ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น. ประจำวันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2563

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น. ประจำวันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2563

ปลัดกทม. ถวายหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์เจลแด่พระภิกษุสงฆ์

         กรุงเทพมหานครห่วงใยในสุขภาพของพระสงฆ์ และสามเณร เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) มีการแพร่กระจายและมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรุงเทพมหานครโดยสำนักพัฒนาสังคมจึงได้จัดทำหน้ากากอนามัยชนิดผ้า จำนวนทั้งสิ้น 1,800 ชิ้น และจัดทำแอลกอฮอล์เจล จำนวน 270 ขวด ถวายแด่พระสงฆ์ 9 วัด ได้แก่ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร วัดราชนัดดารามวรวิหาร วัดเทพธิดารามวรวิหาร วัดมหรรณพารามวรวิหาร วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร วัดสังเวชวิศยาราม วัดพรหมวงศาราม (วัดหลวงพ่อเณร) วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก และวัดทัศนารุณสุนทริการาม โดยจะถวายหน้ากากอนามัยวัดละ 200 ชิ้น และแอลกอฮอล์เจลวัดละ 30 ขวด

           นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในการถวายหน้ากากอนามัย จำนวน 800 ชิ้น พร้อมด้วยแอลกอฮอล์เจลล้างมือ จำนวน 120 ขวด แด่พระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร พระเทพวิสุทธิเวที เจ้าอาวาสวัดราชนัดดารามวรวิหาร พระวิสุทธิวราภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพธิดารามวรวิหาร และพระเทพสุตเมธี เจ้าอาวาสวัดมหรรณพารามวรวิหาร เขตพระนคร และในวันจันทร์ที่ 30 และวันอังคารที่ 31 มี.ค. 63 จะดำเนินการถวายให้ครบทั้ง 9 วัด

          ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 กรุงเทพมหานครมีความห่วงใยในทุกพื้นที่ รวมถึงศาสนสถานต่าง ๆ ซึ่งได้กำชับสำนักงานเขตในการประสานกับศาสนสถานเพื่อดำเนินการล้างทำความสะอาด ส่วนของสุขภาพพระสงฆ์นั้น กรุงเทพมหานครได้มีการจัดทำหน้ากากอนามัยชนิดผ้าและแอลกอฮอล์เจลเพื่อถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ ซึ่งจัดทำโดยคณะครูและวิทยากรโรงเรียนฝึกอาชีพของกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังได้มีการสอนทำหน้ากากอนามัยให้แก่ประชาชนในชุมชนเขตต่าง ๆ โดยมีผ้าและวัสดุอุปกรณ์ในการตัดเย็บให้ใช้ เมื่อจัดทำแล้วเสร็จสามารถนำหน้ากากอนามัยกลับไปใช้ในครัวเรือนได้ สำหรับหน้ากากอนามัยที่กรุงเทพมหานครโดยโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร 8 แห่ง สำนักงานเขตร่วมกับชุมชนทั้ง 50 เขต หน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร ศูนย์สร้างสุขทุกวัย ศูนย์กีฬา ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร ศูนย์บริการสาธารณสุข ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอื่นๆ สามารถผลิตได้ขณะนี้มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 133,836 ชิ้น (ข้อมูล ณ วันที่ 26 มี.ค. 63) กรุงเทพมหานครจะดำเนินการจัดทำหน้ากากอนามัยชนิดผ้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถนำไปแจกจ่ายแก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึงต่อไป

-อธิบดีกรมชลฯ สั่งเข้ม คุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทุกโครงการทั่วประเทศ

        จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลทำให้ประชาชนทุกภาคส่วน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ของกรมชลประทานได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้กำหนดมาตราการ ควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของรัฐบาล โดยประชุมผ่านระบบ Video conference ไปยังโครงการชลประทานทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจในการดำเนินงานและปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมชลประทาน พร้อมทั้งสร้างขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว  โดยมีแนวทางดังต่อไปนี้

-ห้ามเข้าไปยังพื้นที่เสี่ยง  

-ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

-ห้ามไปอยู่ในพื้นที่แออัด

-งดหรือชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด

-ผู้ที่มีโรคประจำตัวขอให้ Work Form Home

           พร้อมทั้งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกคนจัดทำ Time Line ของตนเองย้อนกลับไป 14 วัน เพื่อสำรวจความเสี่ยงที่อาจจะได้รับ และทำการบันทึกอย่างต่อเนื่อง และให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด เราจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

นายกฯกำชับทำงานให้เร็วรับมือโควิด-19

           การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19  หรือ ศบค. ที่ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานการประชุม โดยมี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ปลัดกระทรวงที่รับผิดชอบงาน 5 กลุ่ม และ ตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม  แต่ไม่มีระดับรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีเข้าร่วมเหมือนเมื่อวานนี้

