บิล เกตส์ ขอให้รัฐบาลสหรัฐฯปิดเมืองเพิ่มอีกเพื่อสกัดโรค ชี้การแพร่ระบาดยังไม่ถึงจุดสูงสุด

          นายบิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ของสหรัฐฯและผู้ก่อตั้งมูลนิธิบิลและเมลินดาเกตส์ เพื่อทำงานด้านการกุศลได้ร่วมเวทีเสวนาทั่วโลกของซีเอ็นเอ็นเพื่อแสดงความเห็นในเรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมข้อเสนอแนะเรื่องแนวทางต่างๆที่รัฐบาลและประชาชนควรดำเนินการเพื่อลดการระบาด ระบุว่าการระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯในขณะนี้ยังไม่ถึงจุดสูงสุด พร้อมเสนอแนะให้รัฐบาลปิดเมืองเพิ่มเติมเพื่อลดการแพร่ระบาด ป้องกันพลเมืองอเมริกันไม่ให้ติดเชื้อโรค หรือเสียชีวิตเพิ่มขึ้น

        ก่อนหน้านี้ นายเกตส์ เคยเตือนทั่วโลกให้ระวังโรคระบาด ระหว่างการแสดงความเห็นในที่ประชุมว่าด้วยเทคโนโลยี การบันเทิง และการออกแบบ หรือเรียกย่อ ๆว่า TED ในปี 2558 ซึ่งนายเกตส์เตือนว่าภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดที่คนทั่วโลกจะต้องประสบในอนาคตไม่ใช่เรื่องสงครามนิวเคลียร์ แต่เป็นภัยคุกคามจากโรคระบาด พร้อมทั้งขอให้รัฐบาลทั่วโลกเพิ่มงบประมาณสนับสนุนเรื่องการเตรียมแผนรับมือกับโรคระบาด วัคซีน การพัฒนาวิธีการตรวจวินิจฉัยโรคและฝึกอบรมบุคลากรการแพทย์-พยาบาลให้พร้อม แต่ปัจจุบัน  ข้อเสนอแนะดังกล่าวยังไม่เป็นผล นายเกตส์กล่าวถึงการระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบันว่าเป็นเหมือนฝันร้ายที่เกิดขึ้นจริงๆ

         นายเกตส์กล่าวว่า หลายประเทศในเอเชียดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อป้องกันโรคระบาดได้ดีกว่าสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในเอเชียที่มีประสบการณ์จากการแพร่ระบาดของโรคซาร์สในปี 2546 เช่นประเทศจีนดำเนินการได้ดีมากในการสกัดโรคโควิด-19 เช่นการเข้าไปควบคุมสถานการณ์ตั้งแต่ระยะแรกๆที่มีตัวเลขผู้ป่วยไม่มาก ตรงกันข้าม สหรัฐฯดำเนินการอย่างล่าช้าและสับสนวุ่นวาย ไม่มีเอกภาพ เพิ่มเติมว่าสถานการณ์ในสหรัฐฯน่าจะดีกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ถ้ารัฐบาลสหรัฐฯเตรียมแผนรับมือกับโรคระบาดตั้งแต่เนิ่นๆ เหมือนกับบรรดาประเทศในเอเชียที่จัดการสถานการณ์ได้ดีที่สุดในตอนนี้สหรัฐฯมีผู้ป่วยสะสม 85,653 คน เสียชีวิต 1,290 ราย และหายป่วย 713 คน