ทันสถานการณ์โลก 06.30น.ประจำวันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม 2563

ทันสถานการณ์โลก 06.30น.ประจำวันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม 2563  

ยอดผู้เสียชีวิตในอิตาลี ขึ้นอันดับ 1 ของโลก จากโควิด -19

           ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคไวรัสโควิด-19 ในอิตาลี ที่มีผู้ป่วยสะสม 74,386 คนแต่ยอดผู้เสียชีวิตขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 7,503 ราย  โดยมีสเปนตามมาเป็นอันดับที่ 2  ส่วนจีน ที่หูเป่ย มีผู้เสียชีวิตลงมาเป็นที่ 3

           ยอดผู้เสียชีวิตในสเปนมีจำนวนมากกว่าจีนแล้วในวันนี้ (25 มี.ค.) หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขสเปน รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอีก 738 รายในรอบ 24 ชั่วโมง ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้นเป็น 3,647 ราย และยังเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่11 แล้ว และมีผู้ติดเชื้อสะสม 49,515 คน

          ทั้งนี้ จีนมีผู้ป่วยสะสม 81,661 คน เสียชีวิต 3,285 รายไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่สเปนยอดผู้ป่วยสะสม อยู่ในอันดับที่ 4 คือเป็นรองจากอิตาลี ที่มีผู้ป่วยสะสม 74,386 คนเสียชีวิต 7,503ราย และสหรัฐฯมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สะสม 65,174 คน เสียชีวิต 921 ราย และมีผู้ป่วยติดเชื้อหายแล้ว 361 คน

        กองทัพสเปนได้ขอความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากนาโต้ในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 เนื่องจากมีการเสียชีวิตและการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ คือการขาดเวชภัณฑ์สำหรับการทดสอบ การรักษาผู้ติดเชื้อ และการปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ โดยสเปนได้ร้องขอเครื่องช่วยหายใจ 450,000หมื่นชุด ชุดทดสอบอย่างรวดเร็ว 500,000 ชุด เครื่องช่วยหายใจ 500 ชุดและหน้ากากผ่าตัด 1,500,000 ชุด นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ยังขอความเห็นชอบจากรัฐสภาเพื่อยืดเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มอีกสองสัปดาห์คือไปจนถึงวันที่ 11 เมษายน หรือก่อนวันอีสเตอร์เพื่อชะลอการแพร่กระจายของไวรัส

          นางมาเรีย เฆซุส มอนเทโร โฆษกรัฐบาลสเปน ระบุว่า รัฐบาลตระหนักดีถึงความยากลำบากที่จะเกิดขึ้นเมื่อยืดเวลาสถานการณ์นี้ออกไป แต่มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อที่จะสามารถต่อสู้กับไวรัสจนกว่าจะได้รับชัยชนะ และสเปนอยู่ในช่วงชี้ขาด ในการตอบสนองต่อวิกฤตที่กำลังทดสอบสังคมสเปน

บุคลากรทางการแพทย์ในโรมาเนีย ติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น

          กระทรวงสาธารณสุขโรมาเนีย รายงานว่า โรงพยาบาลแห่งหนึ่งทางภาคเหนือของประเทศกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ของประเทศ ด้วยมีเจ้าหน้าที่ถูกตรวจพบติดเชื้อ 83 คน  ส่งผลทำให้กระทรวงสาธารณสุขสั่งปลดผู้อำนวยการโรงพยาบาล บกพร่องในการบริหารงาน ปัจจุบันโรมาเนียมีผู้ติดเชื้อสะสม 906 คน เสียชีวิตจากโรคระบาดใหญ่โควิด-19 แล้ว 17 ราย ในนั้นมีอยู่ 6 รายที่เสียชีวิตในโรงพยาบาลแห่งนี้ โดยบุคลากรทางแพทย์ที่ติดเชื้อ  83 คน แบ่งเป็นแพทย์ 34 คนและพยาบาล 49 คน ทำให้เจ้าหน้าที่จำนวนมากต้องอยู่ภายใต้มาตรการกักกันโรค

            ขณะที่โรงพยาบาลต้องปิดบริการเป็นเวลา 48 ชั่วโมง เพื่อฆ่าเชื้อโรค และคนไข้ราว 100 คนของโรงพยาบาล จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายไปยังสถานพยาบาลอื่นๆในภูมิภาค ด้านอัยการเผยว่ากำลังตรวจสอบว่าโรงพยาบาลทำผิดพลาดใดๆหรือไม่ก่อนหน้านี้  โรมาเนียประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัส โดยมีตำรวจและกองทัพบังคับใช้มาตรการดังกล่าวอย่างเข้มข้น

รัฐสภาสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจรับมือโควิด-19

           นายอีริค อูแลนด์ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า คณะผู้แทนเจรจาของรัฐบาลและวุฒิสภาสหรัฐฯ สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจแก่ประชาชนและภาคธุรกิจสหรัฐฯในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด

          นายอูแลนด์ ระบุว่านายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากของพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาจะแถลงต่อที่ประชุมสภาไม่นานหลังจากทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลง  

          เนื้อหาของร่างกฎหมาย คาดว่า จะมีการเผยแพร่ให้ประชาชนทราบช่วงบ่ายวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หลายฝ่าย คาดว่า จะรวมถึงงบประมาณ 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การโอนเงิน 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 98,553 บาท) โดยตรงให้กับชาวอเมริกันหลายล้านครอบครัว,เงินกู้ 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

          สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก งบช่วยเหลือกรณีว่างงาน 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯและงบสนับสนุนโรงพยาบาลจำนวน 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สหรัฐฯมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สะสม 65,174 คน เสียชีวิต 921 ราย และมีผู้ป่วยติดเชื้อหายแล้ว 361 คน

หุ้นสหรัฐฯ-ราคาน้ำมันพุ่งเป็นวันที่สอง

           ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 495.64 จุด  ปิดที่ 21,200.55 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 28.23 จุด (1.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,475.56 จุด แนสแดค ลดลง 33.56 จุด (0.45 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,384.30 จุด

          ส่วนราคาน้ำมันโลก สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 48 เซ็นต์ ปิดที่ 24.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 24 เซ็นต์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 27.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังสหรัฐฯมีแผนกดดันซาอุดีอาระเบีย ให้ระงับแผนเพิ่มกำลังผลิตน้ำมัน ซึ่งช่วยคลายความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาดท่ามกลางสงครามราคาระหว่างริยาดกับมอสโก

         ส่วนราคาทองคำในวันพุธ(25มี.ค.) ปิดลบแรง หลังจากหนึ่งวันก่อนหน้านี้ทำสถิติปิดบวกวันเดียวคิดเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 27.40ดอลลาร์ ปิดที่ 1,633.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์

วัยรุ่นเริ่มไม่ปลอดภัย หลังในสหรัฐฯพบเสียชีวิตแล้ว

          เจ้าหน้าที่แคลิฟอร์เนียเมื่อวันอังคาร(24มี.ค.) ร้องขอคนหนุ่มสาวทำตามคำเตือนด้านความปลอดภัยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่โควิด-19 หลังวัยรุ่นคนหนึ่งมีผลตรวจเป็นบวกและเสียชีวิตในเวลาต่อมา นับเป็นวัยรุ่นคนแรกที่เสียชีวิตในสหรัฐฯจากการติดเชื้อโควิด-19 แม้สาธารณสุขลอสแองเจลิส จะบอกว่าสาเหตุการตายนั้นจำเป็นต้องประเมินกันอย่างละเอียดอีกครั้ง แม้ผลตรวจเบื้องต้นบ่งชี้ว่ามีผลตรวจโควิด-19ออกมาเป็นบวก แต่บางทีอาจมีคำอธิบายอื่นของการเสียชีวิตครั้งนี้

           นายกาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เน้นย้ำว่าการเสียชีวิตของวัยรุ่นรายนี้ควรเป็นคำเตือนถึงทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบรรดาคนที่ติดเชื้อในแคลิฟอร์เนีย มีมากกว่าครึ่งที่อายุระหว่าง 18 ถึง 49 ปี ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียยังบอกด้วยว่าแม้อัตราคนชราที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อโควิด-19จะสูงกว่าวัยอื่นๆ แต่ไวรัสก็สามารถเล่นงานได้ทุกช่วงอายุ "คนหนุ่มสาวสามารถและจะได้รับผลกระทบจากไวรัส เป็นการเสียชีวิตที่น่าเศร้า และเป็นคำเตือนถึงทุกคนให้จริงจังกับเรื่องนี้