติมที่ บช.น.หากพบว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหาจริงก็จะมีการดำเนินคดีด้วย
+++ส่วนความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขบวนการส่วยน้ำมันเถื่อนนายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ นักธุรกิจค้าน้ำมัน หลังจากที่ได้นำเสนอข่าว 10 นายพล และตำรวจระดับ พ.ต.อ.ถึง สว. 50 คน พัวพันส่วยน้ำมันเถื่อนเสี่ยโจ้ ทำให้ 10 นายพลซึ่งส่วนหนึ่งมีตำแหน่ง ”ท่านรอง” และ ผบก. ต่างตรวจสอบข่าวว่าจะมีคำสั่งให้ตรวจสอบจาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร.หรือไม่โดยมีนายพล 3 นายที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เป็นการด่วน เพื่อไปหาผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้ทำการช่วยเหลือ อย่าให้พาดพิงถึงตนเอง ในขณะที่นายตำรวจส่วนหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่ภาค 9 คือ สงขลา สตูล ตรัง ยกเว้นพัทลุง ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับส่วยน้ำมันเถื่อน ได้ต่อสายถึงนายพล จ. ซึ่งมีตำแหน่งอยู่ใน สตช. และเคยอยู่ในพื้นที่ภาค 9 ให้เป็นผู้เคลียร์ เรื่องส่วยน้ำมันเถื่อน อย่าให้พาดพิงถึง เพราะต่างยอมรับว่าบัญชีรายชื่อที่เสี่ยโจ้ทำขึ้นเป็นของจริง ไม่ใช่การกลั่นแกล้ง
+++พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปัจจุบัน เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ทำหน้าที่เลขาธิการ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงประเด็นการปฏิรูปตำรวจ จะต้องพิจารณาถึงปัจจัยและองค์ประกอบหลายอย่างด้วยความรอบคอบ เนื่องจากประเทศไทยมีการปกครองในรูปแบบของรัฐเดี่ยว ไม่ใช่รัฐรวมอย่างในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่จะแบ่งการบริหารงานองค์กรตำรวจในแต่ละท้องถิ่นได้
+++คณะทำงานด้านการปฏิรูปตำรวจของ สนช. ได้มีแนวคิดให้แยกการบริหารราชการของกองบัญชาการที่สำคัญๆ และมีความใกล้ชิดกับประชาชน ซึ่งปัจจุบันมีกองบัญชาการในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติถึง 30 กองบัญชาการ โดยจะกระจายอำนาจให้กองบัญชาการเหล่านั้นสามารถบริหารจัดการภายในองค์กรของตนเอง โครงสร้างใหญ่ยังคงเหมือนเดิม คืออยู่ภายใต้บังคับบัญชาของสำนักนายกรัฐมนตรี และยังมีตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต่อไป เนื่องจากขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาพูดเรื่องการยุบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตอนนี้ทั้ง สนช., สปช. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่างมีคณะทำงานเสนอแนวคิดการปฏิรูปตำรวจ จากนี้ก็ต้องนำแนวคิดทุกฝ่ายมาหาข้อสรุปร่วมกัน โดย สปช.อาจจะเสนอ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญให้ร่างเป็นกรอบใหญ่ในรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ส่วน สนช.ก็จะออกเป็นกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องต่อไป
+++ศาลสั่งให้ นายมานพ พณิชย์ผาติกรรม บิดานายจักรกฤษณ์ หรือเอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม บุตรชาย อดีตนักแม่นปืนทีมชาติไทยซึ่งถูกลอบยิงเสียชีวิต และโดย พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม ภรรยาของเอ็กซ์ เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกัน ส่วนคดีที่พญ.นิธิวดีตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกับมารดาในคดีฆ่าและจ้างวานฆ่านายจักรกฤษณ์ ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิพากษาของศาลจังหวัดมีนบุรี จึงถือว่าจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์