ทันสถานการณ์โลก 06.30น.ประจำวันพุธที่ 25 มีนาคม 2563
จีนเริ่มเปิดกำแพงเมืองจีนให้เที่ยวชม เปิดมณฑลหูเป่ย วันนี้ แต่ยังปิดอู่ฮั่นถึง 8 เมษายน
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของประเทศจีน เปิดเผยว่า ตั้งแต่วัน 24 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ทางการจีนจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวไปชมกำแพงเมืองจีนที่บริเวณด่านปาต๋าหลิ่ง แหล่งท่องเที่ยวเลื่องชื่อแห่งหนึ่งของประเทศจีน หลังจากตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ลดลงต่อเนื่อง
แต่ยังปิดพิพิธภัณฑ์ พร้อมแนะนำนักท่องเที่ยวให้จองซื้อตั๋วผ่านระบบออนไลน์ก่อนเข้าไปชม แสดงรหัส QR Code เพื่อยืนยันว่ามีสุขภาพสมบูรณ์ สวมใส่หน้ากากอนามัยขณะเที่ยวชม และให้รักษาระยะห่างจากคนอื่นๆอย่างน้อย 1 เมตร เพื่อความปลอดภัย
ด้านรัฐบาลมณฑลหูเป่ย ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ทางภาคกลางของประเทศจีน เปิดเผยว่า ในวันนี้ มณฑลหูเป่ย จะยกเลิกมาตรการปิดเมืองทั่วทั้งมณฑล ยกเว้นเมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย ที่ยังปิดเมืองต่อไปจนถึงวันที่ 8 เม.ย.
WHOเตือนสหรัฐฯ จะกลายเป็นศูนย์กลางแพร่ระบาดของโควิด-19
องค์การอนามัยโลก เตือนว่า การที่จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้มีความเสี่ยงที่สหรัฐฯ จะกลายเป็นศูนย์กลางของโรค ดร.มาร์กาเร็ต แฮร์ริส โฆษกหญิงขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่าร้อยละ 40 ของผู้ป่วยใหม่อยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพบผู้ป่วยเป็นบริเวณกว้าง
ขณะนี้ (25 มี.ค.2563 เวลา 05.38 น.) ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อ 417,698 คนมีผู้เสียชีวิต 18,614 ราย สหรัฐฯ มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 53,268 คน เสียชีวิต 696 ราย ยังไม่มีผู้รักษาหาย ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า เราทุกคนไม่ควรสิ้นหวัง แม้ว่าโรคระบาดนี้จะใช้เวลา เพียง 67 วันทำให้มีผู้ติดเชื้อ 100,000คนทั่วโลก แต่ใช้เวลาเพียง 4 วันจาก 200,000คน ถึง 300,000 คน พร้อมยืนยันว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงการระบาดใหญ่นี้ได้
ปธน.สหรัฐฯ ระบุ ไวรัสโคโรนาไม่ใช่ความผิดของคนอเมริกันเอเชีย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่เคยเรียกโควิด-19 ว่า ‘ไวรัสจีน’ (Chinese virus) จนทำให้เกิดกระแสต่อต้าน และทำร้ายร่างกายคนอเมริกันเชื้อสายเอเชีย กลับมาแก้ไขคำกล่าวของตนเอง โดยระบุว่า การระบาดของไวรัสไม่ใช่ความผิดของคนเชื้้อสายเอเชีย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วประธานาธิบดีทรัมป์ เรียกไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่าไวรัสจีน ซึ่งทำให้รัฐบาลจีนไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังคงยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคำกล่าวที่แสดงถึงการเหยียดเชื้อชาติเพราะโรคนี้มีต้นกำเนิดจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน แต่องค์การอนามัยโลก เตือนว่า เป็นการบัญญัติศัพท์ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด นับตั้งแต่มีรายงานพบผู้ป่วยคนแรกในสหรัฐฯ ก็มีคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียถูกทำร้ายร่างกาย และถูกประณามอย่างรุนแรงมากขึ้น แต่ในระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว (24 มี.ค.) ประธานาธิบดี ระบุว่า การปกป้องชุมชนชาวอเมริกันเอเชียในสหรัฐฯ และทั่วทุกมุมโลกเป็นเรื่องสำคัญ การแพร่กระจายของไวรัสไม่ใช่ความผิดของพวกเขา