           ก่อนการประชุมนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การประชุมวันนี้มีเพียงผู้รับผิดชอบกลุ่มงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เพราะต้องการประชุมกับฝ่ายปฏิบัติ เพื่อปรับให้รูปแบบการทำงานรวดเร็วขึ้น และนำไปสู่การปฏิบัติที่แท้จริง และได้สั่งการให้ นายวิษณุ  เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เข้าประชุมด้วยทุกครั้ง เพราะมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายและแนวทางปฏิบัติเพิ่มเติม รวมทั้งตัวแทนจากกระทรวงการคลัง  ต้องเข้าร่วมด้วย  เพราะมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อจะได้รับทราบแนวปฏิบัติตามที่สั่งการ ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ต่อไป

รองนายกฯ ประวิตร เร่งแก้ปัญหาปากท้องประชาชน กระทบจากโควิด-19

          หลังจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อโควิด-19 ที่รอการช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐบาลไม่ไหว จนต้องไปกู้เงินนอกระบบด้วยดอกเบี้ยสูง  และยังถูกหักหัวคิวเงินเยียวยาของรัฐบาล 5,000 บาท พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะสั่งให้เจ้าหน้าที่ไปแก้ไขในส่วนที่ยังล่าช้าอยู่

        ส่วนการประเมินสถานการณ์หลังออกประกาศ พระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ (พ.ร.ก. ฉุกเฉิน) พบว่า ประชาชนให้ความร่วมมือมากขึ้น  ซึ่งมาตรการที่ออกไปยังเป็นขั้นตอนการขอร้องให้ปฏิบัติตาม และไม่ได้เป็นการบังคับ พร้อมยืนยันว่า การเดินทางมาทำงานปกติ​แม้จะอายุเกิน 70 ปี ก็ตาม มาจาก สุขภาพร่างกายแข็งแรง​ แม้ตามข้อกำหนด​ตาม​  พ.ร.ก.​ ฉุกเฉิน​ ขอความร่วมมือผู้สูงอายุวัย 70ปี  อยู่ภายในบ้านพัก

          ส่วนกรณีที่บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลบันนังสตา​ จ.ยะลา ติดเชื้อ โควิด-19 ​จำนวน 3 คน ​ทำให้ทั้งโรงพยาบาลเหลือแพทย์เพียงคนเดียว​พล.อ.ประวิตร​ ชี้แจงว่า ศูนย์การจัดการการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19​ จะเข้าไปดูแล

รัฐบาลญี่ปุ่น ยังไม่จำเป็นต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน

          รัฐบาลญี่ปุ่นระบุในวันนี้ (27 มี.ค.) ว่าไม่จำเป็นที่จะต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน แม้ว่าเมื่อวานนี้ (26 มี.ค.) นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ จะมีความเห็นว่า ไวรัสโควิด-19 คือวิกฤตระดับชาติ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อแล้ว 1,387 คน เสียชีวิต 47 ราย และยังมีรายงานของคณะผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลญี่ปุ่น ที่คาดการณ์ว่าการแพร่ระบาดในญี่ปุ่น มีแนวโน้มสูงที่จะไปจนถึงระดับที่ไม่สามารถควบคุมได้ นายกรัฐมนตรีจึงให้มีการตั้งหน่วยงานขึ้นมาใหม่เพื่อจัดการวิกฤตการณ์โดยตรง ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์ว่าคือขั้นตอนเบื้องต้นในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่นายโยชิฮิเดะ ซูกะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ญี่ปุ่นยังไม่ได้อยู่ในภาวะที่จะต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

          หน่วยงานใหม่สำหรับไวรัสโควิด-19 ที่จัดตั้งขึ้นมาตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี จะทำให้จังหวัดต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ต้องดำเนินมาตรการในทิศทางเดียวกันเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ทั้งการกักตนเองในบ้าน ปิดโรงเรียน และสถานที่สาธารณะ ยกเลิกการจัดกิจกรรมที่มีผู้ร่วมงานจำนวนมาก

          ด้านกระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่นออกมาตรการใหม่เตรียมความพร้อมรับการเปิดภาคเรียนในเดือนเมษายน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ โดยนายโคอิชิ ฮางิอุดะ รัฐมนตรีศึกษาธิการญี่ปุ่นระบุว่า โรงเรียนทุกแห่งต้องให้ความสำคัญกับการระบายอากาศในห้องเรียน หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่ม และการสนทนาในระยะใกล้ ทั้งระหว่างนักเรียนและครู โดยทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย มีการตรวจวัดอุณหภูมิเป็นประจำ และล้างมือบ่อย ๆ ขณะที่ผู้บริหารสถานศึกษาจะต้องมีการหารือกับทางจังหวัดอย่างสม่ำเสมอ