กระทรวงมหาดไทยเสนอเพิ่มมาตรการเข้มข้นจังหวัดที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เปิดเผยว่า จังหวัดที่จะเพิ่มมาตรการเข้มข้นมีดังนี้ คือ กรุงเทพฯและปริมณฑล จ.ชลบุรี โดยเฉพาะเมืองพัทยา จ.ระยอง จ.อุบลราชธานี จ.สงขลา จ.ปัตตานี จ.ยะลา จ.นราธิวาส และจ.ภูเก็ต โดยนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ควบคุมการบริหารมาตรการและปรับวิธีกับจังหวัดเหล่านี้ เช่น การปิดชายหาด
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ เสนอนำเครื่องบินพาณิชย์เช่าเหมาลำไปรับคนไทยในอิตาลี โดยเชื่อมโยงการทำงานกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อหามาตรการดูแล ทั้งก่อนเดินทางกลับ ขึ้นเครื่อง และเดินทางถึงประเทศไทย โดยเฉพาะใบรับรองแพทย์อาจจะมีการผ่อนผันระยะเวลาให้เกิน 3 วันได้ ซึ่งมาตรการนี้เป็นมาตรการใหญ่อยู่ระหว่างการหารือวิธีการ พร้อมย้ำว่าเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางยังไม่มีการพูดคุย ขอให้รอรายละเอียดจากกระทรวงการต่างประเทศที่จะมีการประชุมในวันจันทร์ที่ 30 มีนาคม
ด้านกระทรวงกลาโหม เสนอเพิ่มจุดตรวจในกรุงเทพฯและปริมณฑลเป็น 377 จุด เพื่อสกัดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสฯ จึงขอให้ประชาชนเข้าใจเพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ เพราะจากนี้อาจจะทำให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจรเข้า-ออก กรุงเทพฯลำบากหรือติดขัดเพิ่มขึ้น
ส่วนกระทรวงพาณิชย์ เน้นย้ำเข้มข้นเรื่องการค้าปลีก ซึ่งหลังพูดคุยกับกลุ่มผู้ประกอบการเดลิเวอรี่ เช่น ไลน์แมน แกร็บ ยืนยันว่าจะไม่มีการขึ้นราคาในช่วงนี้ ส่วนเรื่องไข่ไก่ที่มีราคาแพง หากพบผู้ค้า ขายเกินราคากระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการตามกฎหมาย โดยราคาจากหน้าฟาร์ม 2.80 บาท สามารถตั้งราคาขายได้ไม่เกิน 3.50 บาท
นอกจากนี้ที่ประชุมมีการพิจารณาจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัยระดับชาติ เพื่อดูแลเรื่องหน้ากากอนามัย พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการบริหารกำหนดราคากลางสำหรับเวชภัณฑ์ป้องกันระดับประเทศ และตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตส่งออก เพื่อพิจารณาการส่งออกหน้ากากอนามัยให้เป็นธรรม โดยดูข้อกฎหมาย เป็นหลัก และคำนึงถึงประชาชนด้วย