นอกจากนั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อป้องกันไม่ให้มีการกักตุนสินค้าและห้ามขึ้นราคาสินค้าที่จำเป็นต้องใช้ในการสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
พลเอกมาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของกองทัพสหรัฐฯ คาดว่า รถบรรทุกของทหารช่างสหรัฐฯจะไปถึงรัฐนิวยอร์ก และรัฐวอชิงตันในอีก 73 วันข้างหน้าหรือเร็วกว่านั้น เพื่อสร้างโรงพยาบาลสนาม แต่ละแห่งจะมีเตียงคนไข้ 248 เตียง ในจำนวนนี้เป็นเตียงคนไข้ไอซียู 48 เตียง แต่ละแห่งจะมีเครื่องช่วยหายใจ 11 เครื่อง
นอกจากนี้ กองทัพสหรัฐฯมีแผนจะจัดสร้างโรงพยาบาลสนามในพื้นที่อื่นๆด้วย แต่พื้นที่ 2 แห่งคือรัฐนิวยอร์กและรัฐวอชิงตัน มีผู้ป่วยมากที่สุดในสหรัฐฯ จึงต้องเร่งดำเนินการก่อสร้างโรงพยาบาลก่อนที่อื่นๆ
ด้านนายรอน เดซานทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ออกคำสั่งให้มีการกักกันตนเอง 14 วัน สำหรับนักเดินทางที่มาจากสนามบินในรัฐนิวยอร์กและรัฐนิวเจอร์ซี
อิตาลีอาจขยายเวลาล็อคดาวน์และปิดสถานที่ต่างๆ ต่อไป
ยอดผู้เสียชีวิตรายใหม่ในอิตาลีในวันอังคาร(24มี.ค.) อยู่ที่ 743 คน ถือเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 วัน หลังจากลดลงมา 2 วันติด เหลือ 651 คน ในวันอาทิตย์ (22 มี.ค.) และเหลือ 601 คน ในวันจันทร์ (23 มี.ค.) นับตั้งแต่ทำสถิติมีผู้ติดเชื้อตายวันเดียวมากที่สุดในโลกเมื่อวันเสาร์(21มี.ค.) ด้วยจำนวน 793 ศพ แต่หากมองอัตราของผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างเป็นทางการ เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ8 ถือเป็นระดับต่ำสุดที่นับตั้งแต่อิตาลีพบผู้เสียชีวิตรายแรกของประเทศเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พร้อมประเมินมาตรการที่ออกมาก่อนหน้านี้ได้ผลหรือไม่ และอาจจะขยายมาตรการออกไป
ราคาหุ้นสหรัฐฯปรับตัวสูงสุดในรอบ 87 ปี
ดัชนีอุตสาหกรรม ดาวโจนส์ ปิดตลาดทำสถิติสูงสุดในรอบ 87 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 1933 จากความหวังสภาคองเกรสจะเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรับมือผลกระทบวิกฤตโควิด-19
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 2,112.98 จุด ปิดที่ 20,704.91 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 209.93 จุด (9.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,447.33 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 557.18 จุด (8.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,417.86 จุด
นอกจากนี้วอลล์สตรีทยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่าเขาพร้อมที่จะทำให้ภาคธุรกิจและเศรษฐกิจกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งในช่วงกลางเดือนเมษายน
แนวโน้มที่สภาคองเกรสจะเห็นชอบแผนเยียวยา ส่งผลดีต่อ ราคาน้ำมันโลก สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 65 เซ็นต์ ปิดที่ 24.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 12 เซ็นต์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 27.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร(24มี.ค.) พุ่งแรง ปิดบวกวันเดียวคิดเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นเหตุให้ต้องปิดเหมืองทองคำ และได้แรงหนุนจากความเคลื่อนไหวรับมือผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤตโรคระบาดใหญ่ของเฟด โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 93.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,660.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
โปรตุเกส เริ่มส่งผู้โดยสารบนเรือสำราญเดินทางกลับประเทศ
