กักขังหนุ่มป้ายน้ำลายในบีทีเอส หลังผลตรวจไม่ติดเชื้อโควิด และจิตปกติ

24 มีนาคม 2563, 14:48น.


          ความคืบหน้าการดำเนินคดีหนุ่มวัย 32 ปีที่ใช้มือที่เปื้อนน้ำลายป้ายตามตำแหน่งต่างๆ ในลิฟต์บีทีเอสสนามกีฬา ศาลแขวงปทุมวันพิพากษาให้ลงโทษจำคุก 15 วัน และให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังที่สถานกักขังกลาง จังหวัดปทุมธานีแทน โดยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายเอกชัย (ไม่เปิดเผยนามสกุล) อายุ 32 ปี ก่อเหตุโดยอ้างว่ามีอาการป่วยทางจิต เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวันจึงควบคุมตัวไปตรวจทั้งอาการทางจิตและตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งวันนี้ทราบผลจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลตำรวจแล้วปรากฏว่าไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเป็นผู้มีสุขภาพจิตปกติ นายเอกชัยจึงให้การรับสารภาพ พนักงานสอบสวนจึงได้นำตัวส่งพนักงานอัยการเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลแขวงปทุมวัน เพื่อฟ้องคดีอาญาด้วยวาจา


         เบื้องต้นถูกดำเนินคดีในข้อหา ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ ให้ของแข็งตกลง ณ ที่ใด ๆ โดยประการที่น่าจะเป็นอันตรายหรือเดือดร้อนรำคาญแก่บุคคล หรือเป็นอันตรายแก่ทรัพย์ หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้ของโสโครกเปรอะเปื้อนหรือน่าจะเปรอะเปื้อน ตัวบุคคล หรือทรัพย์ หรือแกล้งทำให้ของโสโครกเป็นที่เดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 389 ท้ายคำฟ้องพนักงานอัยการได้ขอศาลได้โปรดลงโทษในอัตราสูงสุด เนื่องจากการกระทำผิดจะต้องมีความตระหนักถึงความปลอดภัยของส่วนรวม และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโดยเคร่งครัด เพราะอยู่ป็นช่วงแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  โดยศาลแขวงปทุมวันพิพากษาให้ลงโทษจำคุก 15 วัน และให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังที่สถานกักขังกลาง จังหวัดปทุมธานีแทน


...
ข่าวทั้งหมด

X