อธิบดีกรมการแพทย์ ยืนยันศพผู้เสียชีวิตไม่แพร่กระจายเชื้อ

24 มีนาคม 2563, 12:09น.



         จากที่ผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่มถึง 3 ราย ญาติของผู้เสียชีวิตรายหนึ่งโพสต์ข้อความว่าไม่มีวัดใดรับจัดงานศพ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ไม่ว่าตอนเสียชีวิตจะยังมีเชื้อโรคอยู่ในตัวหรือไม่ แต่ถ้าเสียชีวิตแล้วเชื้อโรคก็จะตายไปพร้อมกัน และจะไม่มีทางแพร่กระจายไปยังคนอื่น ซึ่งในกรณีผู้เสียชีวิตรายนี้ผลตรวจพบว่าไม่มีเชื้อนานแล้ว จึงขอทุกฝ่ายให้ร่วมมือช่วยกัน พร้อมแนะนำให้ประชาชนหมั่นออกกำลังกายและดูแลสุขภาพตัวเองเพื่อห่างไกลจากโรค พร้อมระบุว่าตอนนี้ได้แบ่งกลุ่มผู้ป่วยออกเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย



-ประเภทอาการทั่วไป, อาการปานกลาง และอาการหนัก



-ผู้ป่วยอาการทั่วไป



คือผู้ป่วยที่แทบไม่แสดงอาการใด รักษาได้ตามอาการปกติ จะให้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 2 วัน หากประเมินแล้วอาการดีขึ้นไม่น่ากังวลก็จะย้ายไปที่หอพักหรือโรงแรมที่จัดไว้จนครบ 14 วันแล้วให้กลับบ้าน



-ผู้ป่วยอาการปานกลาง



คือกลุ่มผู้มีโรคประจำตัวและมีความเสี่ยง จะให้ยาต้านไวรัสโรคเอดส์ 2 ชนิดทันที และจะให้นอนโรงพยาบาลจนครบ 14 วัน หรือจนหายดี ไม่มีเชื้อ และปอดทำงานเป็นปกติ



-ผู้ป่วยอาการหนัก



จัดเป็นผู้ป่วยที่ต้องให้เครื่องช่วยหายใจและยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งจะให้อยู่โรงพยาบาลจนกว่าอาการจะดีขึ้นเป็นปกติ



          การย้ายผู้ป่วยไปหอพักหรือโรงแรมที่จัดไว้จะเริ่มวันนี้วันแรก แต่จะใช้เฉพาะผู้ป่วยอาการไม่หนักที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลที่กรุงเทพมหานคร มาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 7 วันแล้วเท่านั้น ผู้ป่วยที่อยู่โรงพยาบาลในจังหวัดอื่นยังมีเตียงรองรับพอไม่ต้องย้าย



          ส่วนที่มีข่าวว่าสามารถคิดค้นวัคซีนมารักษาโรคได้ อธิบดีกรมการแพทย์ ยืนยันว่า ก่อนจะนำวัคซีนมาใช้กับคนต้องผ่านการทดลองในขั้นตอนต่าง ๆ ทั้งการทดลองในหลอดทดลอง, ทดลองในสัตว์ อย่างเร็วสุดที่จะนำมาใช้ได้คาดว่าต้องใช้เวลาอีก 6 เดือน ถึง 1 ปี ซึ่งไทยก็คิดค้นวัคซีนอยู่ด้วย ย้ำว่าตอนนี้ยังไม่มีแนวทางการรักษาโรคโควิด-19 ที่เป็นมาตรฐาน ทุกอย่างยังเป็นแค่รายงานการศึกษาวิจัย ในช่วง 10 วัน นี้ไทยก็ปรับเปลี่ยนแนวทางการรักษาให้สอดคล้องมากขึ้น อนาคตก็คงต้องปรับวิธีการรักษาเป็นระยะ



 




 

ข่าวทั้งหมด

X