กระทรวงกิจการภายในของโปรตุเกส เริ่มส่งกลับผู้โดยสารมากกว่า 1,000 คนบนเรือสำราญที่เทียบท่าเรือเมืองลิสบอน ในวันนี้ (24 มี.ค.) แม้ว่าจะมีผู้โดยสารคนหนึ่งมีผลการตรวจเป็นบวก โดยเรือเอ็มเอสซี แฟนตาเซีย เดินทางมาจากบราซิล ถึงลิสบอนเมื่อวันอาทิตย์ แต่ทางการโปรตุเกสไม่ยินยอมให้ลงจากเรือจนกว่าจะตรวจหาเชื้อโควิด-19 เสร็จสิ้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขโปรตุเกสรายงานว่า มีแต่ผู้โดยสารชาวโปรตุเกสที่เข้ารับการตรวจ จำนวน 39 คนซึ่งมีอยู่ 1 คนที่มีผลตรวจเป็นบวก และทั้งหมดไปกักตนเองที่บ้านพักตั้งแต่เมื่อวันจันทร์
ส่วนผู้โดยสารในกลุ่มสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร บราซิล และออสเตรเลีย จำนวนมากกว่า 3,000 คนอยู่บนเรือเพื่อรอส่งกลับ เนื่องจากโปรตุเกสจะเริ่มบังคับใช้มาตรการฉุกเฉินในวันพุธ (25 มี.ค.) ไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้าประเทศ
เรือสำราญเอ็มเอสซี แฟนตาเซีย ออกเดินทางจากริโอเดอจาเนโรเมื่อวันที่ 9 มีนาคม สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 4,363 คนและลูกเรือ 1,370 คน ระหว่างการเดินทาง เรือแวะที่เมืองเจนัวในอิตาลี ซึ่งเป็นประเทศในยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสมากที่สุด
เลื่อนจัดโอลิมปิก 2020ออกไปอีก 1 ปี
นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แถลงวันที่ 24 มี.ค. ให้เลื่อนการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกโตเกียว 2020 ออกไปอีก 1 ปี โดยระบุว่า เขาได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายโธมัส บัค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี เพื่อเสนอให้เลื่อนจัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกและพาราลิมปิก ที่มีกำหนดแข่งขันในวันที่ 24 กรกฎาคม-9 สิงหาคม นี้ออกไป โดยจะมีการศึกษาสถานที่จัดการแข่งขันใหม่อีกครั้ง ซึ่งประธานไอโอซีก็เห็นด้วย
แพทย์เผยคนมาเลเซียพบหมอช้า ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มรวดเร็ว
ดร.นูร์ ไฮชาม อับดุลลาห์ อธิบดีกรมอนามัยของมาเลเซียเปิดเผยว่า การเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ในมาเลเซียส่วนใหญ่เกิดจากการที่มารับการรักษาล่าช้าเกินไป โดยในการติดเชื้อที่มี 5 ขั้นตอน แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตมาโรงพยาบาลเมื่อพวกเขาอยู่ในขั้นตอนที่ 3 แล้ว สำหรับอาการป่วยระยะที่ 1 เป็นระยะที่ยังไม่มีอาการ ระยะที่ 2 คือ มีอาการแล้วแต่ยังไม่รุนแรง และระยะที่ 3 คือมีอาการปอดอักเสบบางรูปแบบ แต่ไม่ต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับออกซิเจน ขั้นตอนที่ 4 คือผู้ป่วยจะต้องได้รับการบำบัดด้วยออกซิเจนและขั้นตอนสุดท้ายที่เป็นขั้นตอนที่ 5 คือเมื่อผู้ป่วยไม่สามารถหายใจได้ดี และจำเป็นใช้เครื่องช่วยหายใจ โดยเมื่ออาการป่วยมาถึงขั้นที่ 4 สุขภาพจะหนักลงอย่างรวดเร็ว
อินโดนีเซียเลื่อนการสอบระดับชาติออกไปก่อน
นายนาเดียม มาการิม รัฐมนตรีศึกษาธิการอินโดนีเซีย ประกาศยกเลิกการสอบระดับชาติ ที่มีกำหนดจัดขึ้น 2 รอบ คือวันที่ 30 มีนาคม และ 20 เมษายนนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย คำประกาศนี้ยังมีขึ้นหลังจากที่อินโดนีเซีย รายงานว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกวันจนทำให้มีผู้ติดเชื้อถึง 686 คนเสียชีวิต 55 ราย จากสถานการณ์โรคระบาดทำให้หลายจังหวัดของอินโดนีเซียประกาศปิดโรงเรียน รวมถึงชวาตะวันตก ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ คือเกือบ 50 ล้านคน และกรุงจาการ์ตา ซึ่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเมืองหลวง