แพทย์ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 2 คน กักตัวบุคคลใกล้ชิด 25 คน

          สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ของประเทศไทย ในวันที่ 25 มีนาคม 2563  น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข  รายงานว่า

-ผู้ป่วยกลับบ้านได้ในวันนี้ 13 คน รวมกลับบ้านได้ 70  คน

-ผู้ป่วยรายใหม่ 107 คน เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ตั้งแต่ลำดับที่ 828-934  ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 934  คน

-พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 860 คน

-อาการหนัก 4 คน ทุกคนใส่ท่อช่วยหายใจ

          รายละเอียดสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 107 คน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม

กลุ่ม1.ผู้ป่วยติดเชื้อที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 27 คน ประกอบด้วย

-กลุ่มสนามมวย 4 คน เป็นพนักงานขับรถบขส. พักอยู่ที่กรุงเทพฯและสมุทรสาคร

-กลุ่มสถานบันเทิง 5 คน เป็นทั้งคนเที่ยว เจ้าของสถานบันเทิง นักดนตรี นักร้อง

-กลุ่มที่สัมผัสกับคนที่มีเชื้อก่อนหน้านี้ 14 คน เป็นบุคคลหลายกลุ่ม รวมทั้งตำรวจ ผู้ต้องขัง กลุ่มนี้พบในหลายจังหวัด เช่น จ.เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ชลบุรี ภูเก็ต และกรุงเทพฯ

-กลุ่มคนที่เข้าร่วมพิธีทางศาสนา 4 คน ใน จ.สงขลาและยะลา

กลุ่มที่ 2. ผู้ป่วยรายใหม่ 13 คน

-กลุ่มที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ 6 คน ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ จากประเทศอังกฤษ ฟินแลนด์ สหรัฐฯ และเยอรมัน

-กลุ่มที่ทำงานและอยู่ในสถานที่แออัด สัมผัสคนต่างชาติ  5 คน พนักงานบริษัท พนักงานนวด เจ้าหน้าที่สนามบิน

-แพทย์ 2 คน เป็นแพทย์พี่เลี้ยงใช้ทุนปีที่ 2 ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาล พบว่ามีอาการเล็กน้อย ในช่วงที่ยังไม่รู้ว่าติดเชื้อได้ทำงาน เข้าผ่าตัด และทานข้าวกับเจ้าหน้าที่ต่างๆ ทำให้มีบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ต้องพักงานและกักตัว รวม 25 คน เป็นทั้งหมอที่ร่วมผ่าตัดและบุคลากรทางการแพทย์

กลุ่มที่ 3. กลุ่มที่ผลจากห้องแล็บพบเชื้อและรอการสอบสวนโรค 67 คน

          สถานการณ์ขณะนี้ที่พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้น นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า เกินระยะที่ 2 ไปแล้ว แต่ยังรู้ถึงที่มาของการติดเชื้อ ส่วนระยะที่ 3 ต้องรอให้คณะกรรมการวิชาการ เป็นผู้พิจารณาตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์ก่อนที่จะประกาศ ไม่ว่าตอนนี้การระบาดจะอยู่ระยะใด แต่มาตรการเฝ้าระวังได้ยกระดับเกินระยะ 2 ไปแล้ว นอกจากนี้ ย้ำว่า คนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาต้องกักตัวเองที่บ้าน 14 วัน  

         นพ.ทวีศิลป์ ขอให้ผู้ป่วยที่ไปพบแพทย์บอกประวัติการป่วยและรายละเอียดทุกอย่างตามความจริง เพื่อให้แพทย์ระวังตัวและรักษาได้ถูกต้อง เว้นระยะห่างทางสังคม รวมถึงงดกิจกรรมสังสรรค์ทุกชนิด โดยกระทรวงได้สั่งให้สาธารณสุขจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พร้อมอาสาสมัครเพื่อไปทำความเข้าใจและให้ความรู้กับประชาชนแต่ละจังหวัดเกี่ยวกับโรคโควิด-19 แล้ว ส่วนผู้ที่ยังต้องออกจากบ้านไปทำงาน เมื่อกลับบ้านแนะนำให้เว้นระยะห่างทางสังคมกับคนในบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และแยกของทุกอย่างออกจากคนในบ้าน

        ด้านนพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า ตอนนี้ไทยมีผู้ป่วยสะสมโรคโควิด-19 เป็นอันดับที่ 32 ของโลก ส่วนสถานการณ์ในภูมิภาคอาเซียน ล่าสุด ประเทศลาวและเมียนมา เป็น 2 ประเทศที่เพิ่งพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศด้วย